2 คนสงสัย
ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้
วันนี้ (28 ม.ค.2566) จากที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรักษาโรคไซนัส ด้วยการใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูกทุกวัน ทำให้อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายขาดในที่สุด
พี่รหัสน้อง มายจุ้บจุ้บอุ้อิ้หุหิ้
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาไซนัสได้ จริงหรือ
    มีการแชร์กันในโลกออนไลน์ว่า ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูกสามารถรักษาโรคไซนัส หยอดไปเรื่อยๆจะทำให้หายขาดได้จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    กรมการแพทย์ เผยใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้
    วันนี้ (28 ม.ค.2566) จากที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรักษาโรคไซนัส ด้วยการใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูกทุกวัน ทำให้อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายขาดในที่สุดนั้น
    std46209
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูก รักษาโรคไซนัสได้
    วันนี้ (28 ม.ค.2566) จากที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการรักษาโรคไซนัส ด้วยการใช้น้ำปัสสาวะหยอดจมูกทุกวัน ทำให้อาการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายขาดในที่สุดนั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์และทางคลินิกที่น่าเชื่อถือรองรับ โดยน้ำปัสสาวะเป็นของเสีย หรือสารที่เป็นส่วนเกินของร่างกายที่ไตขับออกมา แม้ว่าจะมีสารต่าง ๆ อยู่มาก ทั้งยูเรีย เกลือแร่ แคลเซียม และโซเดียมคลอไรด์ รวมถึงสารอื่น ๆ แต่สารเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกินความต้องการของร่างกาย หากสะสมไว้มากเกินไปกลับจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น เกิดภาวะความดันโลหิตสูง น้ำท่วมปอด หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นต้น ร่างกายจึงขับทิ้งตามระบบ ดังนั้นหากนำกลับเข้าไปซ้ำอีก จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย หากต้องการรักษาโรค ประชาชนควรเข้ารับการรักษาอาการเจ็บป่วย หรือปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในโรงพยาบาลในพื้นที่ เพราะการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นวิธีการรักษาโรคที่ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพมากกว่าทางเลือกอื่น ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
    std48415
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false