1 คนสงสัย
'ฟ้าทะลายโจร' ควรกินเสริมภูมิต้านโควิด-19 หรือไม่?
จากปรากฏการณ์ประชาชนออกมาซื้อฟ้าทะลายโจรจนขาดตลาด เพราะมีกระแสข่าวว่าหากรับประทานฟ้าทะลายโจรแล้วจะเสริมภูมิคุ้มกันร่างกายเพื่อให้สามารถต้านเชื้อโคโรนาไวรัสได้ ปัจจุบันนี้ยังไม่มีงานวิจัยออกมารองรับเรื่องฟ้าทะลายโจรในการรักษาหรือป้องกันโคโรนาไวรัส และแพทย์แผนไทยได้ออกมาเตือนให้ระวังเรื่องการใช้ฟ้าทะลายโจร เพราะเป็นสมุนไพรต้องใช้อย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก หากใช้ไม่ถูกต้องจะให้ผลร้ายมากกว่าผลดี
naruemonjoy
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: mostly-false--last
9 ความเห็น

ยาสมุนไพรโควิด 2019

naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

"ยาฟ้าทะลายโจร"
🔵 ยาฟ้าทะลายโจรรับประทานป้องกันโควิด 19 ได้หรือไม่?
🔶️ ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอในการยืนยันว่า สามารถรับประทานฟ้าทะลายโจรเพื่อป

ที่มา

https://www.facebook.com/dtam.moph/photos/a.419482954736180/5813339045350517/
naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

ผลจากการทดลองฟ้าทะลายโจรไม่ควรใช้เสริมภูมิโดยที่ยังไม่ได้ป่วย แต่ถ้ามีเชื้อแล้วสามารถรับประทานได้ตามปริมาณที่เภสัชกรแนะนำ
แม้จะมีวิจัยล่าสุดว

ที่มา

https://www.posttoday.com/social/general⋯S9FT0G8a6b-XUUovstlgIFLa3rFd4k39QHLKYSMM
naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

พบฤทธิ์ในการเสริมระบบภูมิคุ้มกันในภาพรวม แต่ไม่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อไวรัสโควิด 19

อ้างอิง: เฟสบุค กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

ที่มา

https://www.facebook.com/dtam.moph/photos/a.419482954736180/5813339045350517/
anonymous เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่าฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้

ที่มา

https://www.bbc.com/thai/thailand-523448⋯Pg36-4wSmDEyVKqrz65XJuykgh2Nf39-Kuf7wE8c
naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้◑ มีเนื้อหาที่เป็นจริงบางส่วน

เหตุผล

การแพทย์แผนไทยประยุกต์ศิริราช บอกว่าไม่ควรรับประทานเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหรือป้องกันไข้หวัด ให้ใช้ในกรณีรักษาบรรเทาอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หา

ที่มา

https://www.facebook.com/DramaAdd/photos⋯638291/10158489651688291/?type=3&theater
naruemonjoy เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

นพ.พิเชฐ บัญญัติ เลขาธิการสมาคมเวชกรรมไทย รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และอดีตนายกสภาการแพทย์แผนไทย
กล่าวในเฟสบุคว่า ฟ้าทะลายโจรแคปซูลชนิดเ

ที่มา

https://www.facebook.com/dr.phichetbanyati/posts/140979184110920?hc_location=ufi
  • มี 3 ความเห็น เจ้าของลบไปแล้ว.
  • เพิ่มความเห็นใหม่

    กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

    คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 เอง โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ จริงหรือไม่
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 เอง... ************** โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ของผู้สื่อข่าวช่องข่าวทีวีที่1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวไวรัสเองแท้จริงแล้วคืออาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัดที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจากค้างคาวเข้าไปเพิ่มความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่าวัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆกับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่ามีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้ - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมากที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น. >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกาที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคนที่ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลปที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ >>>#”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่าอเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก. เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทนอย่าง น่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัยที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริคมาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆกับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขาคือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19 >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจเพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่าจะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! **Ny Ny*
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ภูมิคุ้มกันของคุณคือการป้องกันที่ดีที่สุด (สำหรับการติดเชื้อ Covid-19)
    ทุกคนอาจไม่รอด ดร. จงจากจีนคาดการณ์ว่าไม่ช้าก็เร็วการติดเชื้อโควิด -19 ในชุมชนในวงกว้างจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเพิ่มขึ้น แต่มีระยะฟักตัวที่แตกต่างกันไปโดยไม่ถูกตรวจพบ เนื่องจาก Scenario ข้างต้นแทบจะไม่สามารถควบคุมได้และหลีกเลี่ยงไม่ได้ตอนนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสร้างระบบภูมิคุ้มกันของตัวเองก่อน "ภูมิคุ้มกันของคุณคือการป้องกันที่ดีที่สุด (สำหรับการติดเชื้อ Covid-19)" อย่าพึ่งมาสก์ หรือล้างมือ เพียงอย่างเดียว สิ่งเหล่านี้เป็นมาตรการป้องกันที่ดีเยี่ยม แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกคนยังต้องสร้างภูมิคุ้มกันของตนเองโดยเร็ว ประการแรก : เรา ต้องนอนหลับให้เพียงพอ** ต้องนอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมง **ผู้ที่นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวันจะมีภูมิคุ้มกันลดลง ประการที่สอง : เราต้องกินให้ดี สิ่งที่เรียกว่า "กินดี” ไม่ได้เกี่ยวกับการกินอาหารรสเลิศ แต่ ** การรับประทานโปรตีนคุณภาพสูงที่มีประโยชน์ ** ซึ่งสามารถใช้ในการผลิตแอนติบอดี อย่าลืมควบคุมปริมาณน้ำตาลของเราอย่างเคร่งครัด การกินน้ำตาลที่ผ่านการกลั่นมากเกินไปอาจทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันเม็ดเลือดขาวของเราไม่มีการทำงานเป็นเวลา 5 ชั่วโมง! ดังนั้นเราต้องเลือกและควบคุมอาหารของเรา ประการที่สาม : โคโรนาไวรัสมีโหมดการแพร่พันธุ์ล่วงหน้าซึ่งจะทวีคูณเร็วขึ้นในฤดูหนาว ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำให้เราออกแดดมากขึ้นซึ่งช่วยได้ เพิ่มวิตามินดีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันของเรา ผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ได้ทำการวิจัยและเผยแพร่ผลการวิจัยว่าการรับประทานวิตามินดีเสริมในช่วงฤดูหนาวสามารถลดการติดเชื้อทางเดินหายใจสองในสาม หากคุณไม่สามารถหรือไม่ได้อาบแดดจริงๆคุณสามารถเลือกที่จะทานวิตามินดีแทนได้ ประการที่สี่ : งานวิจัยของรัสเซียชิ้นหนึ่งพบว่า: เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน“ คุณต้องบ้วนปากและกลั้วคอเมื่อกลับบ้านหลังการออกไปข้างนอก เพราะเหตุใด เพราะไวรัสทุกชนิดมีกุญแจเข้าสู่เซลล์ของเราเมื่อไวรัส บุกรุกเซลล์เป้าหมายต้องเจาะรูก่อนและเคาะประตู ฯลฯ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาสักครู่ในการเข้าถึงและเจาะผนังเซลล์เป้าหมายเพื่อเปิดประตูเพื่อเข้าสู่เซลล์เป้าหมายและแพร่กระจายเชื้อ ดังนั้นหากคุณติดเชื้อนอกบ้าน เมื่อคุณกลับถึงบ้านเพียงแค่กลั้วคอและบ้วนปาก "ไม่ว่าคุณจะบ้วนปากด้วยน้ำ น้ำเกลือ เบตาดีนที่เจือจางในน้ำ น้ำยาบ้วนปาก หรือน้ำชา ทั้ง 5 วิธีนี้ใช้ได้ผลดี สุดท้ายดร. จงยังชี้ให้เห็นว่าการศึกษาในญี่ปุ่นอิสราเอลและฟินแลนด์ล้วนแสดงให้เห็นว่า การอาบน้ำร้อนทุกวันเพื่อเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้เพียงพอ จะสร้างสภาพแวดล้อมของร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการติดเชื้อโคโรนาไวรัส งานวิจัยยังระบุด้วยว่าหากคุณอาบน้ำร้อน 4 ครั้งขึ้นไปในแต่ละสัปดาห์อัตราการติดเชื้อไวรัสอาจลดลงถึง 60% คำแนะนำของ Dr Zhong คืออาบน้ำร้อนทุกวัน 41 องศา C และ 5 นาทีก็เพียงพอแล้ว! กรุณาแบ่งปันกับครอบครัวและเพื่อนของคุณ..
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false