1 คนสงสัย
อัจฉริยะ’ แจ้งจับ 3 นายตำรวจดังมือขวา ‘บิ๊กโจ๊ก’ เปิดเว็บพนัน ‘มาเก๊า888’ ตัวจริง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย ที่ตนมาร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ เป็นตำรวจระดับรองผู้บังคับการ ยศ พ.ต.อ. มี 2 คน สังกัดอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. และอีก 1 คน อยู่ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี โดยทั้ง 3 คน ได้ร่วมกันเปิดเว็บพนันออนไลน์ มีเวินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นเจ้าของเว็บและให้นอมินีดูแลแทน ส่วนตัวเองจะคอยเคลียร์หน้าเสื่อให้ และมีนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนได้นำพยานหลักฐานเรื่องเว็บพนันออนไลน์มาเก๊า 888 และเว็บเครือข่ายอื่นๆ มาให้กับ บช.สอท. นั้น ตอนนี้ได้พบความเชื่อมโยงไปถึงตำรวจทั้ง 3 นาย จึงมาแจ้งความให้เอาผิดเพิ่มเติม แต่ขอยังไม่เปิดเผยว่าหลักฐานดังกล่าวคืออะไร
นายอัจฉริยะ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ตำรวจทั้ง 3 นาย ยังเป็นชุดสืบสวนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เป็นชุดทำคดีอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีกับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์ผู้ต้องหาพนันออนไลน์ 140 ล้านบาทด้วย โดยเป็นระดับมือซ้ายมือขวาของบิ๊กโจ๊ก แสดงให้เห็นว่ามีการเลือกปฏิบัติ คนของตัวเองไม่จับกุม แต่ยังเอามาทำคดีอื่น โดยใช้วิธีสกปรก มีลิ่วล้อ
นายอัจฉริยะ ยังระบุต่อว่า ตำรวจชุดนี้มีการแอบอ้างบิ๊กโจ๊ก ว่าได้สั่งการให้ไปอุ้มพยานมาให้การปรักปรำบุคคลต่างๆ ในคดีรีดทรัพย์ 140 ล้าน ซึ่งตนได้พูดคุยกับเหยื่อที่ถูกอุ้ม และถูกบังคับให้ให้การแล้ว ซึ่งเหยื่อรายนี้เป็นคนของนายเป้ ผู้ต้องหาที่ถูกรีดทรัพย์ 140 ล้านบาท โดยในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย. นี้ ตนจะนำเหยื่อมาแถลงข่าวรายละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นมีการยืนยันว่า กลุ่มของนายเป้ ไม่ได้ต้องการจะแจ้งความตำรวจ สอท. แต่ถูกปั้นพยานเท็จขึ้นมา เพื่อเอาผิดคนที่ไม่ใช่คนของตัวเอง
นายอัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า ตนจะดำเนินคดีกับผู้กำกับการ สภ.คูคต ด้วย ที่ปล่อยให้มีคนนอกมาควบคุมการสืบสวนในคดีนี้ ซึ่งตอนนี้ได้ยื่นเรื่องให้ บก.ปปป. ดำเนินการแล้ว คาดว่าจะมีการแจ้งความในสัปดาห์หน้า และตนยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดคดีนี้ จึงต้องมีการไปแจ้งความที่ สภ.คูคต ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดเหตุถูกรีดเงิน หรือพื้นที่ที่นายเป้ถูกจับกุม ซึ่งตนทราบมาว่า บิ๊กโจ๊ก มีเพื่อนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ก็อาจจะควบคุมคดีได้ง่ายกว่าพื้นที่นครบาล....
std46630
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ก้าวไกลเผย "พิธา" ไม่รู้ประวัติ "พี่ต้นบอดี้การ์ด" เคยต้องคดี
    อดีต ผบก.ป. "พล.ต.ต.สุพิศาล" แกนนำพรรคก้าวไกล เผย "พิธา" ไม่รู้ประวัติ "พี่ต้นบอดี้การ์ด" เคยต้องคดีอ้างเป็นตร.อุ้มรีดทรัพย์ ยอมรับกระทบภาพลักษณ์ "พิธา" ยืนยันพรรคพร้อมให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกัน วันนี้ (25 ก.ค.2566) จากกรณีที่มีกระแสสังคมตั้งคำถามถึง "ผู้กองต้น" บอดี้การ์ดประจำตัว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าเคยถูกดำเนินคดีอ้างเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดแล้วขูดรีดทรัพย์เหยื่อเจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งขณะนั้น พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ป. เป็นผู้แถลงผลการจับกุม โดยปัจจุบันเป็นหนึ่งในแกนนำพรรคก้าวไกลคนสำคัญ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีต ผบก.ป. และเป็นแกนนำพรรคก้าวไกล ที่บ้านพักใน จ.ราชบุรี ก่อนได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อปี 2554 ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้แถลงผลการจับกุม ผู้กองต้น หรือ พร้อมพวกรวม 3 คน ก่อเหตุอุ้มเหยื่อเจ้าของร้านขายของชำไปทำร้ายร่างกายและปล้นทรัพย์ มีทองรูปพรรณ ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และเงินสด 60,000 บาท รวมทรัพย์สิน 276,800 บาท ก่อนปล่อยตัวและข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินให้อีก โดยศาลพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 12 ปี แต่ได้รับการลดหย่อนโทษและถูกปล่อยตัวมาเมื่อปี 2560 หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนชื่ออยู่หลายครั้ง และเข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยประมาณปี 2562
    std46598
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false