1 คนสงสัย
สำนักงานคุ้มครองการเงินผู้บริโภค (CFPB) ในสหรัฐ ประกาศกฎใหม่มีผลบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เปิดทางให้บริษัทติดตามทวงหนี้สามารถส่งอีเมล และส่งข้อความโดยตรง (DM) ถึงลูกหนี้บนช่องทางโซเชียลมีเดียได้ เพื่อติดตามทวงหนี้ที่ค้างชำระ
แคทลีน แอล ครานินเกอร์ อดีตผู้อำนวยการ CFPB กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการอัพเดตจากกฎหมายการทวงหนี้ที่เป็นธรรม ซึ่งเป็นกฎหมายเก่ามาตั้งแต่ปี 1977 ก่อนที่จะมีการสร้างระบบโซเชียลมีเดียและข้อความทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน


ภายใต้กฎใหม่ดังกล่าว ผู้ติดตามทวงหนี้ที่ติดต่อเข้าไปทางโซเชียลจะต้องระบุตัวตนว่าเป็นผู้ติดตามทวงหนี้ และสามารถส่งคำร้องขอเป็นเพื่อนกับลูกหนี้ แต่ลูกหนี้ไม่จำเป็นต้องตอบรับคำร้องขอเป็นเพื่อนก็ได้ นอกจากนี้ ผู้ทวงหนี้จะต้องให้ทางเลือกสำหรับช่องทางการติดต่อทางออนไลน์ ส่วนข้อความที่ส่งหาลูกหนี้จะต้องเป็นความลับ และเจ้าหนี้ไม่สามารถโพสต์ข้อความทวงเงินบนเพจของลูกหนี้ได้
MA CH
 •  1 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ บริษัทน้ำมันพืชของพิธาโดน 3 ธนาคาร ฟ้องอ้างเป็นผู้ล้มละลายเป็นนายกไม่ได้
    จากข้อความที่มีการแชร์ในกลุ่มไลน์ต่าง ๆ ว่า พิธาไม่ได้เป็นนายกถูก 3 แบ้งก์ฟ้องบริษัทน้ำมันพืชรำข้าวที่พิธาเป็นผู้จัดการค้ำประกันส่วนตัว และหนี้จำนำหุ้นบริษัทกับสถาบันการเงินมี ไทยพาณิชย์ ธนชาติ และ ยูโอบี ถึง 460 ล้านบาท และสถาบันการเงินทั้ง 3 ได้ฟ้องทวงหนี้ให้ชำระหนี้ 460 ล้าน นายพิธาไม่ยอมชำระหนี้ดังกล่าว แต่กับไปให้ศาลล้มละลายกลางไกล่เกลียหนี้ เพื่อไม่ให้นายพิธาถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลาย ทำให้นายพิธากลายเป็นบุคคลล้มละลายไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้อีกต่อไป แต่ถ้านายพิธาสามารถฟื้นฟูกิจการได้ตามที่นายพิธาร้องขอต่อศาลล้มละลายกลางได้สำเร็จนายพิธาก็จะสามารถเป็นนายกได้ต่อไป แต่ศาลล้มละลายกลางจึงจำเป็นต้องจำหน่ายคดีชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหนี้ทั้งหลายมาขอรับชำระหนี้ต่อศาลล้มละลายกลาง เพราะศาลล้มละลายคือตัวแทนเจ้าหนี้ทำงานรวบรวมทรัพย์ของลูกหนี้เพื่อนำทรัพย์นั้นขายชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย โดยมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตัวแทนลูกหนี้เป็นผู้รวบรวมทรัพย์ลูกหนี้ และระหว่างมีคำขอชำระหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งหลาย ลูกหนี้คือนายพิธาไม่สามารถจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินของตัวลูกหนี้เองคือนายพิธา โดยไม่รับอนุญาติจากศาลล้มละลายก่อนเพราะว่าการทำนิติกรรมใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินใดๆ หลังจากรู้ว่าตัว เองมีหนี้สินล้นพ้นตัวถูก สถาบันการเงินฟ้องทวงหนี้ถึง 460 ล้านบาท การทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายพิธาลูกหนี้ ทำให้เจ้าหนี้อื่นเสียเปรียบได้รับชำระหนี้ไม่ครบถ้วนตามฟ้องร้องหรือตามที่ขอชำระหนี้ต่อศาลล้มละลายกลางที่นายพิธาขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ทำให้นายพิธาเป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำนิติกรรมใดๆเกี่ยวกับทรัพย์ตัวเองและบริษัทถ้าฝ่าฝืนมีการโอนหุ้น ไอทีวี 42,000 หุ้น ทั้งที่รู้อยู่ว่าตัวเองถูกฟ้องให้ชำระหนี้และมาขอศาลฟื้นฟูบริษัท ยังมาโอนหู้นตัวเองให้บุคคลภายนอก ทำให้เจ้าหนี้อื่นเสียเปรียบ ทรัพย์สินที่จะเอามาชำระหนี้ลดน้อยลงเป็นการโกงเจ้าหนี้ไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ที่มีอยู่ จึงเข้าข่ายถูกเพิกถอนการโอนหุ้นบริษัทไอทีวี 42,000 หุ้นตามกฎหมายล้มละลายทำให้ผู้พิทักษ์ทรัพย์ตัวแทนลูกหนี้สามารถฟ้องให้การโอนเป็นโมฆะ กลับมาเป็นของลูกหนี้ตามเดิมเพื่อขายทอดตลาดนำเงินที่ขายได้มาเฉลี่ยให้กับเจ้าหนี้ทั้งหลายตามกฎหมายล้มละลาย นายพิธาจึงเป็นเสมือนบุคคลล้มละลายไปแล้วมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆได้อีกต่อไปและไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยตามกฎหมายไทยที่มาของนายกห้ามบุคคลล้มละลายเป็นนายก
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false