1 คนสงสัย
งานวิจัยเผย “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” มีผลดีต่อสุขภาพ
9somoz
งานวิจัยเผยดื่ม เครื่องดื่มแอลกฮอล์ ทุกวันให้ผลดีกว่าการออกกำลังกาย เราถูกปลูกฝั่งใส่สมองแต่เด็กๆถึงโทษของการดื่มแอลกฮอล์ ที่ส่งผลต่อร่างกาย เราคงไม่ออกมาคัดค้านเรื่องดังกล่าวเพราะของบางอย่างหากดื่มเข้าร่างกายมากเกินไปมักส่งผลเสีย แต่หากดื่มในปริมาณที่พอดีก็สามารส่งผลดีต่อร่างกายได้
http://88score.net/news/hot-news/post-16428.html
ไม่ระบุชื่อ
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Sunit Shrestha เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

พูดไม่หมด บิดเบือน

ที่มา

https://www.livescience.com/61824-drinking-alcohol-longer-life-explainer.html

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ลองดู สัก 1 เดือนไม่เสียเงิน / กลุ่มแพทย์ชาวญี่ปุ่น ยืนยันว่า "น้ำอุ่น"มีประสิทธิภาพ ในการแก้ปัญหาสุขภาพได้ 100% เช่น: 1 ไมเกรน 2 ความดันโลหิตสูง 3 ความดันโลหิตต่ำ 4 อาการปวดข้อ 5 เพิ่มขึ้นและลดลง ของการเต้นของหัวใจ อย่างฉับพลัน 6 โรคลมชัก 7 เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล 8 ไอ 9 ไม่สบายตัว 10 หอบหืด 11 ไอแบบช่วง 12 การอุดตันของหลอดเลือดดำ 13โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ 14 ปัญหาในกระเพาะอาหาร 15 การย่อยอาหารไม่ดี 16 โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา หู และลำคอ 17 ปวดศีรษะ #ใช้น้ำอุ่นอย่างไร# ลุกขึ้นในตอนเช้า และดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้ว เมื่อท้องว่างเปล่า คุณอาจจะไม่สามารถที่จะทำให้ได้ 4 แก้วในตอนที่เริ่มต้น แต่ไม่ช้าคุณจะทำได้..... #หมายเหตุ: อย่าพึ่งกินอะไรตามหลังจากดื่มน้ำผ่านไป 45 นาที การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายใน หรืออาการทัองผูก เช่น ○โรคเบาหวาน ภายใน 30 วัน ○ความดันโลหิต ใน 30 วัน ○ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ใน 10 วัน ○มะเร็งทุกชนิด ภายใน 9 เดือน ○การอุดตันของเส้นเลือด ใน 6 เดือน ○การย่อยอาหารไม่ดี ใน 10 วัน ○มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้อง ใน 10 วัน ○ปัญหาจมูกหูและลำคอ ใน 10 วัน ○ปัญหาผู้หญิง ใน 15 วัน ○โรคหัวใจ ใน 30 วัน ○ปวดหัว / ไมเกรน ใน 3 วัน ○คอเลสเตอรอล ภายใน 4 เดือน ○โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 9 เดือน ○หอบหืด ภายใน 4 เดือน #พึงระลึกไว้เสมอว่า น้ำเย็นจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ หากน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยเด็ก ก็จะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา #น้ำเย็นจะปิด 4 หลอดเลือดดำของหัวใจและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอาการหัวใจวาย #นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น #*น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่ และส่งผลต่อมะเร็ง ##โปรดอย่าเก็บข้อมูลนี้ไว้ เพื่อตัวคุณเอง บอกให้ใครบางคนซึ่งอาจช่วยชีวิตคนอื่นได้น
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เขียนได้โดนมากๆ ขอแชร์ให้คนไทยทุกคนได้อ่าน “ชีวิตจะดีหรือเลว อยู่ที่ตัวคุณเอง ไม่ใช่รัฐบาล” ไม่ทราบชื่อผู้เขียน…แต่เขียนสะท้อนความจริงได้ดีมาก วันนี้ ผมอยากให้คุณเปิดใจเป็นกลาง มองโลกแห่งความเป็นจริง แล้วอ่านสิ่งที่ผมเขียน... ประชาชน เรียกร้องหา การพัฒนาที่ดี เศรษฐกิจที่ดี ชีวิตที่ดี สวัสดิการที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี ขอให้ทุกคนรวยขึ้น มีความสุขมากขึ้น มีคนจนหมดไป แต่ตัวเองกลับทำตัวตรงข้าม คือ ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น อยากให้ประเทศพัฒนา แต่ไม่เคยพัฒนาคุณภาพตัวเอง นายกคนไหน ก็แก้ปัญหาไม่ได้ ถ้าคนในประเทศยังขี้เกียจ ขาดจิตสำนึก ขาดคุณธรรม ขาดสติ ไร้ปัญญา ไร้การศึกษา หรือมีการศึกษาสูง แต่จิตสำนึกต่ำ คุณธรรมต่ำ คิดแต่จะด่าว่า โทษแต่คนอื่น ไม่เคยโทษตัวเอง หรือนอนรอแต่ความหวัง ลมๆแล้งๆ หวังคนอื่นมาช่วย แต่ไม่เคยช่วยตัวเองอย่างจริงจัง ประเทศนี้ มีปัญหามาตั้งแต่ รากเหง้าของประเทศ เป็นศูนย์รวม ของคนจำ นวนไม่น้อย ที่จอม 'ขี้เกียจ' 'มักง่าย' และ 'รอคอยความหวัง' เห็นแก่ตัว เก่งแต่พูดเก่งแต่โพสต์ พอลงมือทำจริงๆ ก็ทำไม่ได้ อย่างที่คุยโม้โอ้อวด จริงไหม? ต่อให้นายกรัฐมนตรี เก่งกาจแค่ไหน แก้ปัญหาชาติได้ดีเพียงไร หรือ มีทีมงานไม่โกงกิน แต่บางที ปัญหามาจากรากเหง้าของประเทศ ที่จริงๆแล้ว แก้เท่าไหร่ ก็ไม่สำเร็จหรอก เพราะอาจจะต้องแก้ที่ "คนในชาติก่อน" “จิตสำนึกที่ดี นั้น มีกันบ้างมั้ย” - ด้านสถาบันครอบครัว เพราะความเคยชินของคนไทย ปลูกฝังสั่งสอน ความมักง่าย ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม เลี้ยงเด็กตามมีตามเกิด บางคน แม้รวย ก็เลี้ยงดูลูกแบบตามใจ จนมากเกินไป เหมือนนิทานเรื่อง พ่อแม่รังแกฉัน เลี้ยงผิดๆ ถูกๆ บางบ้าน พูดจาหยาบคาย มึงกูกับลูกตั้งแต่เด็กๆ ปัญหาไม่พร้อมที่จะมีลูกก่อนวัยอันควร สอนกันมาแบบผิดๆ สมองเด็ก ก็ฝังลึกกันแบบผิดๆ​ ที่น่ากลัวคือ พ่อแม่คนเหล่านั้น สอนลูกไม่ เป็น ไม่รู้จักผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี แม้บางคน พ่อแม่ เป็นถึง ศ.บ้าง รศ.บ้าง บางคนพ่วง ดร. อีกด้วย แต่มีลูกสาว ขนาดเป็นนิสิตจุฬาฯ ในปี 2563 กล้าที่จะแก้ผ้าให้ผู้ชายถ่ายรูปที่เสาชิงช้า อนาคตของชาติ จึงดูไร้คุณภาพ หรือที่เราเรียกว่า อนาคตของสังคมไทย มีแต่ “ขยะสังคม” รัฐบาล ไม่ได้มีหน้าที่ อยู่บ้านเดียวกับคุณ และคอยอบรมสั่งสอน จนลูกคุณโต หรือ จนมีหน้าที่การงาน - ด้านความยากจน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ หมิ่นเงินน้อย คอยวาสนา บ้าเรื่องดวง ผัวทิ้งทำเสน่ห์คุณไสย งานไกลขี้เกียจไป อ้างว่าไม่มีรถขับ งานใกล้ เงินน้อยขี้เกียจทำ กู้เงินมาขายอาหาร ขายไม่เป็น ทำไม่สะอาด ทำไม่อร่อย ปากไม่ดี พอเจ๊ง ก็โทษรัฐบาล โทษเศรษฐกิจ โทษอากาศมันร้อน ฝนมันตก โทษคนไม่เดิน แต่ไม่เคยโทษตัวเอง เพราะไม่เคยมองเห็นตัวเอง ที่เป็นต้นเหตุปัญหาทั้งปวง คนจน ที่ขยันก็มีเยอะ แต่ต้องฉลาด มีสมองพัฒนา ใฝ่สูงใฝ่ก้าวไปข้างหน้า เป็นคนจนไม่ผิด แต่จนแล้วโง่ แถมขี้เกียจ เเบบนี้ผิด บางคนที่จน ไม่มีเงินจะเรียน ก็เรียนจบได้ด็อคเตอร์ ก็มีไม่น้อย มิใช่ เอาแต่มานั่งบ่น สิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี แต่ไม่เคยโทษตัวเอง ใครจะมาช่วยได้ล่ะ แล้วทำไมคนจน ที่เค้ามีฐานะดีขึ้น ทำงานด้วยสมอง และ มีสองมือเหมือนกัน ก็มีเยอะมากมายที่เขาได้ดี มีความเจริญก้าวหน้า เพราะเค้าไม่มีข้ออ้างแบบคุณนั่นเอง - ด้านการศึกษา ไม่รู้เค้าเลี้ยงลูกกันยังไง เด็กบางคนถึงไม่สนใจการเรียน ไม่ชอบมีการ บ้าน ไม่ชอบการสอบเก็บคะแนน อ้างว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดความเครียด ไม่ต้องการใส่เครื่องแบบ ไม่ต้องการไว้ผมทรงนักเรียน ไม่เห็นคุณค่าการศึกษา เพราะมีพ่อแม่ไร้คุณภาพ เด็กหลายคนจึงไร้การศึกษาที่ดีและสูง แทนที่จะสอนลูกว่า เรามันจนนะลูก ต้องตั้งใจเรียน​ จะได้​ทุนเรียนปริญญา เอาจริงๆนะ ถ้าลูกรักเรียนต่อ ให้พ่อแม่จนแค่ไหน ก็หาเงินมาให้ลูกเรียนจนจบปริญญาได้ เด็กหลายคนเกเร ไม่สนใจการเรียน พ่อแม่ก็ตัดหางปล่อยวัด ไม่รู้จะทำอะไร ก็กลายเป็นเด็กเกเร เด็กแว๊นซ์ ลักขโมย ดื่มเหล้า ข่มขืน ติดยา ขายตัว สร้างความเดือดร้อน พ่อแม่มันยังไร้คุณภาพ จะเอาปัญญาที่ไหนไปสอนลูก บางครอบครัว พ่อแม่ มีคุณภาพดี แต่ไม่เคยสอนเรื่องคุณ ธรรมและจริยะธรรมที่ดีให้แก่ลูก พอเกิดเรื่องก็บอก “ลูกฉันเป็นคนดี” กันทั้งนั้น ก็เพราะคิดแบบนี้ ลูกมันถึงเป็นแบบนี้ ผิด/ชอบ/ชั่ว/ดี คนเป็นพ่อแม่ ยังแยกแยะไม่ออก - ด้านสิ่งแวดล้อม ถามซิ เลิกเผาป่า เลิกเผาขยะกันหรือยัง​ ข่าวออกมาโครมๆ แต่จิตสำนึกไม่ มีเลย อ้างว่าต้องทำมาหากิน ก็ทำแบบนี้ทุกปี จริงๆแล้วการเผาป่ามันถูกต้องหรือไม่ มันก่อให้เกิดฝุ่นพิษ ควันพิษ เป็นการทำร้ายสุขภาพ หรือเราปล่อยให้ทำๆกันมาจนชิน ไม่รู้สึกอะไร พอรัฐหรือหน่วยงาน เข้ามาห้ามก็ด่า...นี่คือสันดานคนเหล่านั้น คือความเห็นแก่ตัว ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม​ เสียหายปีละเท่าไหร่​...