1 คนสงสัย
สภาเดือด!!
หวิดวางมวยกลางสภา หลัง ส.ส.ไทยสุดทนพฤติกรรม ส.ส. BRN หลังอภิปรายบิดเบือนข้อมูล ช่วยเหลือ ให้ท้ายขบวนการผู้ก่อการร้าย พูดเรื่องเอกราช เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ไม่จบไม่สิ้น เปิดประเด็นเดือด #มึงต้องการอะไรจากประเทศไทย ทำให้เพื่อน ส.ส. ต้องเข้ามาห้าม ก่อนจะเดินจากกัน แต่ไม่วาย ส.ส. BRN ไม่จบสบถทิ้งท้าย #ไอ้พวกคลั้งชาติ ทำให้เกินชุลมุนอีกรอบ ด้าน ส.ส. BRN ได้เดินหนีไปกับสมาชิกภายในพรรค ที่มีทั้ง ส.ส.เมียนม่า และ ส.ส.ชาติพันธุ์ ด้าน ส.ส. ฝ่ายไทยได้มีการห้ามปราม และพูดคุยกับประเด็นดังกล่าวอีกสักระยะก่อนแยกย้าย แต่ที่สำคัญมีการเข้ามาพูดคุยจากสมาชิกพรรคของทาง ส.ส. BRN แต่ไม่ใช่การเข้ามาเคลียแต่กลับเข้ามาสนับสนุน ระบายความในใจถึง ส.ส.BRN ว่าภายในพรรคเอง ส.ส. หลายคนก็อึดอัดใจต่อพฤติกรรม สนับสนันผู้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน แต่ไม่สามารถพูดได้ เพราะกรรมการพรรคให้ความสำคัญเพราะเป็นหัวคะแนนหลักในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
ไม่ระบุชื่อ
 •  3 วันที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น

ข่าวการเมือง เสียดสี

AZ เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

เพจทางการของ ส.ส. รอมฎอน ปันจอร์ ได้ออกมาชี้แจงว่า เป็นข่าวไม่จริง ซึ่งถูกสร้างและปั่นโดยกลุ่ม IO

ที่มา

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ห้ามโพสต์รูปภาพทางออนไลน์
    ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ห้ามโพสต์รูปภาพทางออนไลน์ อ่านบทความด้านล่างเพื่อทำความเข้าใจ ฉันก็จะหยุดเหมือนกัน โปรดลบรูปภาพและวิดีโอของอรุณสวัสดิ์และคำทักทายและข้อความทางศาสนาทั้งหมดโดยเร็วที่สุด อ่านบทความด้านล่างอย่างละเอียดแล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม อ่านทั้งหมด! โปรดส่งข้อความนี้ถึงเพื่อนให้มากที่สุดโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ผิดกฎหมาย คำเตือนจากทนายความ Olga Nikolaevnas: ความสนใจ! สำหรับคนที่ชอบส่ง Good Morning! มันเป็นวันที่สวยงาม! สวัสดีตอนเย็น! รูปภาพ. กรุณาอย่าส่งข่าวดีเหล่านี้ วันนี้ Shanghai China International News ได้ส่งสัญญาณความทุกข์ให้กับสมาชิกและผู้เชี่ยวชาญทุกคน - คำแนะนำ: อย่าส่งรูปภาพและวิดีโอเช่นอรุณสวัสดิ์และราตรีสวัสดิ์ รายงานแสดงให้เห็นว่าแฮ็กเกอร์ออกแบบรูปภาพ และรูปภาพและวิดีโอนั้นสวยงาม แต่ซ่อนรหัสฟิชชิ่ง เมื่อทุกคนส่งข้อความเหล่านี้ แฮ็กเกอร์จะใช้อุปกรณ์ของคุณเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลบัตรธนาคารและข้อมูล และเจาะเข้าไปในของคุณ โทรศัพท์. มีรายงานว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 500,000 รายที่ถูกหลอก หากคุณต้องการทักทายใครสักคน ให้เขียนคำทักทายของคุณเองและส่งรูปภาพและวิดีโอของตัวเอง เพื่อป้องกันตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนๆ สำคัญ ! เพื่อความปลอดภัย อย่าลืมลบคำทักทายและรูปภาพทั้งหมดออกจากโทรศัพท์ของคุณ หากมีคนส่งภาพดังกล่าวถึงคุณ ให้ลบออกจากอุปกรณ์ทันที โค้ดที่เป็นอันตรายต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้นหากคุณดำเนินการทันที ก็จะไม่เกิดอันตรายใดๆ บอกเพื่อนของคุณเพื่อป้องกันการถูกแฮ็ค ทักทายด้วยคำพูดของคุณเองและส่งเฉพาะภาพและวิดีโอที่คุณสร้างขึ้นเพื่อทักทาย มันปลอดภัยอย่างสมบูรณ์สำหรับตัวคุณเอง ครอบครัว และเพื่อนของคุณ โปรดดูสิ่งที่ฉันหมายถึง! ทุกคนมีบัตรธนาคารติดอยู่กับโทรศัพท์ และทุกคนก็มีรายชื่อมากมายในโทรศัพท์ การแฮ็กแบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นภัยคุกคามต่อตัวคุณเอง แต่ยังรวมถึงโทรศัพท์ เพื่อน และคนรู้จักของคุณด้วย! นี่มันโหดร้าย นี่คือเทคโนโลยีใหม่ที่ผู้ก่อการร้ายใช้เพื่อเข้าถึงซิมการ์ดมือถือของคุณและทำให้คุณเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด! ! ! * * * ส่งข้อความนี้ถึงญาติและเพื่อนให้ได้มากที่สุดเพื่อหยุดการบุกรุกที่ไม่ได้รับอนุญาต! ! ! ว้าว ! ! ! เรียน ครอบครัวและเพื่อนรัก! ! เป็นความจริงที่ Zafar บอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อฉันอยู่ในกาตาร์และอธิบายเรื่องการแฮ็กอย่างชัดเจน เขาถามว่าทำไมผู้คนถึงสร้าง/ออกแบบภาพที่สวยงามเหล่านี้ได้ฟรี มีเครือข่ายแฮ็กเกอร์อยู่เบื้องหลัง เขาถามฉันเมื่อนานมาแล้วว่าอย่าส่งภาพที่ออกแบบไว้ล่วงหน้าเหล่านี้ให้เขา เพราะเขาทำงานจากที่บ้านและไม่ต้องการให้โทรศัพท์ของเขาถูกแฮ็ก เราไม่จำเป็นต้องอวยพรกันและกันด้วยการส่งภาพเหล่านี้ เราสามารถส่งข้อความแสดงน้ำใจด้วยการเขียนกันเอง หวังว่าพวกคุณคงไม่ว่าอะไรถ้าฉันไม่ส่งภาพอรุณสวัสดิ์ วันดีๆ เหล่านี้ และขอให้คุณไม่ส่งฉันเช่นกัน
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เขียนได้โดนมากๆ ขอแชร์ให้คนไทยทุกคนได้อ่าน “ชีวิตจะดีหรือเลว อยู่ที่ตัวคุณเอง ไม่ใช่รัฐบาล” ไม่ทราบชื่อผู้เขียน…แต่เขียนสะท้อนความจริงได้ดีมาก วันนี้ ผมอยากให้คุณเปิดใจเป็นกลาง มองโลกแห่งความเป็นจริง แล้วอ่านสิ่งที่ผมเขียน... ประชาชน เรียกร้องหา การพัฒนาที่ดี เศรษฐกิจที่ดี ชีวิตที่ดี สวัสดิการที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี ขอให้ทุกคนรวยขึ้น มีความสุขมากขึ้น มีคนจนหมดไป แต่ตัวเองกลับทำตัวตรงข้าม คือ ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น อยากให้ประเทศพัฒนา แต่ไม่เคยพัฒนาคุณภาพตัวเอง นายกคนไหน ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าคนในประเทศยังขี้เกียจ ขาดจิตสำนึก ขาดคุณธรรม ขาดสติ ไร้ปัญญา ไร้การศึกษา หรือมีการศึกษาสูง แต่จิตสำนึกต่ำ คุณธรรมต่ำ คิดแต่จะด่าว่า โทษแต่คนอื่น ไม่เคยโทษตัวเอง หรือนอนรอแต่ความหวัง ลมๆแล้งๆ หวังคนอื่นมาช่วย แต่ไม่เคยช่วยตัวเองอย่างจริงจัง ประเทศนี้ มีปัญหามาตั้งแต่ รากเหง้าของประเทศ เป็นศูนย์รวม ของคนจำ นวนไม่น้อย ที่จอม 'ขี้เกียจ' 'มักง่าย' และ 'รอคอยความหวัง' เห็นแก่ตัว เก่งแต่พูดเก่งแต่โพสต์ พอลงมือทำจริงๆ ก็ทำไม่ได้ อย่างที่คุยโม้โอ้อวด จริงไหม? ต่อให้นายกรัฐมนตรี เก่งกาจแค่ไหน แก้ปัญหาชาติได้ดีเพียงไร หรือ มีทีมงานไม่โกงกิน แต่บางที ปัญหามาจากรากเหง้าของประเทศ ที่จริงๆแล้ว แก้เท่าไหร่ ก็ไม่สำเร็จหรอก เพราะอาจจะต้องแก้ที่ "คนในชาติก่อน" “จิตสำนึกที่ดี นั้น มีกันบ้างมั้ย” - ด้านสถาบันครอบครัว เพราะความเคยชินของคนไทย ปลูกฝังสั่งสอน ความมักง่าย ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เลี้ยงเด็กตามมีตามเกิด บางคน แม้รวย ก็เลี้ยงดูลูกแบบตามใจ จนมากเกินไป เหมือนนิทานเรื่อง พ่อแม่รังแกฉัน เลี้ยงผิดๆ ถูกๆ บางบ้าน พูดจาหยาบคาย มึงกูกับลูกตั้งแต่เด็กๆ ปัญหาไม่พร้อมที่จะมีลูกก่อนวัยอันควร สอนกันมาแบบผิดๆ สมองเด็ก ก็ฝังลึกกันแบบผิดๆ​ ที่น่ากลัวคือ พ่อแม่คนเหล่านั้น สอนลูกไม่ เป็น ไม่รู้จักผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี แม้บางคน พ่อแม่ เป็นถึง ศ.บ้าง รศ.บ้าง บางคนพ่วง ดร. อีกด้วย แต่มีลูกสาว ขนาดเป็นนิสิตจุฬาฯ ในปี 2563 กล้าที่จะแก้ผ้าให้ผู้ชายถ่ายรูปที่เสาชิงช้า อนาคตของชาติ จึงดูไร้คุณภาพ หรือที่เราเรียกว่า อนาคตของสังคมไทย มีแต่ “ขยะสังคม” รัฐบาล ไม่ได้มีหน้าที่ อยู่บ้านเดียวกับคุณ และคอยอบรมสั่งสอน จนลูกคุณโต หรือ จนมีหน้าที่การงาน - ด้านความยากจน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ หมิ่นเงินน้อย คอยวาสนา บ้าเรื่องดวง ผัวทิ้งทำเสน่ห์คุณไสย งานไกลขี้เกียจไป อ้างว่าไม่มีรถขับ งานใกล้ เงินน้อยขี้เกียจทำ กู้เงินมาขายอาหาร ขายไม่เป็น ทำไม่สะอาด ทำไม่อร่อย ปากไม่ดี พอเจ๊ง ก็โทษรัฐบาล โทษเศรษฐกิจ โทษอากาศมันร้อน ฝนมันตก โทษคนไม่เดิน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง เพราะไม่เคยมองเห็นตัวเอง ที่เป็นต้นเหตุปัญหาทั้งปวง คนจน ที่ขยันก็มีเยอะ แต่ต้องฉลาด มีสมองพัฒนา ใฝ่สูงใฝ่ก้าวไปข้างหน้า เป็นคนจนไม่ผิด แต่จนแล้วโง่ แถมขี้เกียจ เเบบนี้ผิด บางคนที่จน ไม่มีเงินจะเรียน ก็เรียนจบได้ด็อคเตอร์ ก็มีไม่น้อย มิใช่ เอาแต่มานั่งบ่น สิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ใครจะมาช่วยได้ล่ะ แล้วทำไมคนจน ที่เค้ามีฐานะดีขึ้น ทำงานด้วยสมอง และ มีสองมือเหมือนกัน ก็มีเยอะมากมายที่เขาได้ดี มีความเจริญก้าวหน้า เพราะเค้าไม่มีข้ออ้างแบบคุณนั่นเอง - ด้านการศึกษา ไม่รู้เค้าเลี้ยงลูกกันยังไง เด็กบางคนถึงไม่สนใจการเรียน ไม่ชอบมีการ บ้าน ไม่ชอบการสอบเก็บคะแนน อ้างว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความเครียด ไม่ต้องการใส่เครื่องแบบ ไม่ต้องการไว้ผมทรงนักเรียน ไม่เห็นคุณค่าการศึกษา เพราะมีพ่อแม่ไร้คุณภาพ เด็กหลายคนจึงไร้การศึกษาที่ดีและสูง แทนที่จะสอนลูกว่า เรามันจนนะลูก ต้องตั้งใจเรียน​ จะได้​ทุนเรียนปริญญา เอาจริงๆนะ ถ้าลูกรักเรียนต่อ ให้พ่อแม่จนแค่ไหน ก็หาเงินมาให้ลูกเรียนจนจบปริญญาได้ เด็กหลายคนเกเร ไม่สนใจการเรียน พ่อแม่ก็ตัดหางปล่อยวัด ไม่รู้จะทำอะไร ก็กลายเป็นเด็กเกเร เด็กแว๊นซ์ ลักขโมย ดื่มเหล้า ข่มขืน ติดยา ขายตัว สร้างความเดือดร้อน พ่อแม่มันยังไร้คุณภาพ จะเอาปัญญาที่ไหนไปสอนลูก บางครอบครัว พ่อแม่ มีคุณภาพดี แต่ไม่เคยสอนเรื่องคุณ ธรรมและจริยะธรรมที่ดีให้แก่ลูก พอเกิดเรื่องก็บอก “ลูกฉันเป็นคนดี” กันทั้งนั้น ก็เพราะคิดแบบนี้ ลูกมันถึงเป็นแบบนี้ ผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี คนเป็นพ่อแม่ ยังแยกแยะไม่ออก - ด้านสิ่งแวดล้อม ถามซิ เลิกเผาป่า เลิกเผาขยะกันหรือยัง​ ข่าวออกมาโครมๆ แต่จิตสำนึกไม่ มีเลย อ้างว่าต้องทำมาหากิน ก็ทำแบบนี้ทุกปี จริงๆแล้วการเผาป่ามันถูกต้องหรือไม่ มันก่อให้เกิดฝุ่นพิษ ควันพิษ เป็นการทำร้ายสุขภาพ หรือเราปล่อยให้ทำๆกันมาจนชิน ไม่รู้สึกอะไร พอรัฐหรือหน่วยงาน เข้ามาห้ามก็ด่า...