1 คนสงสัย
สัมผัสสารกันบูดในปลาทูนึ่ง ทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง จริงหรือ
มีการโพสท์อ้างว่าเป็นแม่ค้าปลาทูนึ่ง โดยข้อความเตือนภัยเรื่องสัมผัสสารกันบูดในปลาทูนึ่ง ทำให้เป็นมะเร็งที่มือ ข่าวจริงหรือคะ
anonymous
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น

มะเร็ง

Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

ตามที่ได้มีการเผยแพร่แนะนำเรื่อง สัมผัสสารกันบูดในปลาทูนึ่ง ทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันมะเร

ที่มา

https://www.antifakenewscenter.com/ข่าวปลอม-อย่าแชร์-สัมผั/

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    อ่านแล้วช่วยกันแชร์ เพื่อความปลอดภัย สิ่งที่ขาดไม่ถึง พ่ออายุ60 กักตัวเองอยู่กับบ้านมา2-3เดือน ลูกสาวไม่ยอมให้ออกไปไหน เพราะความเป็นห่วงกลัวพ่อติดโควิด วันหนึ่งพ่อบอกลูกสาวอยากกินปลาทูทอด ลูกสาวจึงไปซื้อที่ตลาดมาให้ ผ่านมา6_7วันพ่อมีอาการไม่สบาย ลูกจึงพาพ่อไปตรวจ ปรากฎว่าพ่อติดโควิด ลูกจึง งง เพราะเก็บตัวพ่อมาตลอดไม่ให้ออกไปไหนเลย จึงเล่าทามไลให้หมอฟัง ผู้รู้จึงให้เหตุผลว่า อาหารที่วางขายตามตลาด ที่ไม่มีภาชนะปิดอย่างมิดชิด เชื้อที่ล่องลอยในอากาศ จึงสามารถลงมาจับตัวที่อาหารได้ ทุกชนิด อย่างเช่น ปลาทูทอด ที่ชื้อมาให้พ่อกิน ฉะนั้นอาหาร ขนม พืชผัก อย่าประมาท อย่าทานเลย ควรอุ่น หรือเวฟ ด้วยความร้อนทุกครั้ง ไม่ใช่ชื้ออาหาร ปุ๋บ เข้าปาก ปั๋บ โอกาส โชดดี ติดโคแน่ เตือนกันไว้นะครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สุขภาพทางเลือก
    โรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อไป ได้บุญ 🚫 1. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัวตับพัง ก็หากระเทียมสดมากินวันละ 10 กลีบ กินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว -------------------------- 🚫 2. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง(แมกนีเซียม)กินวันละ 4 ขีดและกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว(น้ำมันปลาลดการอักเสบได้)หรือจะชงโกโก้กินก็ช่วยได้ ------------------------- 🚫 3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้น และกินกระเทียม หอม พริกให้มากๆ ____________________ 🚫 4. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ 4 ชิ้นกินเมล็ดฝักทองวันละ 1 กำมือ(สังกะสี) -------------------------- 🚫 5. แพ้ฝุ่นละอองไรฝุ่น หาโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน ------------------------------ 🚫 6. โรค หืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่ กินหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน -------------------------- 🚫 7. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ 2 ขีด เช่น ปลาทู ปลาสวาย ปลาแซลมอน หรือปลากระป๋อง ------------------------- 🚫 8. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ ------------------------ 🚫 9. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อยๆ --------------------- 🚫 10. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ 3 ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า/เย็น. ------------------------- 🚫 11. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน กล้วยน้ำว้า หรือกระหล่ำปลีให้เยอะมาก ------------------------- 🚫 12. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทานเช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง น้ำขิง ชาขิง -------------------------- 🚫 13. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่นหรือถั่วลิสงวันละ 1 กำมือ ------------------------- 🚫 14. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือข้าวเหนียว ข้าวโพด กลอย กล้วยหอม และทูน่า --------------------------- 🚫 15. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ 4 ช้อนโต๊ะ(ได้แคลเซียมมาก) ------------------------ 🚫 16. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครง และหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้ ------------------------ 🚫 17. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อกโคลี หรือคะน้าวันละ 5 ขีด ------------------------ 🚫 18. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วงให้มากเพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี ------------------------- 🚫 19. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผลหรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกากจะเป็นการล้างพิษไปในตัว -------------------------- 🚫 20. เจ็บอกโรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอก ผลอโวคาโด เพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชา ให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มวันละถ้วย --------------------------- 🚫 21. ความดันสูง ต้องงดบุหรี่และความเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากิน หรือผักคึ่นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยควบคุมความดันให้ดีขึ้น ------------------------- 🚫 22. เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาล และกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อกโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอ และฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก โรงพยาบาลธรรมชาติ บอกต่อกันไป ได้บุญ... #สุขภาพทางเลือก.
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สารกันบูดที่อยู่บนผิวปลาทูนึ่ง หากสัมผัสโดนทำให้เป็นมะเร็งผิวหนัง
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ปลดล็อกกัญชา กัญชง ใช้ผลิตอาหารได้ มีผล 26 ก.พ. 2564
    #มอร์มูฟเป็นข่าว สายเขียวมีเฮ!!! หลัง อย.ปลดล็อคให้สามารถนำ 'กัญชา' มาผสมในอาหารได้ ก็เริ่มมีผู้ค้าสนใจ อย่างตลาดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นำร่องแจกใบกัญชาให้พ่อค้าแม่ค้าปรุงอาหารสำเร็จรูปขาย 📌 'ผัดกะเพราหมูผสมใบกัญชา' เป็นหนึ่งในเมนูอาหารกว่า 20 เมนู ที่ผู้ค้านำมาจำหน่าย วิธีทำใช้น้ำจากใบกัญชาแห้งที่นำมาต้ม แบ่งเป็นขวดละ 150 ซีซี ใช้ผสมต่อการผัด 1 กระทะ โดยร้านจะมีป้ายแจ้งส่วนผสมต่อผู้บริโภคอย่างชัดเจน พร้อมมีคำแนะนำกลุ่มที่ไม่ควรบริโภค เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ อนึ่ง ผู้ดูแลร้านบอกว่า การนำใบกัญชามาปรุงอาหารช่วยให้รสชาติอาหารดีขึ้น มีผู้บริโภคหลายคนทดลองแล้วกลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่หลายคนยังไม่มั่นใจ อย่างไรก็ดี นอกจากเมนูกะเพราหมูแล้ว ยังมีไข่เจียวใบกัญชาที่ใช้ใบกัญชาสดใส่ลงไป นอกจากนี้ยังมี ต้มจืดมะระ หมูฮ้อง ก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึงแกงเขียวหวานเนื้อ ปลาทูต้มเค็ม ล้วนใช้ใบกัญชาเป็นส่วนผสมทั้งสิ้น ผู้บริหารตลาดดังกล่าว ระบุว่า หลังจากที่รัฐบาลมีการปลดล็อก ตลาดได้ติดต่อ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาตในการปลูกอย่างถูกกฎหมาย ขอความอนุเคราะห์ใบกัญชามาใช้ในการประกอบอาหาร โดยเปิดให้ผู้ค้าที่สนใจสมัครเข้าร่วม ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยในช่วงวิกฤต COVID-19 มีผู้ค้าสนใจกว่า 10 ร้านค้า 📌 ใบกัญชาที่จะนำมาปรุงอาหาร ตลาดจะเป็นคนแจกจ่ายให้กับผู้ค้า โดยดูจากเมนูอาหารและปริมาณ ส่วนใหญ่ต่อการปรุงแกง 1 หม้อ หรือ 30 ถุง จะใช้ใบกัญชาไม่เกิน 10 ใบ ขณะที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถบริโภคได้ไม่เกินวันละ 5-8 ใบ ** ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อกกัญชากัญชงใช้ผลิตอาหารได้ มีผลตั้งแต่ 26 ก.พ.2564 และในวันที่ 5-7 มี.ค. จ.บุรีรัมย์ จะจัดมหกรรมกัญชากัญชง เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องกัญชากัญชงในทุกมิติ.
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false