กินตรงไหนทิ้งตรงนั้น คนที่อาศัยตามริมคลอง ก็ทิ้งลงคลองง่ายดี พอน้ำเน่าเหม็น ก็บ่น แล้วมาบอกว่า มันเป็นหน้าที่ของคนเก็บขยะ มีหน้าที่เก็บก็เก็บไป​ คุณจะให้บ้านเมืองมันเจริญได้ไง! ในเมื่อจิตใจคุณยังต่ำตมอยู่เลย -โกง/คอรัปชั่น​ เจอกันเยอะมั้ย​ ไม่ว่าจะคนรวย คนจน คนในระดับไหน การศึกษาสูง ต่ำ ไม่แตกต่างกัน ​ เป็นเรื่องนิสัย​/สันดาน พอมีโอกาส​ ก็โกงกันทั้งนั้น จิตสำนึกความซื่อสัตย์ไม่มี คนรวยโกงคนจน นักการเมืองโกงชาติ จิตใจทำด้วยอะไร ความเห็นแก่ตัวไง เงินคือพระ เจ้าสำหรับพวกมัน และค่านิยมคนไทย “มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่” เป็นพวก ไอ้/อี ที่บ้าเงิน - ด้านการจราจร มีกี่คนที่ทำตามกฎจราจร 100% บ้าง ทางม้าลายรถต้องหยุดให้คนข้าม พวกคุณทราบกันหรือเปล่า ใช้ถนน ผิดกฎหมาย แล้วคิดว่าตัวเองถูก ดูอย่างข่าวป้าทุบรถ และข่าวจอดรถขวางหน้าบ้าน ทางเข้าออกคนอื่น โดยไร้จิตสำนึกว่า คนในบ้านเขาขับรถเข้า/ออกไม่ได้ มีบ่อย มีหลายๆคดี เรียกตัวเองว่า ชาวพุทธ แต่ไร้ ศีลธรรม การยับยั้งอารมณ์ ใครมีปืนมีมีด ก็ยิงก็ฟันเลย เถื่อนมาก แม้แต่ในโรงพยาบาล ก็ยังบุกไปทำร้ายร่างกายกัน และ พาลไปทำร้ายหมอและพยาบาลอีก แบบนี้ก็มีอยู่ในสังคมไทย แกล้งขับรถขวางทาง ไม่ให้รถ Ambulance ผ่าน ก็มีข่าวมาแล้ว ขับช้า เสือกขับแช่ยาว ในเลนขวาสุด ก็มีให้เห็นบ่อยๆในเวลาไปต่างจังหวัด อยากจอดข้างทางก็จอด เพื่อกินข้าว ที่ร้านอร่อยของตน บนถนนรถติด ขายของริมฟุตบาท ล้นออกมาบนพื้นที่ถนนรถวิ่ง รถยนต์/รถมอเตอร์ ไซค์ก็จอดซื้อกันตรงนั้น ทำให้รถติดในซอย ในเมื่อพฤติกรรมคนไทยจำนวนไม่น้อย มันเป็นแบบเนี้ย รัฐบาลจะไปช่วยอะไรได้ หวังแต่จะให้รัฐแก้ปัญหา และพัฒนาชาติ ตัวคุณเองยังแก้ปัญ หาตัวเองไม่ได้ และพัฒนาสมอง คุณภาพตัวเองไม่ได้เลย ถามตัวเองก่อน ด่ารัฐบาล "ทำหน้าที่ตัวเอง" ในฐานะพลเมืองของชาติ ดีที่สุดรึยัง พูดให้คิด มองความจริงให้ออก อย่าหลอก อย่าหลงตัวเอง เจ็บแต่จริง​ หันมามองตัวเองกันหน่อย​ ค่อยๆแก้​ ต่อให้รัฐบาล​/ผู้นำคนไหนๆ​ แปลงร่างมาจากเทวดาชั้นฟ้า​ ปัญหา​เมืองไทย ก็ไม่มีวันหมด แก้รัฐธรรม นูญ ก็เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เป็นสำคัญ ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชา ชนอย่างแท้จริง แก้แล้ว ก็เพื่อให้นัก การเมืองกลุ่มใหม่ เข้ามาแสวงหาอำนาจ และ ผลประโยชน์ในกลุ่มพรรคพวกเพื่อนพ้องเท่านั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องนมนานมา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้น มาให้เห็นตลอดเวลา​ที่ผ่านมา นักการเมืองโกงแล้ว หนีคดีไปต่างประเทศ ส่วนลูกน้อง ที่เคยเป็นคนดี แต่ยอมทำตาม ด้วยเกรงบารมี ก็ต้องติดคุกหัวโตไป เรายังอยากให้คนกลุ่มนี้ มาหาวิธีโกงชาติ โกงแผ่นดินกันอีกหรือ รักชาติ รักแผ่นดิน​ ให้จริงๆกันบ้างเถิด อย่าอ้างความรักชาติ จนน้ำลายไหล เพราะอดอยากปากแห้งมานาน หันกลับมามองตน แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองและ คนใกล้ตัวกันหน่อย สงสารนักรบชุดขาว และ อสม. ที่เขาเสียสละ และเสี่ยงกับโรค​ COVID-19 ที่ มากกว่าเรา อย่าได้เพิ่มปัญหาให้สังคมและประเทศของเราให้มากกว่า ที่มีอยู่ และเป็นอยู่เลย ในปัจจุบัน ทุกประเทศก็มีปัญหาเศรษฐกิจ ประชา ชนทุกประเทศก็ย่ำแย่เดือดร้อนกันทั้งนั้น มิใช่คนไทยเท่านั้นที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจ. ขอบคุณผู้เขียน และ ขอบคุณทุกคนที่แชร์กันต่อไปและแชร์ให้มากก่อนถึงวันเลือกตั้ง.