นี่คือสันดานคนเหล่านั้น คือความเห็นแก่ตัว ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม​ เสียหายปีละเท่าไหร่​...กินตรงไหนทิ้งตรงนั้น คนที่อาศัยตามริมคลอง ก็ทิ้งลงคลองง่ายดี พอน้ำเน่าเหม็น ก็บ่น แล้วมาบอกว่า มันเป็นหน้าที่ของคนเก็บขยะ มีหน้าที่เก็บก็เก็บไป​ คุณจะให้บ้านเมืองมันเจริญได้ไง! ในเมื่อจิตใจคุณยังต่ำตมอยู่เลย -โกง/คอรัปชั่น​ เจอกันเยอะมั้ย​ ไม่ว่าจะคนรวย คนจน คนในระดับไหน การศึกษาสูง ต่ำ ไม่แตกต่างกัน ​ เป็นเรื่องนิสัย​/สันดาน พอมีโอกาส​ ก็โกงกันทั้งนั้น จิตสำนึกความซื่อสัตย์ไม่มี คนรวยโกงคนจน นักการเมืองโกงชาติ จิตใจทำด้วยอะไร ความเห็นแก่ตัวไง เงินคือพระ เจ้าสำหรับพวกมัน และค่านิยมคนไทย “มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่” เป็นพวก ไอ้/อี ที่บ้าเงิน - ด้านการจราจร มีกี่คนที่ทำตามกฎจราจร 100% บ้าง ทางม้าลายรถต้องหยุดให้คนข้าม พวกคุณทราบกันหรือเปล่า ใช้ถนน ผิดกฎหมาย แล้วคิดว่าตัวเองถูก ดูอย่างข่าวป้าทุบรถ และข่าวจอดรถขวางหน้าบ้าน ทางเข้าออกคนอื่น โดยไร้จิตสำนึกว่า คนในบ้านเขาขับรถเข้า/ออกไม่ได้ มีบ่อย มีหลายๆคดี เรียกตัวเองว่า ชาวพุทธ แต่ไร้ ศีลธรรม การยับยั้งอารมณ์ ใครมีปืนมีมีด ก็ยิงก็ฟันเลย เถื่อนมาก แม้แต่ในโรงพยาบาล ก็ยังบุกไปทำร้ายร่างกายกัน และ พาลไปทำร้ายหมอและพยาบาลอีก แบบนี้ก็มีอยู่ในสังคมไทย แกล้งขับรถขวางทาง ไม่ให้รถ Ambulance ผ่าน ก็มีข่าวมาแล้ว ขับช้า เสือกขับแช่ยาว ในเลนขวาสุด ก็มีให้เห็นบ่อยๆในเวลาไปต่างจังหวัด อยากจอดข้างทางก็จอด เพื่อกินข้าว ที่ร้านอร่อยของตน บนถนนรถติด ขายของริมฟุตบาท ล้นออกมาบนพื้นที่ถนนรถวิ่ง รถยนต์/รถมอเตอร์ ไซค์ก็จอดซื้อกันตรงนั้น ทำให้รถติดในซอย ในเมื่อพฤติกรรมคนไทยจำนวนไม่น้อย มันเป็นแบบเนี้ย รัฐบาลจะไปช่วยอะไรได้ หวังแต่จะให้รัฐแก้ปัญหา และพัฒนาชาติ ตัวคุณเองยังแก้ปัญ หาตัวเองไม่ได้ และพัฒนาสมอง คุณภาพตัวเองไม่ได้เลย ถามตัวเองก่อน ด่ารัฐบาล "ทำหน้าที่ตัวเอง" ในฐานะพลเมืองของชาติ ดีที่สุดรึยัง พูดให้คิด มองความจริงให้ออก อย่าหลอก อย่าหลงตัวเอง เจ็บแต่จริง​ หันมามองตัวเองกันหน่อย​ ค่อยๆแก้​ ต่อให้รัฐบาล​/ผู้นำคนไหนๆ​ แปลงร่างมาจากเทวดาชั้นฟ้า​ ปัญหา​เมืองไทย ก็ไม่มีวันหมด แก้รัฐธรรม นูญ ก็เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เป็นสำคัญ ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชา ชนอย่างแท้จริง แก้แล้ว ก็เพื่อให้นัก การเมืองกลุ่มใหม่ เข้ามาแสวงหาอำนาจ และ ผลประโยชน์ในกลุ่มพรรคพวกเพื่อนพ้องเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องนมนานมา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น มาให้เห็นตลอดเวลา​ที่ผ่านมา นักการเมืองโกงแล้ว หนีคดีไปต่างประเทศ ส่วนลูกน้อง ที่เคยเป็นคนดี แต่ยอมทำตาม ด้วยเกรงบารมี ก็ต้องติดคุกหัวโตไป เรายังอยากให้คนกลุ่มนี้ มาหาวิธีโกงชาติ โกงแผ่นดินกันอีกหรือ รักชาติ รักแผ่นดิน​ ให้จริงๆกันบ้างเถิด อย่าอ้างความรักชาติ จนน้ำลายไหล เพราะอดอยากปากแห้งมานาน หันกลับมามองตน แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองและ คนใกล้ตัวกันหน่อย สงสารนักรบชุดขาว และ อสม. ที่เขาเสียสละ และเสี่ยงกับโรค​ COVID-19 ที่ มากกว่าเรา อย่าได้เพิ่มปัญหาให้สังคมและประเทศของเราให้มากกว่า ที่มีอยู่ และเป็นอยู่เลย ในปัจจุบัน ทุกประเทศก็มีปัญหาเศรษฐกิจ ประชา ชนทุกประเทศก็ย่ำแย่เดือดร้อนกันทั้งนั้น มิใช่คนไทยเท่านั้นที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ. ขอบคุณผู้เขียน และ ขอบคุณทุกคนที่แชร์กันต่อไปและแชร์ให้มากก่อนถึงวันเลือกตั้ง.
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หลุมพรางสร้างความเกลียดชังทางศาสนาอิสลาม
    หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา By ประสาร มฤคพิทักษ์ | pmarukpitak@yahoo.com21 ก.พ. 2565 เวลา 11:49 น. หลุมพราง บ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา กระบวนการสร้างความเป็นอื่นให้กับบุคคลต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างผิวพรรณ จะใช้สองมือแบ่งกันทำหน้าที่ มือขวาสร้างโรงน้ำแข็ง เพื่อปั้นน้ำเป็นตัว ส่วนมือซ้าย ขุดหลุมพราง บ่มเพาะความจงเกลียดจงชังให้คนอื่นตกหลุมพรางนั้น ในบรรดาข่าวโกหก (Fake News) ที่อยู่บนหน้าจอไฟฟ้า หรือสื่อออนไลน์ ทั้งหลายนั้น ข่าวโกหกเรื่องศาสนาอิสลามมีพื้นที่ค่อนข้างมาก ส่งกันได้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ 90% เป็นข่าวโกหก 1.โกหกว่า ศาสนาอิสลามกำลังยึดครองประเทศไทย โดยมีการออก พ.ร.บ. คุ้มครองศาสนาอิสลาม 10 ฉบับ ว่ามีมัสยิดใหม่เกิดขึ้นมาก ว่ามีการทำลายวัดในพุทธศาสนาหลายแห่ง ความจริง กรมการปกครอง ชี้แจงแล้วว่า มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามเพียง 4 ฉบับ คือ (1) พ.ร.บ. ว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 (2) พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 (3) พ.ร.บ.การบริหารองค์การศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 (4) พ.ร.บ.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2545 ไม่ปรากฏว่ามีกฎหมายคุ้มครองศาสนาอิสลามแต่อย่างใดเลย 2.โกหกเรื่องศาสนาอิสลามจะตั้งศาลอิสลาม เพื่อคนมุสลิมไม่ต้องขึ้นศาลไทยปกติ โดยจะระดมรายชื่อ 10 ล้านคน เพื่อถวายฎีกา โดยอ้างว่า “เพื่อเอกราชทางอำนาจของศาลไทยไม่เสียไปอยู่ในมือมุสลิมที่กำลังจะกลืนไทยพุทธหมดแล้ว” ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย จะมีก็แต่การนำหลักศาสนาอิสลามเรื่องครอบครัวและมรดกมาใช้สำหรับพิจารณาคดีที่คู่ความทั้งสองฝ่ายเป็นมุสลิม และอยู่ในเขตอำนาจศาลในพื้นที่ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล เท่านั้น ตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว (พ.ศ. 2489 ข้อ 3.1) 3.โกหกว่ารัฐบาลต้องเอาภาษีประชาชนสร้างมัสยิดให้ชาวมุสลิมทุกจังหวัด ความจริง มัสยิดเป็นศาสนสถานของอิสลาม ดังที่คาธอลิคมีโบสถ์ พุทธศาสนามีวัด ศาสนาอิสลามมีมัสยิดจำนวน 3,965 แห่ง ตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ปี 2540 มัสยิดทุกแห่งที่สร้างขึ้นมาจากเงินศรัทธาของชาวไทยมุสลิม รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินสร้างแต่อย่างใด ยกเว้นบางจังหวัดเช่น ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนเงินบูรณะซ่อมแซม ส่วนมัสยิดนครศรีธรรมราชเป็นงบผูกพัน 3 ปี (2557 - 2559) ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน 4.โกหกว่ารัฐบาลจ่ายเงินค่าเดินทาง ที่พัก อาหาร ให้ชาวมุสลิมไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดิอาระเบีย ความจริง ไม่มีเรื่องดังกล่าวเลย ผู้แสวงบุญทุกคนจ่ายเงินเองทั้งสิ้น 5.โกหกว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีสมาชิกที่เป็น สนช. ถึง 63 คน (จากสมาชิกทั้งหมด 233 คน) ที่เป็นมุสลิม กล่าวหาว่า สนช. จำนวนนี้ผลักดัน “ให้มีกฎหมายจัดตั้งศาลซารีอะห์เพื่อให้คนไทยที่มีคดีความกับคนมุสลิมต้องขึ้นศาลนี้ โดยมีผู้พิพากษาเป็นคนมุสลิม” นี่เป็นข่าวเก่าที่แพร่กระจายกันมา ตั้งแต่ 5 ปีก่อน แต่ยังกระจายกันอยู่จนเดี๋ยวนี้ ความจริง สนช. ชุดนั้นมีมุสลิมเพียง 4 คน คือ นิพนธ์ นราพิทักษ์กุล วิทยา ฉายสุวรรณ อนุมัติ อาหมัด และ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ (ถืออิสลามตามคู่สมรส) เท่านั้น ไม่มีการร่างกฎหมาย ดังกล่าว ไม่มีการเสนอ ไม่มีการพิจารณาใดๆ ทั้งนั้น ยังมีข่าวโกหกอีกหลายอย่าง เช่น สัญลักษณ์ Green Industry ของ กท.อุตสาหกรรม สีเขียวบนสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็หาว่า “เป็นตราฮาลาลเพื่อเอาใจมุสลิม” ข่าวโกหกว่าชาวไทยมุสลิมกู้เงินธนาคารอิสลาม “โดยไม่ต้องใช้หนี้คืนได้” ข่าวโกหกว่า พ.ร.บ.ฮัจย์ “ทำให้อิสลามเข้าควบคุมการปกครอง” กระทรวงมหาดไทย ข่าวโกหกว่าผู้นำซาอุดิอาระเบียแต่งตั้ง “ให้นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคนอิสลามเข้าไทยแบบผิดกฎหมายได้” ทั้งหมดนี้เป็นข่าวโกหกอย่างสิ้นเชิงที่นำมาเผยแพร่กันโดยเฉพาะในกลุ่มไลน์ที่แพร่กระจายอย่างเสรีและยากต่อการควบคุม บทเรียน 6 ตุลาคม 2519 ของขบวนการขวาพิฆาตซ้ายที่ปั้นข่าวเท็จกลายเป็นโศกนาฏกรรมล้อมปราบที่ ม. ธรรมศาสตร์ มีการเผานั่งยางนักศึกษา มีการฆ่าแขวนคอ ที่สนามหลวง แม้แต่การโฆษณาชวนเชื่อของ ฮิตเลอร์ และนาซีเยอรมันที่สร้างความรังเกียจทางเชื้อชาติ สังหารคนยิวไป 6 ล้านคน จะไม่เก็บรับบทเรียนกันบ้างหรือไร เมื่อ 16 ก.พ. 2565 ณ วัดราชบพิธฯ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้ ดร.มูฮัมหมัด บิน อับดุลการีม อัลอีซา เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลก (OIC) เข้าเฝ้า ทรงรับสั่งว่า “คนไทยคุ้นเคยกับวัฒนธรรมประเพณีของศาสนาอิสลามมานานแล้ว อย่างน้อยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีชาวมุสลิมจากตะวันออกกลางเข้ามาค้าขายหรือรับราชการในเมืองไทย มีผู้สืบเชื้อสายมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสกุลใหญ่ที่รู้จักกว้างขวาง..... .....