1 คนสงสัย
หิมะแรกตกแล้วที่จังหวัดชัยภูมิ
ไม่ระบุชื่อ
 •  3 วันที่แล้ว
meter: false
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
thanathun เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ใกล้เส้นศูนย์สูตรโอกาสการเกิดหิมะในประเทศไทยนั้น ถือว่าน

ที่มา

https://www.antifakenewscenter.com/ภัยพิบัติ/หิมะแรกตกแล้วที่จังหวัดชัยภูมิ/

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ..สุดช็อค!!!..วงการแพทย์ ใบท่อมถีบหน้า *วัคซีนลวงโลก* หงายหลัง เหตุเกิดที่จังหวัดระนอง แม่ลูกติดโควิด แต่ผัวตรวจ 3 รอบไม่พบเชื้อ ทั้งที่กินอยู่นอนในบ้านหลังเดียวกัน เคสนี้ไม่ใช่แค่ครอบครัวเดียวนะ มีถึง 3-4 ครอบครัวแล้วที่เจอเคสแบบนี้แต่ถึงยังไงวงการแพทย์ ก็ไม่ออกมายืนยันหรอก เพราะถ้าแถลงไป วัคซีนที่สั่งมา คงขายไม่ได้ ...สิ่งที่องค์การอนามัยโลกปิดบังเราไว้ : พีชกระท่อมสามารถยับยั้งและทำลายเชื้อไวรัสโค โรน่าได้ โดยผลงานการวิจัยจาก Professor Yee T Bi หัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยามหาวิทยาลัย Datissin ค้นพบว่าไมทราเจนในพืชกระท่อมนั้นสามารถทำลายไวรัสได้ภายใน 0.05 วินาทีหลังจากรับประทาน และยังมีฤทธิ์ยับยั้งโรคต่างๆได้อีก 1975 โรค ....เอาละ ถึงแม้ว่าจะจริงหรือไม่ ลองกินดู วันละ1-2 ใบ ก็จะมีแต่ผลดี นะครับ... ใบกระท่อมเมื่อเคี้ยวกินเข้าไปในปาก ฤทธิ์ของยาสมุนไพรใบกระท่อมจะฆ่าเชื้อโรคโควิดทันที.... เมื่อเราดูที่ดอกระท่อมแล้ว เหมือนกับธรรมชาติบอกเราเป็นนัยยะว่าตัวเรานี้สามารถที่จะฆ่าเชื้อโรคโควิดได้นะ ดูที่ดอกกระท่อมรูปทรงเหมือนกับรูปลักษณ์ของเชื้อโรคโควิดจริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้ว
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    พีชกระท่อมสามารถยับยั้งและทำลายเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ จริงหรือ
    สุดช็อค..วงการแพทย์ ใบกระท่อม ใบท่อมถีบหน้า *วัคซีนลวงโลก* หายหลัง เหตุเกิดที่ จังหวัดระนอง แม่ลูกติดโควิด แต่ผัวตรวจ 3 รอบไม่พบเชื้อ ทั้งที่กินอยู่นอน ในบ้านหลังเดียวกัน เคสนี้ไม่ใช่แค่ครอบครัวเดียวนะ มีถึง 3-4 ครอบครัวแล้วที่เจอเคสนี้ แต่ถึงยังไงวงการแพทย์ ก็ไม่ออกมายืนยันหรอก เพราะถ้าแถลงไป วัคซีนที่สั่งมา คงขายไม่ได้ ...สิ่งที่องค์การอนามัยโลกปิดบังเราไว้ : พีชกระท่อมสามารถยับยั้งและทำลายเชื้อไวรัสโค โรน่าได้ โดยผลงานการวิจัยจาก Professor Yee T Bi หัวหน้าภาควิชาไวรัสวิทยา มหาวิทยาลัย Datissin ค้นพบว่าไมทราไจนในพีช กระท่อมนั้นสามารถทำลายไวรัสได้ภายใน 0.05วินาทีหลังจากรับประทาน และยังมีฤทธิ์ยับยั้งโรคต่างๆได้อีก 1975โรค - ...เอาละ ถึงแม้ว่าจะจริงหรือไม่ ลองกินดู วันละ 1-2ใบ ก็มีแต่ผลดี นะ ครับ หามาปลูกกันไว้ครับ ได้บ้านละ 3 ต้น ใช้ได้ดีแน่นอน คนไทยใช้เป็นยาตำรับมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว... ใบกระท่อมเมื่อเคี้ยวกินเข้าไปในปาก ฤทธิ์ของยาสมุนไพรใบกระท่อมจะฆ่าเชื้อโรคโควิดทันที เมื่อเราดูที่ดอกกระท่อมแล้ว เหมือนกับธรรมชาติบอกเราเป็นนัยยะว่าตัวเรานี้สามารถที่จะฆ่าเชื้อโรคโควิดได้นะ ดูที่ดอกกระท่อมรูปทรงเหมือนกับรูปลักษณ์ของเชื้อโรคโควิดจริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้ว...
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จุดจบประเทศไทย
    เพื่อนส่งมาจาก USA จุดจบประเทศไทย ...... เรื่องนี้"คนไทยทุกคน"ควรที่จะได้รู้ ..... ประเทศต่าง ๆ ในโลกนี้มีเกิด มีดับ ตลอดเวลา ..... สืบเนื่องจากการบรรยายของคุณนิติภูมิ ซึ่งเป็นสื่อมวลชน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมอสโค ซึ่งเป็นสถาบันที่ สตาลินสร้างขึ้นเพื่อสร้างภูมิปัญญาหวังครองโลกในสมัยหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนคุณนิติภูมิ ได้ทำนายไว้ว่า ประเทศอินโดนีเชียจะแตกเป็น 6-14 ประเทศ ซึ่งในตอนนั้น นักรัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หัวเราะจนฟันกระเด็น แต่ต่อมาพอปี 2542 เหตุการณ์เริ่มเป็นจริง ! ประเทศอินโดฯได้เริ่มแตกเป็น ติมอร์ และตอนนี้ก็กำลังจะเกิดประเทศ อาเจะ และอีกหลายประเทศ ที่จะเกิดตามมา ในวันที่ 11 ธันวาคม 2543 ที่ผ่านมาที่งานคนดีศรีสังคม ณ หอประชุมวัฒนธรรมฯ คุณนิติภูมิได้บรรยายว่า "ประเทศไทย"จะต้องแตกเป็นประเทศใหม่อีก 4 - 6 ประเทศ แน่นอน ! ทั้งนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นอย่างมีกระบวนการ โดยสถานการณ์จะเริ่มชัดขึ้นในปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ข้อตกลง GATTs จะเริ่มมีผลสมบูรณ์ "การค้าเสรี"จะมีผลสมบูรณ์ สินค้าเกษตรต่าง ๆ จากต่างประเทศจะทะลักเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมหาศาล ในขณะที่เกษตรกรของไทยจะไม่กินสินค้าเกษตรของไทยด้วยกัน และสินค้าเกษตรของไทยก็จะขายไม่ออกเนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ ประกอบกับการที่การพัฒนาการเกษตรของไทยได้พัฒนาอย่างผิดทิศทาง เป็นการพัฒนาแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ทำให้คนปลูกลำใยไทยก็จะปลูกแต่ลำใย จะกินข้าวก็ต้องซื้อข้าวเวียดนามมากิน คนปลูกข้าวไทยก็ต้องไปซื้อหอมกระเทียมจากจีนมากิน คนปลูกหอม กระเทียมจะไม่ซื้อลำใยจากไทยแต่จะไปซื้อจากเกาหลีมากิน เป็นวงจรอย่างนี้ทำให้สินค้าเกษตรของไทยขายไม่ได้ เพราะแม้แต่เกษตรกรไทยด้วยกันก็ยังไม่ซื้อของเกษตรไทยด้วยกันมากิน เนื่องจาก สินค้าของต่างประเทศมีต้นทุนถูกกว่า. สินค้าเกษตรของไทยมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยของต่างประเทศ พันธุ์พืชก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากในอีก ไม่ถึง10 ปีข้างหน้าพันธุกรรมท้องถิ่นจะถูกทำลายจาก GMOs และเมื่อเกษตรกรไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ของประเทศอยู่ไม่ได้ "วิกฤต"ที่มหาโหดสุดก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย "รัฐบาลไทย"จะไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาได้ เพราะมาตรการทางการเงินก็จะใช้ไม่ได้ เนื่องจาก"ธนาคารไทย"กลายเป็นของต่างประเทศหมดแล้ว ไฟฟ้าก็แพงขึ้น น้ำมันก็แพงขึ้น