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    (มะนาว)(มะนาว)(มะนาว)(มะนาว)(มะนาว)(มะนาว) ที่บ้าน ท่านปลูก มะนาวหรือยัง ศ.นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ อดีตคณบดีเเพทย์ศิริราช.ได้แนะวิธีทำน้ำด่างทานง่ายๆ (น้ำมะนาวแช่ใส่น้ำเย็น/โซดา ) ตัดชิ้นบางๆของมะนาว🍋ใส่ในแก้ว(มะนาว)หรือโถ แล้วดื่มมันจะกลายเป็นน้ำที่มีความเป็นด่างสูงมาก เชื้อโรคในร่างกายไม่สามารถเติบโตในสภาพที่มีความเป็นด่าง ดังนั้น การทานน้ำด่างทุกวัน จึงช่วยทำลายเชื้อโรค ดื่มน้ำด่างจะทำให้มีสุขภาพดีขึ้นมาก สถาบันทางวิทยาศาตร์อนามัย ระบุว่า นี่คือยาที่มีผลต่อมะเร็งดีเยี่ยมล่าสุดของโลก มะนาว(มะนาว)(มะนาว)เป็นผลไม้ที่มหัศจรรย์มากที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้เป็น 1หมื่นเท่ามากกว่า-เคโมเทอราฟี .. ทำไมเราไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะว่า ปฏิบัติการห้องแล็บส่วนใหญ่นั้นไม่ยอมพูดเรื่องนี้เพราะมันจะทำให้สูญเสียผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ไป เราท่านทั้งหลายสามารถช่วยเพื่อนท่านได้ ในการบอกให้เขาหรือเธอเหล่านั้น ว่า (มะนาว)น้ำมะนาวนั้น มีประโยชน์ยิ่งในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ มีรสชาติที่ดี และไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการฉีดคีโมฯ คนมากมายอาจตาย ในขณะที่ความลับที่ป้องกันมะเร็งนี้ได้ถูกเก็บงำเอาไว้ เพื่อไม่ให้ต้องการทำลายผลประโยชน์ นับล้านๆ ของบริษัทยาใหญ่ๆ ทราบไหมว่า (มะนาวแป้น มะนาวทุกชนิด) ท่านจะกินมะนาวเหล่านี้ในวิธีต่างๆก็ได้ เช่น กินเปลือก กินน้ำ หรือคั้น หรือเตรียมเป็นเครื่องดื่มใดๆ ก็ตาม แต่ที่เราชอบ และมันทำได้หลายอย่าง แต่ถ้าดื่มน้ำ(มะนาว)มะนาวผสมกับโซดาจะทำให้น้ำมะนาว ดูดซึมเข้าร่างกายได้ดียิ่งขึ้น ที่น่าสนใจ คือ มันขจัด ซีสต์ได้ (ก้อนเนื้อร้าย) .. ผลไม้ชนิดนี้ พิสูจน์แล้วว่า สามารถต่อต้านมะเร็งได้ อย่างดีเยี่ยม มีคนกล่าวไว้ว่า (มะนาว)มันมีผลประโยชน์ในการกำจัดมะเร็งหลายชนิด (มะนาว)ป้องกันการอักเสบของเชื้อแบตทีเรีย เชื้อราได้ (มะนาว)สามารถที่จะต่อต้านพาราไซส์ที่อยู่ข้างใน (มะนาว)ทำให้เกร็ดลือดที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เข้าสู่ภาวะปกติ (มะนาว)ทำให้คลายเครียด (มะนาว)ต่อต้านโรคประสาท (มะนาว)ป้องกันโรคฟุ้งซ่าน ข่าวสารเรื่องนี้มาจากบริษัทผลิตยาขนาดใหญ่มากกว่า 20 บริษัทในโลกได้ทำการทดลองเรื่องนี้ผลการทดลองเปิดเผยออกมาได้ว่า (มะนาว)มะนาวสามารถทำลาย มะเร็งเนื้อร้ายที่รุนแรงได้ถึง 12 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง - มะเร็งลำไส้เล็ก - มะเร็งเต้านม - มะเร็งต่อมลูกหมาก - มะเร็งปอด - มะเร็งตับอ่อน (มะนาว)ส่วนผสมของไซทัสหรือมะนาว มีความสามารถในการทำลายมะเร็งได้มากกว่ายาที่ใช้การทำคีโมทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งหยุดอยู่กับที่(คงที่) นอกจากนี้มันยังเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมากในการรักษาด้วยมะนาวนี้ สามารถทำลายต่อต้านมะเร็งได้อย่างรุนแรง โดยไม่มีผลข้างเคียง มาดื่มน้ำมะนาวกันเถอะ ส่งให้คนที่รักนะ แต่ถึงเกลียดก็ส่งเถอะได้บุญใหญ่หลวงนะ
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ครม.ผ่าน โครงการคนละครึ่ง และ เพิ่มวงเงินบัตรคนจน 3 เดือน จริงหรือ
    1. “โครงการคนละครึ่ง” ในลักษณะการร่วมจ่าย (Co-pay) ระหว่างประชาชนที่เข้าร่วมโครงการและรัฐบาล โดยจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการเป็นประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 10 ล้านคน ภาครัฐจะสนับสนุนโยร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่มและสินค้าทั่วไป ไม่รวมสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและบริการต่าง ๆ ร้อยละ 50 ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันหรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ผ่าน g-wallet (“เป๋าตัง” สำหรับประชาชน และ “ถุงเงิน” สำหรับร้านค้า) ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม- 31 ธันวาคม 2563 โดยมีวงเงินจำนวน 30,000,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน 10 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยอย่างน้อย 100,000 ร้านค้า เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 60,000 ล้านบาท ส่งผลให้ GDP ขยายตัวร้อยละ 0.18 2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเป็นกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13,948,518 คน วงเงิน 20,922.7770 ล้านบาท รวมระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม - ธันวาคม 2563 เนื่องจากกลุ่มผู้มีบัตรฯ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้มีรายได้ลดลงและไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ โครงการ ฯ จะทำให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้ง 13,948,518 คนได้รับการช่วยเหลือ เยียวยา เพิ่มกำลังซื้อ และลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็น รวมทั้งยังก่อให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่นผ่านร้านธงฟ้าฯ อีกด้วย