ยามที่ชาวมุสลิมมีการงานประเพณีใด ชาวพุทธก็นำสิ่งของไปช่วยงาน ในขณะที่ ถ้าชาวพุทธมีการงานประเพณีใด ชาวมุสลิมก็นำสิ่งของมาช่วยงานเช่นเดียวกัน ทรงสามารถยืนยันได้ เพราะได้เคยทอดพระเนตรเห็นประจักษ์มาด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้ “พระมหากษัตริย์ไทย” ทุกพระองค์ มีพระบรมราชปณิธานที่จะพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์บำรุงทุกศาสนา พระบรมราโชบายเช่นนี้ จึงทำให้เมืองไทย มีความสงบร่มเย็นด้วยสามัคคีธรรมเสมอมา” เลขาธิการ OIC กราบทูลแสดงความปิติยิ่งในพระดำรัส และยังกราบทูลถวายคำยืนยันว่า “บุคคลใดผู้ยุยงให้ผู้คนในสังคมรู้สึกแตกแยกบาดหมางกัน โดนอ้างความแตกต่างกันทางศาสนา บุคคลนั้นไม่ได้ชื่อว่าเป็นมุสลิมที่แท้จริง....... ......เพราะการก่อให้เกิดความร้าวฉานนั้น เป็นความชั่วร้ายที่ไม่อาจกล่าวได้ว่า เป็นตัวแทนของศาสนาใดๆ ในโลก ผู้ที่กระทำการเช่นนั้น ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขาเอง” สมเด็จพระสังฆราช และผู้นำองค์กรมุสลิมโลก ได้แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์แห่งความสมานฉันท์ที่มีมายาวนานตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และไม่ปรารถนาจะเห็นความขัดข้องหมองใจใดๆ เลย กลุ่มสร้างความเกลียดชังทางศาสนา ไม่เรียนรู้เลยหรือว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงทำให้ชาวไทยมุสลิมในภาคใต้ ภาคภูมิใจที่ได้เป็นคนไทย ในแผ่นดินแห่งนี้ เมื่อปี 2511 พระองค์ท่านเสด็จไปงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติองค์ศาสดาพระมูฮัมหมัด โดยมีการเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นการเปิดงาน พระองค์ตรัสกับ นายต่วน สุวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรีว่า “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกเชิญในวันนี้ เขาอ่านได้จับใจไพเราะเหลือเกิน แต่ทำอย่างไรที่จะให้พสกนิกรเรา ทั้งชาวไทยหรือไม่ใช่ก็ตามที และทุกหน่วยงานองค์กรของรัฐได้เข้าใจว่า อัลกุรอานซึ่งเป็นธรรมนูญชีวิต และเป็นคำบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ มีความหมายอย่างไร” แล้วพระองค์ท่าน ก็พระราชทานทุนทรัพย์ก้อนแรกให้กับอดีตจุฬาราชมนตรี เพื่อหาคนแปล จึงได้เกิด “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน” ฉบับแปลเป็นภาษาไทยที่เป็นคุณูปการยิ่งต่อการศึกษาศาสนาอิสลามของชาวไทยมุสลิมทั้งปวง ต่อเนื่องมาถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่เสด็จงานเมาลิดกลาง และพระราชทานพระกรุณาให้กับชาวไทยมุสลิมโดยไม่ทรงแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนาใดๆ เลย การเอาเรื่องเท็จมาปั้นแต่งโฆษณาว่าเป็นเรื่องจริง การหยิบเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่อง การเอาเรื่องเล็กมาขยายเป็นเรื่องใหญ่ การเอาเฉพาะส่วนมาแทนที่ส่วนทั้งหมดเป็นวิสัยของมนุษย์ จำพวกไหน กระบวนการด้อยค่าบุคคลต่างศาสนา ด้วยวิธีสร้างความเป็นอื่น ขุดหลุมพรางบ่มเพาะความเกลียดชังทางศาสนา จะใจร้ายอำมหิตไปถึงไหน จึงโกหกมดเท็จรายวันไม่หยุดหย่อน เหมือนไม่เกรงนรกหมกไหม้ หรืออย่างไร.
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สว.สหรัฐร่อนแถลงการณ์ประณาม ‘ประยุทธ์’ โกงเลือกตั้ง-สั่งยิงเด็ก-ตั้งพรรคทหาร-สว.ขี้ข้า 250 คน แถมประกาศลั่น พร้อมคว่ำบาตรไทย !!! . สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สหรัฐฯ ร่อนแถลงการณ์ประณาม ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลเผด็จการไทย บิดเบือนประชาธิปไตย ตั้งพรรคทหารโกงเลือกตั้งเข้ามาเสวยสุข ขยายอำนาจศักดินา แต่งตั้งขี้ข้า สว.250 คน ซ้ำยังสั่งฆ่าราษฎร ปราบม็อบเด็ก ไปจนถึงเรื่องการใช้กฎหมายล้าหลังขัดกับสิทธิมนุษยชนสากล (ม.112-ม.116-พรบ.คอม) แถมระบุชัดเสี่ยงตัดความสัมพันธ์กับไทย ถ้าหากมีการปฏิวัติ-รัฐประหาร ..... ยินดีต้อนรับสู่ยุค โจ ไบเดน (ประธาณาธิบดีคนใหม่ สหรัฐ) . สหรัฐอเมริกา เริ่มแสดงความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆหลังจากได้ ประธานาธิบดีคนใหม่ ที่มาจากพรรคฝ่ายซ้าย สบช่องโต้กลับรัฐบาลไทยและคนรักสถาบันที่ใส่ร้ายว่าสหรัฐอยู่เบื้องหลังม็อบ ครั้งนี้จัดหนักแฉยับให้ทั่วโลกรู้กันไปทั่วว่าประเทศไทยมันเผด็จการขนาดไหน สมควรขายขี้หน้าต่างชาติหรือไม่ ? . [[[ สหรัฐ ประณามไทย ]]] . คำแถลงการณ์ ในช่วงหนึ่งมีการระบุว่า ในปี 2560 รัฐบาล คสช.ของประยุทธ์ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่บิดเบือนความเป็นประชาธิปไตยและลดคุณค่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะ สว.250 คนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตลอดจนองค์กรอิสระที่ประยุทธ์แต่งตั้งทั้งหมด (ศาลรัฐธรรมนูญ ปปช.และ กกต.เป็นต้น) จนนำไปสู่การโกงเลือกตั้งในปี 2562 ซึ่งทั่วโลกรายงานว่ามีการบิดเบือนผลเลือกตั้ง ตลอดจนบิดเบือนกติกาเอื้อให้พรรคทหาร (พลังประชารัฐ) ได้เป็นรัฐบาล นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมยุบพรรคอนาคตใหม่ ด้วยคำตัดสินผลที่ค้านกับความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก . นอกจากความบิดเบี้ยวทางระบบการปกครองแล้ว รัฐบาลประยุทธ์ยังใช้ความรุนแรงอุ้มฆ่าผู้เห็นต่าง (เช่น วันเฉลิม ซึ่งสำนักข่าวต่างชาติระบุถึงความเกี่ยวโยงกับ ราชองครักษ์ แต่รัฐบาลไทยไม่สืบสวนและเปิดเผยความจริง) จนมาถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่ทั่วโลกย่อมรับไม่ได้คือการ “สั่งยิงเด็ก” ด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนและรถฉีดน้ำแรงดันสูง ซึ่งถือเป็นการขัดต่อหลักประชาธิปไตยสากลและขัดต่อหลักการคุ้มครองเด็กขององค์กรยูนิเซฟ รัฐบาลประยุทธ์ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือปราบปรามราษฎรด้วยข้อหาเกินจริงและกฎหมายที่ล้าหลังไม่เป็นที่ยอมรับ เช่น กฎหมายปิดปากห้ามพูด-ห้ามวิจารณ์-ห้ามฟ้องร้อง (ทั้งที่ประเทศไทยเลิกใช้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชมานานแล้ว) โดยพบว่ากฎหมายเหล่านั้นล้วนมีโทษติดคุกที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะตัวเลขเยาวชนที่ถูกจับกุม 170 คน ทั้งที่เป็นม็อบมือเปล่า ไม่ใช้ความรุนแรง บุกจู่โจมหรือเผาทำลายทรัพย์สินราชการ . [[[ สหรัฐ ขู่คว่ำบาตร ไทย ]]] . แถลงการณ์ในช่วงต่อมาระบุว่า สหรัฐพร้อมคว่ำบาตรประเทศไทยและยุติบทบาทความสัมพันธ์หากกองทัพไทยตัดสินใจทำรัฐประหาร โดยจะนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯเลือกชัดเจนแล้วว่าจะยืนอยู่ข้างกระบวนการประชาธิปไตยบนสิทธิเสรีภาพของมนุษโดยชอบธรรม ตลอดจนการส่งเสริมชุมนุมแบบสันติ และเสรีภาพในการแสดงออกตามสิทธิพื้นฐานสากล ทั้งนี้ สหรัฐ ยืนยันว่าจะต่อต้านการคุกคามเยาวชนโดยไม่ชอบธรรมทุกรูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับนานาอารยประเทศและกติกาประชาธิปไตยของโลกใบนี้ . สอดคล้องกับคำพูดของ ทูตนอกแถว "รัศม์ ชาลีจันทร์" ระบุว่าไม่มีประเทศไหนต้อนรับประยุทธ์เท่าเคยต้อนรับยิ่งลักษณ์ ส่วนใหญ่ให้ไปแค่ประชุมตามกำหนดการ ไม่มีกองเกียรติยศต่างชาติต้อนรับ ทำเกียรติประเทศตกต่ำ ด้านข้าราชการกระทรวงต่างประเทศรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่โอเคกับเผด็จการ . [[[ โจ ไบเดน ไม่เอาสลิ่ม ]]] . โจ ไบเดน ประธาณาธิบดีป้ายแดงของสหรัฐ มีแนวคิดส่งเสริมประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยกับแนวคิดอนุรักษ์นิยม รวมถึงรัฐบาลเผด็จการที่ใช้อำนาจรักษาผลประโยชน์ศักดินา โดยเฉพาะรัฐบาลที่เลือกข้างจีนและใส่ร้ายสหรัฐ โจ ไบเดน มีความมุ่งมั่นที่จะรวบรวมพันธมิตในเอเชียเพื่อต่อต้านอำนาจจีน เขามีแผนใช้มาตรการกดดันการเมืองในประเทศต่างๆมากขึ้นในเอเชีย จากเดิมที่โอบาม่าเคยเน้นไปที่ตะวันออกกลาง และต่างจากทรัมป์ที่ไม่เคยกดดันชาติใดๆให้ต่อต้านจีน . มาตรการภาคีทางการค้าเพื่อต่อต้านจีนจะถูกนำกลับมาใช้ทั้ง GSP, FTA, IMF และ GSP เพื่อให้ชาคิในเอเชียเลือกว่าจะเข้าร่วมเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ ยอมอยู่กับจีนแล้วโดนคว่ำบาตรทางการค้า ในวันที่ไทยมีตัวเลขเศรษฐกิจติดลบมากสุดในประวัติศาสตร์ . ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เป็นรัฐบาลทหารที่เลือกข้างจีนมาตลอด มีการทำซูเปอร์ดีลทางการค้า ตั้งแต่ รถถังยันรถไฟความเร็วสูง และผลงานล่าสุดของคนรักสถาบันที่กล่าวโจมตีใส่ร้ายว่าสหรัฐอยู่เบื้องหลังม็อบไทย-ฮ่องกง แน่นอนว่าคล้ายกับรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับสหรัฐ โดยมีจีนเป็นที่ปรึกษา จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุให้โดนตัดสิทธิ์ GSP ครั้งล่าสุด เพราะฝรั่งเขารู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังม็อบคนรักสถาบันและระบอบประยุทธ์ . ‘โจ ไบเดน’ มีแนวคิดฝ่ายประชาธิปไตย เขาพร้อมสนับสนุนองค์กรขับเคลื่อนประชาธิปไตยทั่วเอเชีย เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มพลังม็อบนักศึกษาที่ลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจเผด็จการ เช่น ไทย เมียนมา สปป.ลาว และอินเดีย เป็นต้น ประธานาธิบดีคนใหม่จะมีมาตรการตอบโต้รัฐบาลเผด็จการที่กดขี่ประชาธิปไตยแน่นอน . ดังนั้นไทยต้องเดินเกมการทูตอย่างประนีประนอม เพราะเสี่ยงโดนกดดันทางการค้าหลายรูปแบบ โดยเฉพาะ ประยุทธ์ ที่ถูกประณามไปทั่วโลก เช่น การสลายม็อบ และ คนรักสถาบันทำร้ายนักศึกษาทั่วประเทศ เช่นเดียวกับสถานทูตสหรัฐที่ลงข่าวประจานคนรักสถาบันที่ใส่ร้ายอเมริกาหลายครั้งเรื่องม็อบ . เอกสารต้นฉบับ วุฒิสภา สหรัฐฯ https://www.foreign.senate.gov/imo/media/doc/DAV20G50%20-%20Thailan.pdf?fbclid=IwAR0IegRDe3m7BF73IjLPrzEEZGP6ZTsq-mTfqwAR5oeqYSbyHKYymio91lo