โทรศัพท์แพงขึ้นเนื่องจากวิสาหกิจเหล่านี้กลายเป็นของต่างชาติหมดแล้ว เขาสามารถตั้งราคา ได้ตามใจชอบถ้ารัฐบาลไปขอให้ลดราคาก็จะได้รับคำตอบว่า เขาจะไม่มีกำไร (เช่น สัมปทาน พลังงาน ที่กำลังเป็นอยู่ขนะนี้ ) ธุรกิจจะอยู่ได้ด้วยกำไรเท่านั้น ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาก็จะตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ คุณเลือกเอาว่าจะยอมจ่ายในราคาที่แพงหรือว่าจะยอมไม่มีใช้ ดังนั้น รัฐบาลในอนาคตจะได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ๆ เมื่อเกษตรกรไทยอยู่ไม่ได้ การขายที่ดินราคาถูก ๆ และจำนวนมหาศาลจะตามมา "คนที่มีกำลังซื้อก็คือชาวต่างชาติ " ซึ่งปัจจุบันก็ปรากฏแล้วว่าที่ดินบริเวณภาคตะวันออกได้ถูกต่างชาติกว้านซื้อไปเป็นจำนวนมากแล้ว เกษตรกรไทยที่ขายที่ดินได้ ก็ไม่สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนให้เกิดรายได้ได้ (เช่น ภาคกลาง จ.สุพรรณ อ่างทอง ชัยนาท อยุธยา ฯ ) และธุรกิจอื่นได้ตกอยู่ในกำมือของต่างชาติแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกก็ตกอยู่ในมือของ Lotus, Carrefour, ธุรกิจอาหารก็ตกอยู่ในมือของ KFC, Pizzahat, McDonal, สิ่งทอเสื้อผ้าก็ของพวกฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้น "เงินตรา"ของไทยก็มีแต่จะถูกดูดออก เหมือนกับคนที่เลือดไหลไม่หยุด ... เมื่อคนจนอยู่ไม่ได้ ... รัฐจะอยู่ได้ อย่างไร? (นี่คือโจทย์ ใหญ่ ที่ คสช.พลเอก ประยุทธ ต้องรีบแก้ปัญหาคนจนก่อนฯ) 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นแห่งแรกที่จะขอแยกตัวออกจากประเทศไทย เนื่องจากความแตกต่างที่เห็นชัดเจนและความแตกต่างทางวัฒนธรรม คนไทยภาคใต้จะเห็นด้วยกับการแยกประเทศ เพราะเห็น"ความล้มเหลวของรัฐบาลไทย " การเมืองไทย การคัดค้านจะน้อยลง การสนับสนุนให้แยกจะทวีความรุนแรงขึ้น จนรัฐบาลไทยไม่สามารถควบคุมได้ถ้ารัฐบาลใช้กำลังทหาร ก็จะถูกต่างชาติส่งทหารมาต่อต้านกองทัพไทย ซึ่งแน่นอนกองทัพไทยไม่มีปัญญาไปต่อสู้อยู่แล้ว การแยกตัวจะสำเร็จได้ในไม่นาน จากนั้น ภาคตะวันออก บริเวณ"จันทบุรี ตราด ระยอง ฉะเชิงเทรา " จะขอแยกตัวตามมา เนื่องจากที่ดินแถบนั้นกลายเป็นของ"ต่างชาติ"หมดแล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นแหล่งพันธุกรรมของต่างชาติ ทั้งสมุนไพร อาหารต่าง ๆ เมื่อรัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคของต่างชาติ การขอแยกตัวก็จะทำได้ไม่ยาก นั่นหมายถึง "การซื้อประเทศไทยคล้ายกับที่สหรัฐอเมริกาซื้อรัฐ Alaska จาก Russia ถ้าไทยต่อต้าน เจอทหารต่างชาติแน่ เรา "คนไทย "จะเตรียมรับมือกับวิกฤติในอนาคตอย่างไร ? ผมติดตามงานเขียนคุณนิติภูมิ มาหลายปี และสิ่งที่เขียนในไทยรัฐหน้า 2 เกือบทุกวันนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศจะเอาข้อมูลงานเขียนของนิติภูมิ ไปแปลลงหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ในการวิเคราะห์ บ่อยครั้งที่นิติภูมิ มองธุรกิจการเมือง สังคมไปพร้อมกัน รวมทั้งประวัติศาสตร์เขามองอาเจนติน่า ก่อนล่มสลายทางเศรษฐกิจ ก่อนล่มจริง ... เขาทำนาย การเกิดสงคราม อเมริกากับอิรัค ข้อคิด รวมทั้งอนาคตชาวเชเชนไว้น่าสนใจ ผมว่า สิ่งที่เขาพูดเป็นไปได้นิติภูมิ ทำให้ผมต้องกลับมาซื้อของโชห่วยของคนไทย แทนที่ไปเดิน lotus, careflour, เพราะผมบอกแม่บ้านและลูก ๆ ว่า เราซื้อของร้านโชห่วย ข้างบ้าน ไม่ต้องไปห้างใหญ่อีกเพราะอะไร เพราะเราไป คาร์ฟู เงิน 100 บาทที่เราจ่ายไปจะไปสู่ฝรั่งเศส 86 บาท เหลือให้คนไทย 14 บาท เพราะของต่างชาติเกือบ 100 เปอร์เซนต์ โลตัสเหมือนกัน นิติภูมิเคยเอาเปอร์เซนต์ที่ต่างชาติถือหุ้นมาลงให้ดู ของ 3 ห้างดัง ผมตกใจมาก และตัดสินใจซื้อน้ำปลาข้างบ้านตั้งแต่วันนั้น เพราะว่าต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แล้วบางห้าง 86 ปอร์เซ็นต์ สอนลูกว่ามันจะแพงกว่าห้าง 3 บาท ก็ซื้อที่นี่มันจะแพงกว่า 5 บาทก็ซื้อที่นี่ เพราะมันจะเป็นภาษีคนไทย กลับมาหาลูกเอง ผมคิดแบบนี้จริง ๆ ๆ ถ้าซื้อจากห้าง 1,000 บาท มันไหลไปต่างประเทศ 900 บาท ที่เหลือ 100 บาท ที่เห็นจ่ายค่ายามเฝ้าห้างไง มองอาเจนติน่าง่ายนิดเดียว ห้างต่างชาติบุกไปตั้งมากกว่า 400 ห้าง? ทั่วประเทศ คนอาเจนติน่าจึงทำเงินส่ง คาร์ฟู ส่งห้างต่างชาติ เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เงินคนทั้งชาติของชาวอาเจน จึงไหลไปหมด ในประเทศจึงไม่เหลืออะไร ทางสุดท้ายที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าทำได้ ผมพาลูกผมหัดทานขนมกรอบให้น้อยลง เลิกกิน kfc และพยายามทานให้ลดลง และจำนวนหน ต่อปีน้อยสุด ผมอธิบาย วิธี"สิ้นชาติ"แบบทางเศรษฐกิจตั้งแต่เริ่มจนจบให้เด็กที่บ้าน และลูกฟัง หัดให้ลูกมาทานบัวลอย ขนมชั้น ข้าวเหนียวเปียกแทน ถั่วดำข้าวเหนียว ดีครับ ได้ผล ... ลูกเปลี่ยนวิธีกิน ... วิธีคิดไปเลย ... เปลี่ยนไปได้มาก พอเย็นสั่งผมซื้อเต้าส่วนบ้าง ขนมชั้นบ้าง ลูกเดือยบ้าง ผมพูดนิดนึงที่เขาเข้าใจคือ ผมไปตลาดซื้อไก่ทอดแม่ค้ามา 3 ขาไก่ทอดแบบไทย ๆ แล้วผมไป kfc ซื้อมา 3 ชิ้น เลือกน่องครับเหมือนกัน ราคาต่างกันลิบเลย ผมก็อธิบายคำว่า license ( ค่าลิขสิทธิ์ ) ให้ลูกฟัง ผมบอกว่า ซื้อไก่ 35 บาท ค่าไก่ 15 บาท ที่เหลือเป็นค่าลิขสิทธิ์ ไก่แม่ค้าที่ถูกเพราะไม่มีค่าลิขสิทธิ ใบตองที่ห่อขนมไทย ไม่มีลิขสิทธิ มันเป็นวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ไม่ถึง 3 เดือน ขนม"ต่างชาติ" ห่อสวย แพง เพราะยี่ห้อมันมีลิขสิทธิ์ เวลามันหล่นที่พื้น ไม่มีคนเก็บมันจะย่อยสลายภายใน 200 ปี ผมสอนแบบนี้ ลูกผมเปลี่ยนวัฒนธรรมไปเลย ผมทำได้และได้ทำแล้ว ปล . ใคร่จะขอกรุณาช่วยนำบทความไปเผยแพร่ต่อ จะเป็นพระคุณมากครับ คิดว่า ช่วย กัน "ชาวไทย พิทักษ์ชาติไทย" ครับ ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ "รักชาตินะครับ
    Mrs.Doubt