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ"
    จริงหรือไม่? "ดื่มน้ำอัดลมมาก เสี่ยงฟันผุ" กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนคนไทยดื่มน้ำอัดลมมาก จะส่งผลต่อสุขภาพช่องปาก เป็นต้นเหตุของการเกิดฟันสึกกร่อนมากที่สุด และเสี่ยงเกิดโรคฟันผุและโรคอ้วนตามมาได้ แนะนำควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน ดีที่สุด พร้อมแปรงฟันด้วยสูตร 2-2-2 เพื่อสร้างสุขภาพช่องปากที่ดี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อร่างกาย ได้แก่ ฟันสึกกร่อน ฟันผุ อ้วน กระดูกพรุน และกระดูกเปราะ เนื่องจากน้ำหวานชนิดอัดลมมีกรดคาร์บอนิกค่อนข้างมาก ซึ่งสารดังกล่าวจะกีดขวางการดูดซึมแคลเซียมของกระดูก และยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะร่างกายจะหลั่งสารอินซูลินออกมามากเกินจำเป็น ซึ่งในระยะยาวร่างกายจะผลิตอินซูลินได้น้อยลง จนทำให้ร่างกายเกิดโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ซึ่งน้ำอัดลม 1 กระป๋อง (ขนาด 325 ซีซี) มีปริมาณน้ำตาล 8-12 ช้อนชา จะเท่ากับน้ำตาลในลูกอม จำนวน 17 เม็ด หากกินรวมกันหลายอย่างอาจทำให้ได้รับน้ำตาลมากเกินความต้องการของร่างกาย และเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดว่าร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน หรือปริมาณ 6 ช้อนชา นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า น้ำอัดลมยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดฟันสึกกร่อนได้มากที่สุด เพราะนอกจากน้ำอัดลมจะมีกรดคาร์บอนิกแล้ว ยังมีส่วนประกอบคือน้ำตาลกับน้ำ หากไม่มีการทำความสะอาดช่องปากและฟันจะก่อให้เกิดฟันผุได้ จากผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพประเทศไทยครั้งที่ 8 พ.ศ. 2560 พบว่า เด็กเล็กอายุ 5 ปี มีฟันน้ำนมผุร้อยละ 75.6 เด็กวัยเรียนอายุ 12 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 52.0 และกลุ่มอายุ 15 ปี มีฟันแท้ผุ ร้อยละ 62.7 สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดูแลอนามัยช่องปาก และพฤติกรรมการบริโภคของเด็กที่นิยมกินอาหารหรือขนมที่หาซื้อได้ง่าย เช่น น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาฟันผุแล้ว ยังก่อให้เกิดความเจ็บปวด การติดเชื้อและสร้างปัญหาการบดเคี้ยวอาหาร มีผลต่อน้ำหนัก การเจริญเติบโตและบุคลิกภาพ รวมถึงมีผลกระทบต่อการเรียนด้วย ที่สำคัญ ปัญหาฟันผุยังนำไปสู่การสูญเสียฟันที่เริ่มต้นในวัยเด็กและสะสมจนกลายเป็นการสูญเสียฟันทั้งปากจนไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ในวัยสูงอายุ ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับร่างกายก็คือน้ำเปล่า เพราะในน้ำเปล่ามีส่วนช่วยให้ร่างกายสดชื่น เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ไตแข็งแรง โดยใน 1 วัน ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีและควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีการเติมน้ำตาลอีกด้วย เช่น ขนมหวาน ลูกกวาด เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในแต่ละวันเกินจำเป็นจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ ควรแปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทั้งในตอนเช้า หลังอาหารกลางวัน และก่อนนอน ด้วยสูตร 2 2 2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนานอย่างน้อย 2 นาที แปรงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน และไม่ควรกินอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาช่องปากสะอาดนานที่สุด และยังเป็นการป้องกันโรคฟันผุในระยะยาวอีกด้วย ข้อมูล : ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่าย : มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