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แรงนะ ญี่ปุ่นวิจารณ์ไทย แต่เป็นเรื่องจริง วันนี้มาดูญี่ปุ่นวิจารณ์ไทยกันบ้าง อ่านแล้วแสบทั้งไส้และทั้งทรวงเลย เห็นทีคนไทยต้องกลับมาพิจารณาตนเองครั้งใหญ่แล้วครับ นายเซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำกรุงเทพ (Japan External Trade Organization,Bangkok : JETRO Bangkok) ระบุว่า ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุน เหมือนที่ผ่านมาในสายตาของนักลงทุนญี่ปุ่น โดยได้แสดงทรรศนะถึง “จุดอ่อน” ของคนไทยไว้ 10 ข้อ คือ 1.คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะ หน้าที่ต่อสังคม คือ เป็นประเภท มือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดเป็นธุรกิจการเมืองธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติ ล้าหลังไปเรื่อยๆ 2.การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ไม่กล้าแสดงออก ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง จึงตามหลังชาติอื่น คนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก เพื่อโอกาสที่ดีกว่า 3. มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนนักที่จะทำงาน แบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน 4.ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับ สัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึง ความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อย ๆ 5.การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง และชุมชนซึ่งเป็น หน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม 6.การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการ ไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจ หรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน 7. อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี้ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงินโดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูก แล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว 8.เอ็นจีโอค้านลูกเดียว เอ็น จีโอ บางกลุ่มอิงอยู่กับ ผลประโยชน์ บ่อยครั้งที่ต้องเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน 9.ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือ ในเวทีการค้าระดับโลกยังขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดีทำให้สู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้ 10. เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบัน เด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะการเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูก ช่วยตัวเอง ไม่กระตือรือร้น ในการช่วยตนเองขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเองและไม่สอนให้สำนึกผิดชอบต่อสังคม -------!!! แรงมากครับ และยอมรับทุกข้อ คำถามคือ..แล้วเราจะ เริ่มต้นแก้ไขกันอย่างไรดีครับ เป็นหน้าที่คนไทยทุกคนนะครับ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    การเมืองเล่นงาน เรื่องของกัญชา ที่ พ.ร.บ. ต้องถูกถอดออกจากที่ประชุมสภา แบบหักปากกาเซียนนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องของการเมือง ที่พรรคการเมือง จะต้องมองถึงศึกเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามาทุกวินาที เป็นศึกที่จะยอมกันไม่ได้แน่นอน จำได้ไหม ตอนนำร่าง พ.ร.บ.กัญชาเข้าสภา ในขั้นตอนยกร่าง ปรากฏว่าทุกพรรคยกมือเห็นดี เห็นงาม วันนั้น ยังมองว่าเป็นโอกาสของประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการแพทย์และเศรษฐกิจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ท่าที ที่เคยเป็นมิตรจากฝ่ายการเมืองเริ่มไม่เหมือนเดิม เพราะรู้กันดีว่าหากปล่อยนโยบายกัญชาเดินหน้าราบรื่น รับรองว่า พรรคภูมิใจไทย กับสโลแกน “พูดแล้วทำ” กระหื่มแน่ ดังนั้น เมื่อมาถึงวาระที่ 2 ของการพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าว จึงต้องใช้โอกาสนี้ ซัดให้ล้มหงาย นำโดยพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลับมาจับมือกัน ทั้งที่เรื่องนี้ มีทางออก มากมายโดยไม่จำเป็นต้องถอนร่างกลับไปแก้ไขใหม่ให้เสียเวลา อาทิ การพิจารณารายมาตราต่อในที่ประชุมสภาได้เลย แต่การดึงดันที่จะให้ถอนร่างไปนั้น ก็ไม่ต่างจากการล้มนโยบายของพรรคภูมิใจไทยแล้ว เพราะเหลือเวลาอีกไม่มากอายุของสภาจะหมดลง นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ.ร่าง พระราชบัญญัติฉบับนี้ พูดด้วยความท้อใจ “วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้านับหนึ่งก่อน ถ้ามีข้อบกพร่องประการใดก็พร้อมที่จะแก้ แต่วันนี้ท่านยังไม่ได้ดูแต่ละมาตราเลย แต่บอกให้ผมเอากลับไปแก้ ผมเอามานำเสนอต่อที่ประชุมนี้ หากท่านเห็นว่ากฎหมายในแต่ละมาตราไม่ดี ก็เป็นเอกสิทธิ์ของท่าน แต่วันนี้อย่าเพิ่งติ หากท่านยังไม่เห็นรายละเอียด” นายศุภชัย กล่าว อันที่จริง กับท่าทีของพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกพิศดาร แต่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่น่าจับตามอง เพราะอย่าลืมว่า ก็เป็นพรรคร่วมมาด้วยกัน จึงถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ที่อยู่ดีๆ เอามีดมาฟันเพื่อนหัวแบะ หรือโกรธเคืองที่ถูกพรรคภูมิใจไทย ไล่เจาะพื้นที่ภาคใต้ แต่ทุกพื้นที่นั้น ทุกพรรคก็มีสิทธิ์หาเสียง และประชาชนก็มีสิทธิ์เลือก ใช่หรือไม่ ? อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ พูดอยู่เสมอว่า กังวลการใช้กัญชาอย่างเลยเถิด แต่การบังคับให้ต้องถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เท่ากับการใช้กัญชาของไทย จะยังถูกควบคุมด้วยกฎหมายเดิม ที่ไม่ทันสมัย ไม่ทันสถานการณ์ การดูแลไม่ทั่วถึงครอบคลุม ช่างย้อนแย้งเสียนี่กระไร มีคำถามที่แหลมคมจากกลุ่ม “เขียนอนาคตกัญชาไทย” ต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่บัดนี้ หมายรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย 1.กัญชาเสรีนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 9 มิ.ย.จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นการปล่อยให้กัญชาเสรีที่สุดเพราะไม่มีกฎหมายมากำกับ และในช่วงที่เสรีที่สุดนี้ กัญชาได้ก่อให้เกิดความวิบัติใดกับสังคมบ้าง เช่น คนติดกัญชาเพิ่มขึ้น คนติดกัญชาไปทำร้ายคนอื่น เหตุการณ์ใดที่ถูกนำมาเป็นปัจจัยชี้วัดว่ากัญชาควรกลับไปเป็นยาเสพติด โดยต้องตอบคำถามนี้เพราะในคำแถลงระบุชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ฉะนั้นหากยืนยันว่ากระทำบนหลักการ จึงต้องชี้แจงต่อสาธารณะว่ามีข้อมูลใดที่แสดงให้เห็นว่ากัญชาควรต้องกลับไปเป็นยาเสพติด 2.ท่านไม่เห็นด้วยที่อนุญาตให้ครัวเรือนปลูกกัญชาได้ เพราะมองว่าจะเอาไปสูบแทนที่จะนำไปทำประโยชน์ทางการแพทย์ คำถามที่สำคัญคือท่านมีความรู้แค่ไหนในเรื่องกัญชา และนำหลักเกณฑ์ใดมาตัดสินว่าหากชาวบ้านมีสิทธิในการปลูกกัญชาได้แล้วจะก่อให้เกิดภาวะคนสูบกัญชาทั้งประเทศ หากท่านคิดว่าการที่คนเข้าถึงกัญชาแล้วจะทำให้คนสูบกัญชามากขึ้นนั้น เป็นความไร้เดียงสานำความไม่รู้มาตัดสินพืชพื้นเมืองที่อยู่คู่กับครัวเรือนของประเทศนี้มานานก่อนที่รัฐบาลจะประกาศให้ผิดกฎหมาย “ความตายและการเจ็บป่วยของชาวบ้านซึ่งไม่มีเงินรักษา ไม่ได้มีเงินแบบท่าน พวกเขาเหล่านั้นใช้น้ำมันกัญชาในการรักษาชีวิต อย่างที่ ท่านไม่เคยใส่ใจ และอย่าไร้เดียงสาพูดเรื่องกัญชาทางการแพทย์ หากประชาชนไม่สามารถปลูกได้ กัญชาจะกลับไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนและผู้เชี่ยวชาญ ทั้งที่มันอยู่ในตำรายาแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านเมื่อครั้งสมัยอยุธยาและชาวบ้านสามารถผลิตยารักษา นำไปใส่อาหารแทนผงชูรส และอย่าดูถูกประชาชนว่าไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิดต่อการใช้พืชพื้นเมืองชนิดนี้ ชาวบ้านปลูกกัญชาผิด เวลาพวกคุณเทเหล้าใส่ปากขวดละหลายหมื่น มึนเมากันกลับเป็นวัฒนธรรมอันดีงาม” น่าเสียดายที่พรรคนี้กีดขวางประชาชนในการเข้าถึงการผลิตยาสมุนไพรจากพืชพื้นเมืองที่ชื่อว่ากัญชา สังคมต้องตัดสินพรรคนี้ว่า ควรที่จะให้โอกาสพรรคนี้มาทำงานในสภาอีกหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เชื่อว่าคำถามเหล่านี้ จะไม่มีคำตอบ เพราะพวกเขาได้บรรลุเป้าหมายแล้ว เป้าหมายทางการเมืองในการตัดขาคู่แข่ง เขาคิดแค่นี้ และทำมันได้แล้ว #Ringsideการเมือง