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    เตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ ประเทศในแถบยุโรปเช่นฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และอีกหลายประเทศ เริ่มมองเห็นเค้าลางว่าจะเกิดสงครามใหญ่ในอีกไม่กี่ปีนี้ หลายๆประเทศจึงเตรียมตัวรับมือกับสงครามใหญ่ที่จะเกิดขึ้น คาดว่าแต่ละประเทศต่างคงเร่งผลิตอาวุธ ผลิตโดรนที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ผลิตจรวดความเร็วสูง ผลิตรถถัง ผลิตเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือรบด้วย ถ้ามองอย่างเป็นกลางในตอนนี้ อาวุธทางฝั่งประเทศยุโรปและอเมริกามีความทันสมัยมากกว่า สงครามใหญ่จะลุกลามไปหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในตะวันออกกลาง จะขยายวงกว้างมากขึ้น มากขึ้น ประเทศอิสราเอลคือสารตั้งต้น ที่ทำให้เกิดสงครามใหญ่ในแถบตะวันออกกลาง อีกไม่นานเกินรอ พี่น้องชาวมุสลิมหลายประเทศจะรวมตัวกันต่อสู้กับอิสราเอล...ผู้นำอิสราเอลโนสน โนแคร์ คำเตือนของผู้นำอเมริกา ที่แนะนำอิสราเอลว่าอย่าโจมตีเมืองราฟาร์ เพราะพลเมืองผู้บริสุทธิ์จะล้มตายจำนวนมาก...อิสราเอลไม่ยินยอมให้ UN ส่งเสบียงอาหาร น้ำดื่มให้ชาวปาเลสไตร์ ทางอเมริกาและชาติอื่นๆต้องส่งเสบียงอาหารทางเครื่องบิน และทางเรือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากรชาวปาเลสไตร์ที่หิวโหยอดอยากอยู่ในขณะนี้...อิสราเอลเหมือนจะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตร์...คอยจับตาดูเมื่อไหร่ที่สงครามในประเทศตะวันออกกลางรุนแรงขึ้น มันจะเป็นสัญญาณว่า...”สงครามศาสนา”...ได้เริ่มขึ้นแล้ว บรรดาชาติอาหรับจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่น การสู้รบจะแผ่ขยายไปทั่ว จากสงครามใหญ่ จะพัฒนามาเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศอิสราเอลมีสิทธิที่จะถูกลบออกจากแผนที่โลก หรืออย่างน้อยพื้นที่ประเทศอิสราเอลก็จะเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ................................................ ประเทศรัสเซียถูกก่อวินาศกรรม พลเมืองชาวรัสเซียตายไป 139 คน บาดเจ็บอีกนับร้อยคน งานนี้ปูตินผู้นำประเทศรัสเซียคงไม่ยอมจบง่ายๆ พลเมืองชาวรัสเซียต้องไม่ตายฟรี กลุ่มผู้ก่อการร้ายถูกจับกุม 11 คน คาดว่าคนเหล่านี้คงจะถูกจัดหนักจัดเต็มตามสไตร์ โหด สัส รัสเซีย ถูกทรมานไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ให้ตายง่ายๆ กลุ่มนักรบ ISIS-K (กลุ่มรัฐอิสลามแห่งโคราซาน) ออกมารับผิดชอบ แต่ผู้นำรัสเซียปูติน ไม่ฟังแถมยังพุ่งเป้าไปที่ยูเครนเพราะกลุ่มผู้ก่อการร้ายขับรถมุ่งหน้าจะเข้าประเทศยูเครน...หวยจึงไปออกที่ประเทศยูเครน ถูกรัสเซียถล่มโจมตีอย่างหนักต่อเนื่องติดๆกัน รัสเซียระบายความแค้นกับยูเครนอย่างหูดับตับไหม้ และคาดว่าเบื้องหลังทางรัสเซียคงหาวิธีสางแค้นกลุ่ม ISIS-K ที่เป็นผู้ก่อวินาศกรรม...