    อีสานโคแฟค
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 4 คนสงสัย
    คำแนะนำนี้ จริงหรือไม่
    ผมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ชิโนแวค ที่ประเทศจีนเแล้ว : ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ   แต่ทางหมอจีนมีคำเตือนมากมาย ซึ่งได้ยินว่า ที่ประเทศไทย หมอไทยไม่ได้มีคำเตือนแบบนี้เลย. ผมจึงนำมาแบ่งปันครับ  .. Review : . ก่อนฉีด - พักผ่อนหลับนอนให้เต็มที่ / กินข้าวให้อิ่มก่อนรับการฉีด .. หลังฉีด หมอสั่งดังนี้ . 1. ห้ามกินเหล้า+กาแฟขม-ป้องการวัคซีนหมดฤทธิ์ ในเวลา 3 วัน 2. ห้ามอาบน้ำหลังฉีด 24 ชม. ป้องกันการไม่สบาย เพราะร่างกายอ่อนแอลงหลังฉีด 3. ห้ามออกกำลังกายหนัก 3 วันและควรกินอาหารรสจืด .. วัคซีน ที่ต้องฉีด ๒ เข็ม ก็ต้องฉีดให้ครบในเวลากำหนด และเมื่อครบแล้ว ภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ สร้างขึ้น คนที่ฉีดแล้ว ก็ยังติดใหม่ได้ แต่อาการจะไม่รุนแรง กับทั้ง ภูมิคุ้มกันจะอยู่แค่ ๖ เดือนเท่านั้น ... ดังนั้น ถ้าไม่เร่งฉีดให้ครบทุกคน จนกำจัดเชื้อโรคร้ายไปจนหมด เชื้อโรคที่หลงอยู่ ก็จะวนเวียนเวียน สร้างปัญหาได้ใหม่เช่นเดิม ต้องเร่งฉีดวัดซีน และบริหารจัดการให้ดี ... ที่สำคัญที่สุด คือ แม้จะฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว แพทย์ก็ยังเตือนว่า ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา เพราะแม้จะฉีดแล้วก็ยังติดได้ แต่ความรุนแรงจะลดลง​ ดังนั้น ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาเหมือนเดิม Cr. พ.ต.อ.ดร.ศิริพล​ กุศลศิลป์วุฒิ​ ฑูตตำรวจไทย
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ข้าวสุกแช่เย็น
    ขอชี้แจงว่าการวิจัยดังกล่าวเป็นการทดลองในหนู โดยพบว่าข้าวสุกแช่เย็นจะเกิดการเปลี่ยนโครงสร้างของแป้ง ทำให้แป้งทนต่อการย่อยในกระเพาะหนูเพิ่มขึ้นจริง แต่ยังไม่ได้มีการทดลองในมนุษย์อย่างเป็นระบบ ซึ่งจำเป็นต้องมีการควบคุมระดับอุณหภูมิ วิธีการเก็บรักษา และพันธุ์ข้าวที่นำมาทดลอง ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นจากนักโภชนาการระบุว่า แม้จะส่งผลในลักษณะเดียวกันในมนุษย์ ข้าวที่หุงสุกแล้วแช่เย็น จะทำให้ปริมาณ Resistant Starch เพิ่มขึ้นและเมื่อนำมาอุ่นจะทำให้ปริมาณ RS ลดลงไปได้บ้าง และปริมาณ RS จะยังขึ้นอยู่กับพันธ์ุข้าวด้วย โดยข้าวแข็ง (แอมิโลสสูง) จะมีปริมาณ RS มากกว่า มีแนวโน้มให้ประโยชน์เหมือนไฟเบอร์ ก็อาจไม่ได้ส่งผลดีต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีนัยสำคัญมากพอต่อผู้มีปัญหาการควบคุมน้ำหนัก หรือควบคุมระดับน้ำตาล รวมไปถึงคอเลสเตอรอลในเลือด อีกทั้งยังต้องกินข้าวแบบแช่เย็นนั้น โดยห้ามนำมาอุ่นซ้ำก่อน จึงไม่สะดวกหรือไม่น่ารับประทาน
    nattikasaunsawatsuga
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ฟันผุติดต่อกันได้จากการหอมแก้มหรือจูบกัน
    กรมการแพทย์ โดยสถาบันทันตกรรมแจง โรคฟันผุเกิดจากหลายสาเหตุ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดต่อผ่านการหอมหรือจูบ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึง โรคฟันผุ เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดต่อผ่านการหอมหรือจูบ เนื่องจากฟันจะผุได้ นอกจากเชื้อโรคแล้ว ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย เช่น ความเป็นกรดของน้ำลาย การไหลของน้ำลาย สภาพของผิวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาการสัมผัสของเชื้อโรค และกรดต่อผิวฟัน จนกระทั่งเกิดการทำลายของผิวเคลือบฟันและเนื้อฟันตามลำดับ ซึ่งต้องใช้เวลานานมากพอ อาจต้องใช้ระยะเวลาหลายเดือน จนเกิดการทำลายของผลึกเคลือบฟัน ดังนั้นการจูบในช่วงเวลาอันสั้น ไม่สามารถทำให้เกิดการติดต่อของฟันผุได้ แต่อย่างไรก็ตาม การจูบมีโอกาสส่งผ่านเชื้อโรคทางน้ำลาย เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ หรือเริม นอกจากนี้กรณีที่มีแผลในช่องปาก อาจทำให้เกิดการติดต่อของโรคติดต่อผ่านทางเลือดได้อีกด้วย เช่น โรคเอดส์ ซิฟิลลิส ดังนั้น ควรดูและรักษาสุขภาพช่องปากเพื่อป้องกันฟันผุ หมั่นสังเกตฟันของตนเอง ลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารให้ เป็นเวลา ไม่ควรกินจุกจิก ทันตแพทย์หญิงสุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟันผุเกิดจากการมีเศษอาหาร ไปค้างอยู่ตามซอกฟัน หรือมีน้ำตาลจากอาหารที่เรารับประทานสัมผัสกับฟันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนแผ่นคราบจุลินทรีย์สร้างกรดที่มีฤทธิ์ทำลายผิวฟัน จนกระทั่งทำให้ฟันถูกกัดกร่อนทำลายเป็นรูผุ จากชั้นเคลือบฟันภายนอกเข้า สู่ชั้นในเนื้อฟัน ส่งผลให้เกิดอาการเสียวฟันได้เมื่อรับประทานอาหารร้อนหรือเย็น โดยเมื่อฟันผุมีการลุกลามจนทะลุถึงชั้นโพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดอาการปวดฟัน หรือเกิดรากฟันอักเสบเป็นหนอง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นช่องทางให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่ส่วนอื่นได้ ทั้งนี้การดูแลสุขภาพช่องปากเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยลดปัญหาการเกิดโรคฟันผุ ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน และใช้ไหมขัดฟันเพื่อช่วยทำความสะอาดซอกฟันที่ขนของแปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง รวมถึงเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6-12 เดือน เพื่อป้องกันและยับยั้งปัญหาในช่องปากได้ทันท่วงที
    Kanokwan Somchai
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สิงคโปร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ทำการชันสูตรพลิกศพ (ชันสูตรพลิกศพ) ศพผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พบว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริงในรูปของไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสีและทำให้มนุษย์เสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือด
    สิงคโปร์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ทำการชันสูตรพลิกศพ (ชันสูตรพลิกศพ) ศพผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พบว่าโควิด-19 ไม่มีอยู่จริงในรูปของไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสีและทำให้มนุษย์เสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือด พบโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด ซึ่งทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดในมนุษย์ และทำให้เลือดแข็งตัวในเส้นเลือด ทำให้คนหายใจลำบาก เพราะสมอง หัวใจ และปอดไม่สามารถรับออกซิเจนได้ ทำให้คนเสียชีวิต อย่างรวดเร็ว. เพื่อหาสาเหตุของการขาดแคลนพลังงานระบบทางเดินหายใจ แพทย์ในสิงคโปร์ไม่ฟังระเบียบการของ WHO และทำการชันสูตรพลิกศพสำหรับ COVID-19 หลังจากที่แพทย์เปิดแขน ขา และส่วนอื่นๆ ของร่างกายและตรวจดูอย่างระมัดระวัง พวกเขาสังเกตเห็นว่าหลอดเลือดขยายตัวและเต็มไปด้วยลิ่มเลือด ซึ่งขัดขวางการไหลเวียนของเลือดและลดการไหลของออกซิเจน ในร่างกายทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับงานวิจัยนี้ กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ได้เปลี่ยนโปรโตคอลการรักษาสำหรับ Covid-19 ทันทีและให้แอสไพรินแก่ผู้ป่วยที่เป็นบวก ฉันเริ่มทาน 100 มก. และอิมโรแมค ส่งผลให้ผู้ป่วยเริ่มฟื้นตัวและสุขภาพก็เริ่มดีขึ้น กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์อพยพผู้ป่วยมากกว่า 14,000 คนในหนึ่งวันและส่งพวกเขากลับบ้าน หลังจากช่วงระยะเวลาของการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ แพทย์ในสิงคโปร์อธิบายวิธีการรักษาโดยกล่าวว่าโรคนี้เป็นกลอุบายทั่วโลก "ไม่ใช่แค่การแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือด (ลิ่มเลือด) และวิธีการรักษา ยาเม็ดยาปฏิชีวนะ ต้านการอักเสบและ ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด (แอสไพริน). แสดงว่าสามารถรักษาโรคได้ ตามที่นักวิทยาศาสตร์ชาวสิงคโปร์คนอื่น ๆ ระบุว่าไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและห้องไอซียู (ICU) โปรโตคอลสำหรับเอฟเฟกต์นี้ได้รับการเผยแพร่แล้วในสิงคโปร์ จีนรู้เรื่องนี้แล้ว แต่ไม่เคยเปิดเผยรายงานของตน แบ่งปันข้อมูลนี้กับครอบครัว เพื่อนบ้าน คนรู้จัก เพื่อนฝูง และเพื่อนร่วมงาน เพื่อที่พวกเขาจะได้กำจัดความกลัวของ Covid-19 และตระหนักว่านี่ไม่ใช่ไวรัส แต่เป็นแบคทีเรียที่ได้รับรังสีเท่านั้น เฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมากเท่านั้นที่ควรระวัง รังสีนี้ยังทำให้เกิดการอักเสบและขาดออกซิเจน ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อควรรับประทาน Asprin-100mg และ Apronik หรือ Paracetamol 650mg ที่มา: กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ไม่รู้เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริง รึเปล่านะ ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ ถือได้ว่าเป็นข่าวดีของชาวโลก * เร็ว ๆ นี้สหรัฐอเมริกาจะมียารับประทานสำหรับการรักษาโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะรับประทานยาที่บ้านเป็นเวลา 5 วันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะถูกกำจัดออกจากร่างกายอย่างสมบูรณ์และผู้ป่วยจะฟื้นตัวเต็มที่ * * ยาที่แปลว่า "Molnupiravir" ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย บริษัท ยารายใหญ่สองแห่งคือ "Rigibel" ในเยอรมนีและ "Merck" ในสหรัฐอเมริกาและประสบความสำเร็จในการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 1 และ 2 ในมนุษย์ ผลกระทบคือ 100%; การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ในปัจจุบันใกล้สิ้นสุดลงและผลดีมาก หากเป็นไปได้ดีจะวางจำหน่ายในตลาดภายใน 4 ถึง 5 เดือน * * ผู้ป่วยสามารถรับประทานยาได้ด้วยตัวเองที่บ้านและหายใน 5 วันซึ่งสะดวกในการใช้มาก การรักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอนาคตก็เหมือนกับการรักษาโรคหวัดในตอนนี้ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่น่ากลัว * * ยานี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ มันเป็นสารประกอบหลักการคือการป้องกันไม่ให้เอนไซม์ของไวรัส ia นั่นคือการป้องกันไม่ให้ไวรัสจำลองตัวเองเพื่อกำจัดไวรัสอย่างรวดเร็ว หลักการของวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาในปัจจุบันคือกำหนดเป้าหมายไปที่หน้าแปลนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งจะช่วยป้องกันการรวมกันของโคโรนาไวรัสตัวใหม่และเซลล์ของมนุษย์ หลักการของทั้งสองข้อแตกต่างกัน * * ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเมษายนปีที่แล้วโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในฟาร์มมิงค์ในเนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ส่งผลให้มิงค์เสียชีวิตจำนวนมากนับล้านตัว ฟาร์มมิงค์เลี้ยงมิงค์ด้วย "โมนาปินาเวียร์" และพบว่าไม่มีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในตัวมิงค์ที่ป่วยใน 24 ชั่วโมงต่อมา ฟาร์มมิงค์หยุดการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น บริษัท ยารายใหญ่ทั้งสองจะดำเนินการทดลองทางคลินิกในระยะแรกกับมนุษย์ หลังจากประสบความสำเร็จพวกเขาจะทำการทดลองทางคลินิกขั้นที่สองและสาม จนถึงตอนนี้พวกเขาจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ * * นี่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในวงการวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะในวงการแพทย์ บางทีอาจเป็นไปตาม Valium แอสไพรินและเพนิซิลลินและ Apin เป็นยาคลาสสิกสี่ชนิด * https://www.wtsp.com/article/news/health/coronavirus/antiviral-drug-molnupiravir-showing-promise-in-trials-against-coronavirus/67-87f24932-8244-439a-a664-ba6aa21aac01 * รอเพียงไม่กี่เดือนแล้วรับประทานยารับประทานตามท้องตลาดโดยไม่ต้องฉีดยา *
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false