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ ประเทศในแถบยุโรปเช่นฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และอีกหลายประเทศ เริ่มมองเห็นเค้าลางว่าจะเกิดสงครามใหญ่ในอีกไม่กี่ปีนี้ หลายๆประเทศจึงเตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ที่จะเกิดขึ้น คาดว่าแต่ละประเทศต่างคงเร่งผลิตอาวุธ ผลิตโดรนที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ผลิตจรวดความเร็วสูง ผลิตรถถัง ผลิตเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือรบด้วย ถ้ามองอย่างเป็นกลางในตอนนี้ อาวุธทางฝั่งประเทศยุโรปและอเมริกามีความทันสมัยมากกว่า สงครามใหญ่จะลุกลามไปหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง จะขยายวงกว้างมากขึ้น มากขึ้น ประเทศอิสราเอลคือสารตั้งต้น ที่ทำให้เกิดสงครามใหญ่ในแถบตะวันออกกลาง อีกไม่นานเกินรอ พี่น้องชาวมุสลิมหลายประเทศจะรวมตัวกันต่อสู้กับอิสราเอล...ผู้นำอิสราเอลโนสน โนแคร์ คำเตือนของผู้นำอเมริกา ที่แนะนำอิสราเอลว่าอย่าโจมตีเมืองราฟาร์ เพราะพลเมืองผู้บริสุทธิ์จะล้มตายจำนวนมาก...อิสราเอลไม่ยินยอมให้ UN ส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่มให้ชาวปาเลสไตร์ ทางอเมริกาและชาติอื่นๆต้องส่งเสบียงอาหารทางเครื่องบิน และทางเรือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรชาวปาเลสไตร์ที่หิวโหยอดอยากอยู่ในขณะนี้...อิสราเอลเหมือนจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตร์...คอยจับตาดูเมื่อไหร่ที่สงครามในประเทศตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น มันจะเป็นสัญญาณว่า...”สงครามศาสนา”...ได้เริ่มขึ้นแล้ว บรรดาชาติอาหรับจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่น การสู้รบจะแผ่ขยายไปทั่ว จากสงครามใหญ่ จะพัฒนามาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศอิสราเอลมีสิทธิที่จะถูกลบออกจากแผนที่โลก หรืออย่างน้อยพื้นที่ประเทศอิสราเอลก็จะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ................................................ ประเทศรัสเซียถูกก่อวินาศกรรม พลเมืองชาวรัสเซียตายไป 139 คน บาดเจ็บอีกนับร้อยคน งานนี้ปูตินผู้นำประเทศรัสเซียคงไม่ยอมจบง่ายๆ พลเมืองชาวรัสเซียต้องไม่ตายฟรี กลุ่มผู้ก่อการร้ายถูกจับกุม 11 คน คาดว่าคนเหล่านี้คงจะถูกจัดหนักจัดเต็มตามสไตร์ โหด สัส รัสเซีย ถูกทรมานไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ให้ตายง่ายๆ กลุ่มนักรบ ISIS-K (กลุ่มรัฐอิสลามแห่งโคราซาน) ออกมารับผิดชอบ แต่ผู้นำรัสเซียปูติน ไม่ฟังแถมยังพุ่งเป้าไปที่ยูเครนเพราะกลุ่มผู้ก่อการร้ายขับรถมุ่งหน้าจะเข้าประเทศยูเครน...หวยจึงไปออกที่ประเทศยูเครน ถูกรัสเซียถล่มโจมตีอย่างหนักต่อเนื่องติดๆกัน รัสเซียระบายความแค้นกับยูเครนอย่างหูดับตับไหม้ และคาดว่าเบื้องหลังทางรัสเซียคงหาวิธีสางแค้นกลุ่ม ISIS-K ที่เป็นผู้ก่อวินาศกรรม...รัสเซียคงจะรีบเผด็จศึกยูเครนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เตรียมตัว ผลิตอาวุธ ธุทโธปกรณ์เพิ่มให้มากที่สุด ทางรัสเซียเองก็คงรู้ว่าอีกไม่นานนี้...”สงครามใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะต้องเกิดขึ้น”...อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมีอาวุธสำรองให้มากที่สุด สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ใกล้จะเกิดขึ้น ประเทศแถบยุโรปและประเทศตะวันตก แต่ละประเทศต่างมีอาวุธที่ล้ำสมัย รวมทั้งเรือดำน้ำ เรือรบ และอื่นๆที่ล้ำหน้าและมีอานุภาพรุนแรงมาก ตอนนี้รัสเซียไม่ใช่สู้กับยูเครนเพียงประเทศเดียว แต่กำลังสู้กับบรรดาชาตินาโต้ที่สนับสนุนอาวุธให้กับยูเครน ต้องนับถือรัสเซียที่สามารถทำลายอาวุธของชาติยุโรปและชาติตะวันตกที่ส่งมาให้ยูเครน จนพังเสียหายไปมากมาย .....................................................กองทัพเรือของรัสเซียมีจุดอ่อนอยู่มากมาย ถูกยูเครนใช้โดรนและจรวดผิวน้ำจมเรือรบไปแล้วหลายลำ ทางกองทัพเรือรัสเซียต้องรีบหาวิธีป้องกันให้เร็วที่สุด แม้แต่เครื่องบินรบของรัสเซียที่ว่าเจ๋งๆ ยังถูกยูเครนสอยร่วงไปแล้วหลายลำ...เรือรบของประเทศอังกฤษก็อ่อนแอ สามวันดี สี่วันไข้ ต้องเข็นเข้าอู่ซ่อมหลายลำเช่นกัน คิดว่าทางรัสเซียคงจะมีการปรับปรุงกองทัพเรือให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น ทางรัสเซียมีโคตรจรวดที่มีอนุภาพการทำลายล้างสูงจำนวนมาก ถ้าเกิดสงครามโลกขึ้น แรกๆจะไม่มีการใช้จรวดนิวเคลียร์ยิงถล่มกัน แต่ใช้น้องๆจรวดนิวเคลียร์เข้าถล่มกัน การยิงนิวเคลียร์จะยิงออกจากเรือดำน้ำก่อนเป็นอันดับแรก แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะเริ่มใช้นิวเคลียร์ก่อนเท่านั้น หลังจากยิงนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะยิงนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่นอกประเทศของแต่ละฝ่ายเข้าใส่กัน ถ้ายังย่อยยับกันไม่พอก็จะใช้เครื่องบินบรรทุกจรวดนิวเคลียร์ไปหย่อนใส่ประเทศฝ่ายตรงกันข้าม คิดว่าการยิงจรวดนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศของตนเอง จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายเหมือนเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายถ้าประเทศตัวเองเริ่มเสียเปรียบในการทำสงคราม...คนหนุ่มคนสาวยุคนี้จะได้ชมและได้ดมพิษสงของนิวเคลียร์ (ยกเว้นประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมทำสงคราม) คนจะตายกันหลายสิบล้านคน อาจจะตายถึงนับร้อยล้านคนก็เป็นไปได้เช่นกัน ..................................................ประเทศจีน คงซุ่มผลิตอาวุธ และพัฒนาอาวุธอยู่ตลอด ประเทศจีนจะมีทหารมากที่สุด คิดว่าจะมีทหารอย่างน้อยก็ 30-50 ล้านนาย...ประเทศจีนทุ่มเงินซื้อตัวนักบินทหารที่เกษียณอายุราชการจากประเทศอังกฤษหลายนายมาเป็นครูสอนเด็กหนุ่มชาวจีนที่มีอายุ 18 ปี ให้เป็นนักบิน ควบคุมเครื่องบินรบ รุ่นหนึ่งรับเด็ก 200-300 คน ต้องเรียนต้องฝึกให้ชำนาญใช้เวลาประมาณ 4 ปี ต่อหนึ่งรุ่น พอฝึกรุ่นนี้เสร็จก็จะรับเด็กหนุ่มรุ่นต่อๆไปให้เข้ามาฝึกบิน เมื่อถึงเวลาเกิดสงครามคาดว่าประเทศจีน จะมีนักบินทหารมากที่สุดในโลก และคิดว่าประเทศจีนจะมีอาวุธบางชนิดที่ล้ำสมัยที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ถ้าเกิดสงครามขึ้น ดาวเทียมของสหรัฐจะถูกรบกวนหรือถูกทำลายไปบางส่วน แต่ไม่รู้ว่าประเทศจีนหรือรัสเซียเป็นผู้ลงมือทำลายหรือรบกวนดาวเทียมของสหรัฐ คาดว่าสหรัฐคงรู้เรื่องนี้และคงหาทางป้องกันดาวเทียมของตนเองอยู่เช่นกัน ดาวเทียมของสหรัฐมีหลายดวง ไม่ใช่แค่ดวงเดียว เพราะฉะนั้นฝ่ายผู้ที่คิดจะทำลายดาวเทียมของสหรัฐต้องหาวิธีปิดตาดาวเทียมของสหรัฐให้มากที่สุด หลายๆประเทศต่างก็มีดาวเทียมของตนเอง ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นอินเตอร์เน็ตคงใช้ไม่ได้ การติดต่อสื่อสารจะเป็นอัมพาต ใช้บัตรถอนเงินจากตู้ ATM ไม่ได้ ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของไม่ได้ และกดถอนเงินสดออกจากตู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรสำรองเงินสดเอาไว้ เตรียมซื้อข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม และยา โดยเฉพาะคนที่ต้องกินยารักษาโรคประจำตัวทุกวัน ............................................ประเทศเกาหลีเหนือ ไม่รู้ว่าจะมีอาวุธที่ทันสมัยจริงหรือไม่? เพราะเป็นประเทศที่ถูกปิด ถูกบอยคอตจากชาติตะวันตกและชาติยุโรปมานานแล้ว แต่หลายๆประเทศต่างก็รู้สึกหวั่นเกรงอาวุธของเกาหลีเหนือเหมือนกัน เพราะเห็นเกาหลีเหนือทดลองการยิงจรวดอยู่เสมอ แถมยังขู่ว่ามีอาวุธนิวเคลียร์สามารถยิงได้ไกล จนประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่นต่างก็หวั่นเกรงเกาหลีเหนือไม่น้อย ถ้าเกิดสงครามใหญ่ขึ้นเกาหลีเหนือก็มีทหารมากเหมือนกัน แต่จะรบเก่งแค่ไหนไม่รู้ คงต้องฟังแผนการรบจากประเทศจีนเป็นหลัก...ประเทศอิหร่าน ประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน สี่ประเทศนี้รวมตัวกันจะเป็นพี่ใหญ่ของประเทศตะวันออกกลางทั้งหมด...เพียงแต่ให้ประเทศอิหร่านคุมกำลังนักรบประเทศตะวันออกกลาง...ส่วนประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือ จะเป็นผู้ปะทะกับกองกำลังของชาตินาโต้เป็นหลัก...สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดแน่นอน อาจจะเกิดเร็วกว่าที่คาดไว้...หลายคนกังวลว่าประเทศไทยจะถูกถล่มจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วย แต่เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าร่วมรบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าเข้าร่วมรบก็โง่บรรลัย...ประเทศไทยจะเป็น “ครัวโลก” ส่งออกอาหาร ข้าวสาร และแป้งสำหรับทำขนมปัง และพืชผักนานาชนิดจำนวนมาก รวมทั้งอาหารทะเลด้วย ราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆจะแพงมาก การขนส่งก็ลำบากเพราะภัยสงครามเกิดขึ้นไปทั่วโลก...ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า ประเทศเวียดนาม ก็พลอยได้อานิสงส์จากราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆไปด้วย เกษตรกรจะร่ำรวยก็คราวนี้แหละ...บางคนคิดว่าสถานทูตอเมริกาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการขุดลึกลงไปหลายร้อยเมตร ทำเป็นสถานที่เจาะล้วงความลับความมั่นคงของชาติตรงกันข้าม จะถูกถล่มไปด้วย แต่ผมมั่นใจว่าสถานฑูตแห่งนี้มีสิทธิ์ที่จะถูกปิดตายจากวิธีใดวิธีหนึ่ง และท้ายที่สุดสถานฑูตแห่งนี้จะไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จ.เชียงใหม่จะไม่ถูกถล่มด้วยระเบิดอานุภาพแรงสูงอย่างแน่นอน แต่สถานฑูตอาจจะถูกก่อวินาศกรรม...หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 สงบลง จังหวัดตราด จะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น มากขึ้น หรืออาจจะมีอำเภอ / จังหวัดใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย เพราะประเทศเขมรจะต้องคืนพื้นที่ๆติดกับจังหวัดตราดให้กับประเทศไทย ในขณะนี้ไทยกับเขมรกำลังหาทางลงเรื่องเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อนกันอยู่ ในอดีตมีนักการเมืองบางคนที่ชั่วช้าเลวทราม ไปทำ MOU กับฮุนเซน แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย มีสองทางที่ไทยจะได้พื้นที่คืนจากเขมรคือจะได้ด้วยการเจรจา หรือได้มาจากการทำสงครามรบกับเขมร ซึ่งผลลัพธ์สุดท้าย ไทยจะได้พื้นที่คืนมาอย่างแน่นอน / ด้วยความเคารพ หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ 28 มี.ค. 2567 ...
    ไม่ระบุชื่อ
     •  10 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ลองอ่านข้อเขียนของคนระดับ เอกอัครราชทูตไทย ซึ่งท่านเห็นเหตุที่เกิดขึ้น ผ่านประสพการณ์ต่าง ๆ มาทั่วโลก เหมือนกับเราเมื่อโตขึ้นมาระดับหนึ่ง ความคิดความอ่าน จะแตกต่างจาก เมื่อตอนยังเด็ก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีมากขึ้น เพราะเราเห็นโลกมามากขึ้น และเป็นบทสรุปในใจเราได้ว่า อะไร เป็นอะไร เมื่อคนไทยต้องการ พรรคก้าวไกล ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องยินดีด้วย และ ปล่อยให้ระบบมันเดินไป แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแบบค่อยๆซึมเข้ามาคือการ ล่าอาณานิคมแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกา และ ประเทศตะวันตก วันนี้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นของการล่มสลายของประเทศไทย ก้าวไกลได้อะไร --> ได้เงินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ถูกหรือผิด ชั่วหรือดี พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหนึ่งที่ได้ Fund จากประเทศอเมริกา ผ่านองค์กร มูลนิธิลับ ๆ หลายแห่ง ในการขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อเปิดช่องให้อเมริกาสามารถแทรกแซงทางการเมืองไทยได้ สังเกตได้จากกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการล้มล้างสถาบันฯ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ รวมถึงการนำทูตสหรัฐและ ประเทศตะวันตกเข้ามา observe การประชุม สัมมนา หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ มันคือการล่าอาณานิคมแบบใหม่ที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยคำนึงถึง อเมริกาต้องการทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ของประเทศ และ การนำประเทศไทยตั้งฐานทัพ เพื่องัดอำนาจจากประเทศจีน ซึ่งทางอเมริกา พยายามจะเข้ามาตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วแต่ทางทหารไทยไม่ยอม ได้แค่เข้ามาฝึกซ้อมรบ คนจนของอเมริกามากกว่า 43 ล้านคน เท่ากับประชากร 1 ประเทศ แต่เศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกก็อยู่ในอเมริกา มันยิ่งเป็นการบอกว่าทุนการเงินมันสร้างการกระจุกตัวไว้ที่คนจำนวนหนึ่ง นี่คือความเหลื่อมล้ำจากระบบเสรีนิยมและ ทุนนิยม (ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริง) ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น เชื่อว่าไม่มีทางเลี่ยง อเมริกาอยู่ได้ด้วยอาวุธ แต่ถ้าไม่มีสงครามก็ขายไม่ออก อวกาศก็เหมือนกัน หรือถ้าอเมริกาต้องการนำอาหารเป็นตัวจูงเศรษฐกิจตัวเอง พื้นที่การผลิตอาหารไม่พอฉะนั้นต้องขยายดินแดน อเมริกาต้องการให้เกิดสงครามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่จะได้ขายอาวุธ และ คานอำนาจกับจีน ซึ่งได้เริ่มทำไปแล้วในฟิลิปินส์ เกาหลีไต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีโอกาสเกิดสงครามกับจีนและรัสเซียตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตหากยังดำเนินแบบนี้ต่อไป คงได้เห็นสงคราม ไทย-จีน! ไทยก็เช่นเดียวกัน อยู่ในชัยภูมิที่ดี มีทางออกทะเล และมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ต่างชาติยกย่องว่าเป็นครัวของโลก จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของอเมริกาและชาติตะวันตก แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการเข้ามาแทรกซึมประเทศไทยมี ความมั่นคงทางวิถึชีวิต และความภักดีใน สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คานอำนาจและเป็นเสาหลักของประเทศ จึงเป็นงานยากของอเมริกาที่ต้องลดบทบาทของสถาบันหลักเหล่านี้ให้อ่อนแอที่สุด จนถึงเป็นแค่สัญลักษณ์ เพื่อที่จะเข้ามายึดครองได้โดยง่าย (ไม่แปลกอะไรที่ ก้าวไกล ขอยกเลิก ม.112 มาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ ประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย บอกว่าเสนอเป็นญัตติมาอภิปรายไม่ได้ เพราะญัตตินี้ ผิด รธน.) สิ่งที่ชาติตะวันตกและอเมริกาได้ทำมาอย่างต่อเนืองมากว่า 60 ปี คือการสร้าง soft power แบบซึมเข้ามาในรูปแบบ การศึกษาที่ทันสมัย ภาพยนตร์ การให้ทุนนักเรียนเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมการล้างสมองให้คนของเราเสพติด คำว่าประชาธิปไตย ความทันสมัย ศิวิไลซ์ของเขา ของประเทศเสรีนิยม ทุนนิยม และ ผลักดันให้คนกลุ่มนี้กลับเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ พร้อมจะเปลี่ยนประเทศโดยไม่สนใจรากเหง้าเดิม คนเหล่านี้จะมีแนวความคิดแบบชาติตะวันตกเต็มตัว พร้อมที่จะทำตามและอ้าแขนรับอำนาจตะวันตก โดยถึงขั้นมองว่าถ้าต้องเป็นประเทศอาณานิคมก็ไม่แปลกอะไร เพราะคงจะได้รับความรู้ความเจริญมา ในฐานะ"นักเรียนนอก" และวันนี้พวกเค้าทำสำเร็จแล้ว ก้าวแรกของการล่าอาณานิคมใหม่ เริ่มขึ้นโดยการต้องเริ่มกระบวนการลดกำลังทหาร และ ลดบทบาทสถาบันกษัตริย์ คนหนุ่มสาวของประเทศ มีแนวคิดแบบตะวันตกมากกว่าครึ่งประเทศถูกเสพติดด้วยข้อมูลบิดเบือนมาเป็นเวลานาน เริ่มแสดงตัวตน แบบคนกระหายความสำเร็จ กระหายความเจริญ และ ศิวิไลย์ แบบชาติตะวันตก ดูได้จากการแสดงออกใน social media ที่พยายามแสดงถึงความ หรูหรา ฟุ่มเฟือย ชีวิตที่ดี กินหรู อยู่สบายใช้ของ brand ผู้คนเหล่านี้มีความรู้ มีฐานะ การงานที่ดี และคิดว่า "กูโตมาได้้ หาเงินได้ ด้วยความสามารถตัวเอง พ่อแม่ตัวเอง ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯ" ส่วนคนจนก็จะโทษทุกสิ่งอย่างรอบตัวที่ไม่ใช่ตัวเอง ความคิดแบบนี้กำลังจะพังประเทศตัวเอง เป็นความคิดแบบเห็นแก่ตัวแบบสุดขั้ว และการกอบโกยทรัพยากรเต็มที่ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนรุ่นเก่าๆอีกหลายคน แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการให้เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดไป อาจจะยังไม่ได้เกิดในปี สองปีนี้ อาจจะค่อยๆซึมเข้ามาเป็น 5-10ปี ก็คงต้องคอยดูต่อไป ขอให้ประเทศไทยพ้นผองภัย ขอให้ฝ่ายค้านที่ยังเป็นคนเจ็นคุณภาพ รักบ้านเกิดเมืองนอนตนเอง ได้ทัดทาน ไม่ให้คนชั่วคว่ำฟ้าพลิกดิน คบต่างชาติให้เข้ามากลืนชาติ นำพาสู่สงคราม ได้สำเร็จ เข้าทางไอ้กันมันแล้ว มันเริ่มให้ไอ้พวกนี้ออกมาก่อกวน แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้นเหมือน Hong-Kong Model จนเกิดกลียุคสงครามกลางเมือง จนทางการคุมไม่อยู่จนต้องใช้ความรุนแรง (เคยทราบไหม หยก เด็กหญิง อายุ 15 ปี มายืนกลางถนน อ่านหนังสือด่าในหลวง เพื่อให้ถูกจับ เมื่อตำรวจจับไป ไม่มีใครมายื่นประกัน เพื่อเอาเป็นข้อเรียกร้องว่า จับเด็ก 15 ขวบ ขัง ไม่ให้เรียนหนังสือ) แล้วมันก็จะฟ้องไปทาง UN จนไอ้กันขนทหารเข้ามาควบคุมประเทศ อันตรายมากที่จะเกิดวิกฤตแบบ Hong-Kong ตอนนี้ก็เตรียมย้อนอดีตไปสมัยช่วงสงครามเวียดนาม ที่ไทยเรายอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเพื่อประจัญหน้ากับจีน ก่อนหน้านี้ US ก็ทำสำเร็จแล้วที่ ฟิลิปปินส์ ได้ลูกชายของอดีตปธน.มาร์คอส ขึ้นมา และทันทีก็หันไปซบอเมริกายอมให้ใช้ฐานทัพเพื่อเผชิญหน้ากับจีน และก็ไม่ผิดคาดแต่อย่างใดที่การเลือกตั้งในไทยก็ได้พรรคที่มีแนวโน้มโปร US ขึ้นมาเพราะเขาได้วางแผนการในการใช้สื่อเกลี้ยกล่อมและ convince คนรุ่นใหม่จนประสบผลสำเร็จ ด้วย keywords คำว่า “ประชาธิปไตย” “ยกเลิก ม.112” “ความเหลื่อมล้ำในสังคม” ”นายทุนผูกขาด” มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รัฐบาลฝ่ายขวาที่อนุรักษ์นิยมทำอะไรไม่ได้เลย เพราะยุทธศาสตร์การเมืองยุคใหม่คือ ใครครองหรือครอบงำสื่อโซเชียลได้ ผู้นั้นครองโลก ! ก็ไม่ต่างจากสมัยยุคล่าอาณานิคม ที่มีคำพูดว่า ใครครองน่านน้ำคนนั้นครองโลก หรือที่เรียกกันว่า “การทูตเรือปืน” ( Gunship Diplomacy) สมัยนั้นเราต้องเสียดินแดนไแก็เพราะยุทธศาสตร์แบบนี้ พอยุคสงครามเย็นก็ใครครองอวกาศผู้นั้นครองโลก พอมายุคนี้ใครครอบครองสื่อโซเชียล หรือ สื่อออนไลน์ได้ ผู้นั้นก็ครอบงำโลกได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแบบนี้เลย พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า กลุ่มทุนสามานต์ต่างชาติที่เป็นนอมินีให้กับ US นั้นมีหุ้นใหญ่อยู่ใน FB Twitter และเดี๋ยวนี้ลงไปถึง Netflix / HBO เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังทุกเรื่องหากมีพากย์ไทยจะถูกสอดแทรกเรื่องการเมืองลงไปเท่าที่เขาจะสอดแทรกได้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกับคนรุ่นใหม่ให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในไทยให้ได้ ผมอยู่ที่ Film Board ได้รับรู้อะไรเยอะมากครับว่าพวกเขาทำกันยังไง ไม่เว้นแม้แต่ในบริษัทผลิตยาและวัคซีนมหาเทพ ก็มีกลุ่มทุนสามานย์ นอมินีของ US ถือหุ้นอยู่ คงจำกันได้ที่วัคซีนมหาเทพที่ถูกปั่นในหมู่ศิลปิน ดารา นักร้อง นางงาม เซ็เล็บ แล้วก็ด่าจีนเรื่องวัคซีนน้ำเกลือ วัคซีนเซินเจิ้น ไม่เว้นแม้แต่การดูถูกวัคซีน AZ ที่ไทยเราผลิตได้ในประเทศก็กลายเป็นประเด็นกระทบถึงสถาบัน นั่นคือผลงานของการปั่นจากผู้ที่ครอบงำสื่อได้ เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคงวางแผนลงไปทุกอณูของสื่อ ไม่เว้นแ้แต่การ์ตูนอานิเมะ เพจหมาแมว สัตว์เลี้ยง กีฬาสีเด็กประถม/มัธยมนยังมีเดินขบวนล้อการเมืองเลย ยังจำภาพเด็กมัธยม รร.แห่งหนึ่งใน จ.อุดร ถือป้ายในงานกีฬาสีเขียนชื่อป้ายประเทศว่า Repuplic of Thailand ! เดิม US เคยเกือบทำสำเร็จใน Hong Kong แต่จีนไม่ยอมง่ายๆ จีนใช้ไม้แข็งเพราะเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์ จึงคุม Hong Kong ได้ในที่สุด แต่ตอนนี้ US ประสบความสำเร็จแล้วที่ฟิลิปปินส์ และไทย ผมมองเห็นอนาคตว่าเราจะถูกผลักให้จำเป็นต้องเลือกข้าง US ซึ่งตรงนี้จะมีความน่ากลัวเพราะจีนเองก็คงไม่ยอม และไทยเราอาจกลายเป็นสนามประลองกำลังของมหาอำนาจในที่สุด ยิ่งตอนนี้เสถียรภาพทางการเงินของ US อยู่ในขั้นวิกฤต อาจผิดสัญญาชำะหนี้ต่างชาติได้ (ญี่ปุ่นและจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่) ทางเดียวที่อาจจะช่วย US ได้คือ คือการทำ Trade War Business ! พวกผมเคยผ่านและเคยได้เห็นสภาพตอนที่เราต้องยอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยถึง 7 แห่งในช่วงสงครามเวียดนามมาแล้ว แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ ไม่เคยศึกษา อิทธิพลของสหรัฐฯที่ทิ้งไว้ก็คือวัฒนธรรมแบบแยงกี้ บาร์เบีย / เมียเช่า / อะโกโก้ โชว์ลามก นั่นคือจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของไทย จากเดิมสังคมวัฒนธรรมไทย ที่ผู้หญิงขี้อายรักษักดิ์ศรี ก็กลายเป็นผู้หญิงไทยโดนหมิ่นเกียรติเยอะมากเวลาไปต่างประเทศ เราอาจกลายเป็น สมรภูมิแห่งความขัดแย้งในภูมิภาค เราอาจกลายเป็นแบบยูโกสลาเวีย หรือ เนปาล ยูเครน โมเดล ต่อไปนี้คงคาดเดาลำบาก เพราะทุกอย่างก็เริ่มเข้าเค้าตามแนวทาง New World Order ของ US ไปทุกที พวกผมคงอยู่กันอีกไม่นาน ถึงตอนนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของคนที่ออกคะแนนเสียงในวันนี้ว่าคุณต้องเลือกหนทางเดินให้ประเทศไทยให้ได้ อย่าให้อายคนรุ่นเก่าที่เขายอมเสียสละปกป้องประเทศไทยมาได้นะครับ ________ Cr: Fuangrabil Narisroj (นริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา)
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ทักษิณ ผิด อะไร" อุ๋งอิ๋ง บอกไม่รู้ เอ้าจะบอกให้ 1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน 2. ลดสัมปทาน ITV ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ ที่เคยมีอุดมการณ์ เปลี่ยนมาทำลาย วัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลี มาฉาย และปิดสื่อความไม่ดี สร้างภาพดีๆ ให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%) 3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร 4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเอง คุมตำรวจ 5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจ พวกพ้องตัวเองคุม กกต. 6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจ พวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก 7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำ เพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้ สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ… มาคุมทุกเหล่า 8. กล่าวคําพูด ท้าทายพวกก่อการร้าย ในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรง คนตายมากมายและหลุดปากด่า ทหารว่า “สมควรตาย” 9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000 ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนด แล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย 10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียม ทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star 11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star 12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุน โครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่ เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับ การยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี 13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิด ขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจาก แปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้ กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุน กว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไร แทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็น กำไรของตระกูลพวกถือหุ้น 14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเอง ขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิด ไหนบอกว่ารักครอบครัวไง 15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย 0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถม ได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี 16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณา ที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับ การเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับ บริษัทอื่น 17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่าน สยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลาน เปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง 18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดี กับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ 19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือก ไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณ ไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกิน ก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาด หาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็ม สภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดู น้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจาก กลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการ เมืองไทยรายสัปดาห์ 20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการ เลือกตั้งให้สามารถโกงการ เลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี 20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอ เวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ ทุกเวลา 20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมี สามารถทำได้) 21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนก ทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบ ต้องตายแล้วยังไปแสดงการ กินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี. นายทุนพรรคเท่านั้น 22. ทําให้เกิดการฆ่า ตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์ กว่า 2000 คน จากการปราบ ยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ 23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อน ทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้อง เอาเงินไปฟอกต่างประเทศ เอาเปรียบใน การทําธุรกิจ ผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคน ในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวย มหาศาล 24. โกงที่ดินวัดของสนาม กอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดิน ธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้งๆ รู้ว่า ที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะ ไม่กลัวบาปกรรม 25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐ ที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำ ค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่ม แทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ ชัดเจนของการปฎิรูปการ ศึกษาไทย ประชาชนจะ ถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจาก ประเทศไทยที่กฎหมายบอก ว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมี ใครบ้างที่เรียนฟรีถาม ผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย 26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษๆ รัฐบาล ชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลาย สิบปี กลับร้อนระอุกลาย เป็นแดนมิคสัญญี 27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดิน ไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไร แอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่า จะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดิน ไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ ตารางนิ้วเดียวไงใช้ อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็น ด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมี เปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญ ชาวไทยเรียกร้องอธิปไตย ชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็น ไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อ ด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกัน หมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือ สิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อน แหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงิน เหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแก ประชาชน ยุคทหารฆ่าล้าง เผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรง อยู่เหนือเหตุผล 28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้ราก หญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้า แบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง 29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจาก นายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออก จากตำแหน่ง 30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหา ภายในสภาสักหน่อย อภิปราย ไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมี ไม่พอ 31. วันที่ประกาศยุบสภา ประกาศพร้อมกันว่าให้ไป เลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง 32. คุณหญิงพจมาน อยากมี สมเด็จพระสังฆราชประจำ ตระกูลตัวเอง จึงให้ นายวิษณุ เครืองา ลงนาม แต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จ พระสังฆราช เมื่อ วันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกล มหาสังฆปรินายก ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราช พระราชทานรางวัลให้กับเด็ก นักเรียนที่ได้รับทุนของ มหามกุฏราชวิทยาลัยในการ ประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา 33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริต ของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุด ตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวน การสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะ หาหลักฐานทุจริตที่ห้อง คุณหญิง ต่อมาคนดีอย่าง คุณหญิงก็ได้กลับมาทำงาน เหมือนเดิม 34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบิน เป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับ ถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะ ซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อ ทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความ ดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน… 35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะ ไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดิน ครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียว ก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้ว นี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทย ว่าจะไปพักผ่อน บอก ตรงๆก็ได้ 36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้า ของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาท ซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไป ใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่า เป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อ เพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ ประมาณ 1,432 ล้านบาท กะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ? 37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทย ที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบิน ของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็น สายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงาน ราชการว่านอกจากการบินไทย แล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิก ค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ) 38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่ มากมายในต่างจังหวัด มันสั่ง ให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณ ของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ 39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้ รับสัมปทานดาวเทียมไทยคม โดยการสนับสนุนอย่างดีจาก รัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดย อิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบ แน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับ สนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดี ในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด 40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง( .112 ) 40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้ รัฐบาลพิจารณาเครื่องบิน ราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่า ที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้า ให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน.. จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้ เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่ เชียงใหม่…… ถ้ารู้แบบนี้เแล้ว.. ยังคิดว่าพ่อทำเพื่อชาติอีกไหม? @Lung gard
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    "เหลียวพม่า มองไทย" ย้อนศึกษาประวัติศาสตร์ ช่วยบอกปัจจุบันและอนาคต ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวตะวันตกรู้จักและมีความสนใจแค่ 2 มหาอำนาจในดินแดนตะวันออกไกล ซึ่งก็คืออินเดียและจีน เท่านั้น จุดเริ่มต้นจริงๆ ที่ทำให้ประเทศในดินแดนในแหลมอินโดจีนโดนคุกคาม นั้นมาจากพม่าที่เริ่มต้นไปกระตุกหนวดเสือ เพราะพม่าคิดว่าตัวเองเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลอยู่ในแถบนี้ จึงส่งกองทัพไปบุกโจมตีเพื่อจะขยายอำนาจเข้าไปในเบงกอล ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐอิสระในเขตอิทธิพลของอังกฤษในอินเดีย แต่สงครามจบลงด้วยการพ่ายแพ้อย่างยับเยินของพม่า และที่สำคัญคือการทำให้อังกฤษสนใจจะขยายอำนาจจากอินเดียที่ตนครอบครองอยู่แล้ว เข้ามาสู่พม่าและดินแดนถัดไปในแหลมอินโดจีน ที่มีไทยอยู่ในจุดศูนย์กลาง ก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ พม่าคือชาติมหาอำนาจในดินแดนแถบนี้ แล้วเวลาผ่านไปพม่าก็เริ่มเสื่อมลง แต่พม่ายังคงเข้าใจว่าตัวเองยิ่งใหญ่ เมื่ออังกฤษมีอำนาจเหนืออินเดีย พม่าจึงลองของ หวังจะแสดงฤทธานุภาพ เช่นเดียวกับจีน ที่ ณ เวลานั้นความยิ่งใหญ่จากยุคที่เคยเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกในอดีต ทำให้จีนยังคงลำพอง ทั้งๆ ที่ไม่เคยพัฒนาอะไรใหม่ขึ้นมาเลย ผิดกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมสำเร็จ จนเป็นผู้นำแห่งเทคโนโลยี เมื่ออังกฤษมาถึง ทั้งจีนและพม่าจึงพ่ายแพ้อย่างยับเยิน เพราะประเมินตัวเองสูง แต่ประเมินอังกฤษไว้ต่ำ ในขณะที่ไทยเรา หลังจากกรุงศรีอยุธยาแตก แล้วสมเด็จพระเจ้าตากสินมากู้แผ่นดิน ตามต่อมาด้วยพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ตั้งใจทะนุบำรุงบ้านเมือง จากรัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 5 ที่เป็นช่วงเวลาที่ฝรั่งเริ่มขยายอำนาจมาถึง ไทยก็เป็นประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียไปแล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 4 บวชเรียนอยู่หลายสิบปี ศึกษาศิลปวิทยาทั้งไทยและเทศ จนเป็นปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เมื่อขึ้นครองราชสมบัติก็จ้างฝรั่งมาทำงาน รวมทั้งจ้างฝรั่งมาสอนภาษาและศิลปวิทยาการสมัยให้กับพระราชโอรสและพระราชธิดา ข้าราชบริพาร เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 5 ครองราชย์ และมีอำนาจเต็มเมื่อพระชนมพรรษา 20 ก็ทรงรอบรู้ศิลปวิทยาการสมัยใหม่เรียบร้อยแล้ว จนมีหลักฐานบันทึกไว้ว่า ทรงได้รับการยกย่องจากชาติตะวันตก ว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่สมาร์ทที่สุดในเอเชีย สมาร์ทในที่นี้หมายถึง ความรู้ความสามารถและวิสัยทัศน์ รวมทั้งหมายถึงการแต่งกายและการเข้าสังคมแบบชาวตะวันตก ทรงไม่ได้รับมือ มหาอำนาจของโลกด้วยการทหาร อย่างจีนและพม่า แต่ทรงใช้วิธีพัฒนาประเทศและบุคลากรให้ทันสมัยเทียมหน้าฝรั่ง รวมทั้งทรงใช้ทูตเป็นเครื่องมือในการต่อกรกับมหาอำนาจฝรั่ง ความสามารถทางการทูตของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ชัด ทั้งการเดินทางไปเจรจาทางการทูตด้วยพระองค์เอง และทั้งส่งพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการเป็นตัวแทนพระองค์ วันที่พม่าเสียเมือง คณะราชทูตไทย และคณะราชทูตพม่าอยู่ที่อังกฤษเรียบร้อยแล้ว แต่พม่าเดินเกมส์การเมืองผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ยากจะเยียวยา วันนั้น คณะราชทูตพม่า ประเทศที่เคยเป็นศัตรูสู้รบกันมาหลายร้อยปี ยังไม่ทันมีโอกาสจะเข้าเจรจาการทูต เพราะพม่าเสียเมืองให้อังกฤษไปเสียก่อนแล้ว จึงมาขอเข้าพบเพื่อปรับทุกข์กับคณะราชทูตของไทย คณะราชทูตพม่าต้องมานั่งร้องไห้เสียใจกับคณะราชทูตของไทย กับการเสียเมืองในคราวนั้น ในอดีต พม่าประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ กว่า 135 ชนชาติ จนกระทั่งตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และได้แบ่งการปกครองในพม่าออกเป็น 2 ส่วน คือ เขตพม่าแท้และเขตภูเขา โดยเขตพม่าแท้อยู่ทางตอนกลางของประเทศ เขตภูเขามี 7 รัฐ คือ ฉาน กะเหรี่ยง มอญ กะยา กะฉิ่น ชิน ยะไข่ โดยเฉพาะ “รัฐฉาน” มี 34 เมืองแต่ละเมืองมีเจ้าฟ้าปกครองดูแล รัฐฉาน หรือเมืองไต เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศพม่า ภูมิประเทศเป็นผืนป่าและภูเขาสูง เป็นรัฐที่ร่ำรวยไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ตั้งแต่ในอดีตเรื่อยมาจนถึงปี 2502 รัฐฉานได้ปกครองด้วยระบบเจ้าฟ้า หรือคล้ายๆ กับเจ้าเมืองปกครอง โดยเจ้าฟ้าสืบทอดเชื้อสายในตระกูล ในบันทึกประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมของอังกฤษ รัฐฉานมีเจ้าฟ้าปกครองทั้งสิ้น 34 หัวเมือง อังกฤษบอกว่าถ้าต้องการได้รับเอกราชจากอังกฤษ ต้องรวมการปกครองให้เป็นหนึ่งเดียวเสียก่อน เขตพม่าแท้จึงชักชวนเขตภูเขาให้มารวมตัวเป็นประเทศเดียวกันเป็นการชั่วคราว หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นายพลอองซาน บิดาของนางอองซาน ซูจี ได้หันมาโน้มนาวให้รัฐต่างๆ รวมถึงรัฐฉานร่วมกับพม่าเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ ด้วยความที่ไม่เชื่อใจพม่ามาตั้งแต่ต้น ทางเจ้าฟ้าจึงได้ขอให้มีการทำข้อตกลงกันไว้ที่เมืองป๋างโหลง ทางใต้ของรัฐฉานเมื่อปี 2490 ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า “สัญญาป๋างโหลง” ซึ่ง 1 ใน 9 ข้อตกลงนั้นระบุไว้ว่า หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษและอยู่ร่วมกับพม่าครบ 10 ปี รัฐฉาน รัฐชินและรัฐคะฉิ่นที่เข้าร่วมลงนามสัญญาป๋างโหลงมีสิทธิ์แยกตัวออกจากพม่าไปตั้งประเทศได้ตามที่ต้องการ ในรัฐธรรมนูญฉบับแรกของพม่าก็มีการเขียนไว้ด้วยว่า ‘รัฐฉานสามารถเป็นอิสระจากพม่าได้ในปี 2501’ หลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ รัฐต่างๆ และพม่าได้รวมตัวก่อตั้งเป็นสหภาพพม่าขึ้น มีประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีและใช้ระบบสภา แต่อาจกล่าวได้ว่า การรวมกันเป็นสหภาพนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากแนวคิดของนายพลอองซาน มาตั้งแต่ต้น แต่มาจากริเริ่มของเจ้าฟ้าไทใหญ่ ที่พยายามก่อตั้งสหภาพขึ้นขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ 2488 โดยในตอนแรกมีแนวคิดจะร่วมกับรัฐคะฉิ่นและรัฐชิน แต่ไม่รวมกับพม่า หลังจากพม่ารวมประเทศ "เจ้าฟ้าส่วยแต๊ก" แห่งเมืองหย่องห้วย (ยองห้วย) รัฐฉาน ได้รับการแต่งตั้งเป็นเป็นประธานาธิบดีคนแรกของพม่า มีนายอองซานได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมานายอองซานถูกลอบสังหาร นายอูนุจึงเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ จนกระทั่งครบ 10 ปี รัฐต่าง ๆ จึงขอแยกตัวเป็นอิสระตามข้อตกลงใน “สัญญาปางโหลง” แต่นายอูนุ ไม่ยอมเนื่องจากกลัวว่าจะสูญเสียรายได้จำนวนมากที่ได้จากทรัพยากรธรรมชาติในดินแดนของรัฐต่างๆ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันอย่างต่อเนื่อง ความพยายามขอแยกตัวออกมาจากพม่ายังไม่ประสบความสำเร็จ ในปี 2502 เจ้าฟ้าถูกขอให้สละอำนาจ ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกับพม่า แต่ความไม่ชอบมาพากลเริ่มเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อกองทัพพม่าได้ส่งทหารพม่าเข้ายึดครองพื้นที่ต่างๆ ของรัฐฉาน โดยใช้ข้ออ้างเข้ามาปราบปรามทหารก๊กมินตั๋งที่ถอยร่นมาจากประเทศจีน แต่ฝันร้ายที่สุดของรัฐฉานเกิดขึ้นจนได้ในปี 2505 เมื่อนายพลพม่านามว่า ‘เนวิน’ ได้ยึดอำนาจและปกครองประเทศโดยระบอบเผด็จการทหาร จากความอ่อนแอของรัฐบาลชุดนายอูนุ ทำให้นายพลเนวิน ผู้บัญชาการทหารบกของพม่าขณะนั้น ปฏิวัติยึดอำนาจในปี พ.ศ.2505 ประกาศยุบสภา ส่งผลให้สัญญาปางโหลงกลายเป็นโมฆะไป บรรดาพระเทวี เจ้าชาย เจ้าหญิง ตามเมืองต่างๆ จึงต้องหนีตายกันจ้าละหวั่น หลังจากการรัฐประหาร บรรดาเจ้าถูกกวาดล้างและถูกควบคุมในวัง จะไปไหนอย่างไรต้องรายงานทหารและถูกควบคุม หลังเนวินยึดอำนาจในปี 2505 เจ้าฟ้าเมืองต่างๆ ทุกพระองค์ถูกยึดทรัพย์ และถูกจับกุมตัวไปคุมขังไว้ที่คุกอินเส่ง ในย่างกุ้งเป็นเวลานานเกือบนับ 10 ปีในฐานะนักโทษทางการเมือง เจ้าฟ้าบางพระองค์สิ้นพระชนม์ในคุก หนึ่งในนั้นคือเจ้าฟ้าส่วยแต้ก แห่งเมืองหยองห้วยที่สิ้นพระชนม์จากโรคหัวใจล้มเหลว หลังอยู่ในคุกนานกว่า 8 เดือน เจ้าส่วยแต้กดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศพม่า ในหนังสือ ‘The White Umbrella’ ได้กล่าวไว้ว่า ในงานพิธีศพของเจ้าส่วยแต้กที่จัดขึ้นที่วังหยองห้วยนั้น มีประชาชนจำนวนมาก ทั้งชาวไทใหญ่ ชาวพื้นเมืองที่เดินเท้ามาจากภูเขาอันห่างไกลเป็นเวลาหลายวันเพื่อมาเคารพศพของเจ้าส่วยแต้กเป็นครั้งสุดท้าย ภาพของผู้คนจำนวนมากที่มาร่วมงานศพของเจ้าฟ้าองค์นี้กลายเป็นภาพที่แสดงออกถึงการต่อต้านไม่ยอมรับกองทัพพม่าโดยปราศจากอาวุธ เป็นงานศพเจ้าฟ้าที่จัดอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นในรัฐฉาน อีกหนึ่งเจ้าฟ้าที่ชีวิตพลิกผันนั่นคือ ‘เจ้าจายหลวงแห่งเมืองเชียงตุง’ เมืองใหญ่สำคัญอันดับต้นๆ ของรัฐฉาน เจ้าจายหลวงที่สำเร็จการศึกษามาจากต่างประเทศและเพิ่งได้ขึ้นบริหารเมืองเชียงตุงเพียง 15 ปี ถูกเนวินจับคุมขังเป็นเวลา 6 ปี ที่คุกอินเส่ง มรสุมชีวิตของท่านยังไม่จบแค่นั้น ถึงแม้ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับเชียงตุง ต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ย่างกุ้งจนวาระสุดท้าย เจ้าจายหลวงวัย 70 ปี สิ้นพระชนม์ที่ย่างกุ้งเมื่อปี 2540 โดยไม่มีโอกาสได้เห็นบ้านเกิด ปิดฉากเจ้าฟ้าองค์สุดท้ายแห่งเชียงตุง รัฐฉานน้อยใหญ่ทางตอนเหนือของพม่า ที่ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเป็นพม่า ได้นัดแนะจะรวมชาติเป็นสหภาพแห่งรัฐฉาน แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของพม่า ที่ขอให้รัฐฉานมารวมกับพม่า เป็นสหภาพพม่า เพื่อรวมกำลังเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษก่อนแล้วค่อยแยกประเทศ แต่เมื่อได้เอกราชจากอังกฤษ พม่าก็หักหลัง ฉีกสัญญาที่จะให้รัฐฉานเป็นอิสระ ตอนจบของเรื่องนี้ พม่าเสียเมือง สิ้นแสงฉาน แต่สยามยังอยู่ยั้งยืนยงคงเอกราชเอาไว้ได้จนถึงปัจจุบันนี้ ก็เพราะพระบารมี พระปรีชาสามารถ และพระวิริยอุตสาหะในการทนุบำรุงชาติและประชาชนของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ เกิดเป็นไทยแล้ว ต้องรู้คุณแผ่นดิน ต้องรู้คุณพระมหากษัตริย์ไทย อย่าได้ให้ใครมาทำร้ายลูกหลานเหลนโหลนของราชวงศ์จักรี ที่ทุ่มเททุกอย่างให้คนไทยมีแผ่นดินอยู่ เหลียวดูพม่าแล้ว มองกลับมาที่ไทยเรา ใครที่หลอกคนไทย ว่าไทยไร้ซึ่งอิสรภาพ เสรีภาพและความเสมอภาค ถึงแม้ว่าเราจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา แต่เราคือหนึ่งในอันดับต้นๆ ของประเทศที่กำลังพัฒนา และเราคือประเทศที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในแหลมทองอินโนจีนแห่งนี้ ประชาชนชาวพม่า ลาว กัมพูชา ผู้น่าสงสารนั้น บ้านเมืองเคยผ่านความไม่สงบสุข เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจนั้นถูกทำลาย จนถึงทุกวันนี้พม่า ประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และทรัพยากรมากมายมหาศาลยังคงไม่เคยได้รับการพัฒนา เพราะการเมืองที่ขาดคนกลาง อย่างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจอย่างที่คนไทยมี และถึงแม้จะเปลี่ยนทั้งเมืองหลวงและชื่อประเทศมาหลายครั้ง ก็ยังคงมีปัญหาการเมืองไม่สิ้นสุด ทุกวันนี้เราพบชาวพม่าต้องทิ้งถิ่นที่อยู่ออกมาขายแรงงานอยู่ทั้วไทย แต่ถ้าเรายังขาดสติและปัญญา ปล่อยให้นักการเมืองที่หวังเพียงผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องหลอกลวง ส้กวันเราอาจจะเป็นอย่างพม่า ใช้สติและปัญญาทบทวนให้ดีๆ ว่าใครหวังดี ใครหวังร้ายต่อชาติและประชาชน อัษฎางค์ ยมนาค #ธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม #ThammasatPitakTham
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false