รัสเซียคงจะรีบเผด็จศึกยูเครนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้เตรียมตัว ผลิตอาวุธ ธุทโธปกรณ์เพิ่มให้มากที่สุด ทางรัสเซียเองก็คงรู้ว่าอีกไม่นานนี้...”สงครามใหญ่ สงครามโลกครั้งที่ 3 จะต้องเกิดขึ้น”...อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นต้องมีอาวุธสำรองให้มากที่สุด สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ใกล้จะเกิดขึ้น ประเทศแถบยุโรปและประเทศตะวันตก แต่ละประเทศต่างมีอาวุธที่ล้ำสมัย รวมทั้งเรือดำน้ำ เรือรบ และอื่นๆที่ล้ำหน้าและมีอานุภาพรุนแรงมาก ตอนนี้รัสเซียไม่ใช่สู้กับยูเครนเพียงประเทศเดียว แต่กำลังสู้กับบรรดาชาตินาโต้ที่สนับสนุนอาวุธให้กับยูเครน ต้องนับถือรัสเซียที่สามารถทำลายอาวุธของชาติยุโรปและชาติตะวันตกที่ส่งมาให้ยูเครน จนพังเสียหายไปมากมาย .....................................................กองทัพเรือของรัสเซียมีจุดอ่อนอยู่มากมาย ถูกยูเครนใช้โดรนและจรวดผิวน้ำจมเรือรบไปแล้วหลายลำ ทางกองทัพเรือรัสเซียต้องรีบหาวิธีป้องกันให้เร็วที่สุด แม้แต่เครื่องบินรบของรัสเซียที่ว่าเจ๋งๆ ยังถูกยูเครนสอยร่วงไปแล้วหลายลำ...เรือรบของประเทศอังกฤษก็อ่อนแอ สามวันดี สี่วันไข้ ต้องเข็นเข้าอู่ซ่อมหลายลำเช่นกัน คิดว่าทางรัสเซียคงจะมีการปรับปรุงกองทัพเรือให้มีประสิทธิภาพดีมากขึ้น ทางรัสเซียมีโคตรจรวดที่มีอนุภาพการทำลายล้างสูงจำนวนมาก ถ้าเกิดสงครามโลกขึ้น แรกๆจะไม่มีการใช้จรวดนิวเคลียร์ยิงถล่มกัน แต่ใช้น้องๆจรวดนิวเคลียร์เข้าถล่มกัน การยิงนิวเคลียร์จะยิงออกจากเรือดำน้ำก่อนเป็นอันดับแรก แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนจะเริ่มใช้นิวเคลียร์ก่อนเท่านั้น หลังจากยิงนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะยิงนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่นอกประเทศของแต่ละฝ่ายเข้าใส่กัน ถ้ายังย่อยยับกันไม่พอก็จะใช้เครื่องบินบรรทุกจรวดนิวเคลียร์ไปหย่อนใส่ประเทศฝ่ายตรงกันข้าม คิดว่าการยิงจรวดนิวเคลียร์ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศของตนเอง จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายเหมือนเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายถ้าประเทศตัวเองเริ่มเสียเปรียบในการทำสงคราม...คนหนุ่มคนสาวยุคนี้จะได้ชมและได้ดมพิษสงของนิวเคลียร์ (ยกเว้นประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมทำสงคราม) คนจะตายกันหลายสิบล้านคน อาจจะตายถึงนับร้อยล้านคนก็เป็นไปได้เช่นกัน ..................................................ประเทศจีน คงซุ่มผลิตอาวุธ และพัฒนาอาวุธอยู่ตลอด ประเทศจีนจะมีทหารมากที่สุด คิดว่าจะมีทหารอย่างน้อยก็ 30-50 ล้านนาย...ประเทศจีนทุ่มเงินซื้อตัวนักบินทหารที่เกษียณอายุราชการจากประเทศอังกฤษหลายนายมาเป็นครูสอนเด็กหนุ่มชาวจีนที่มีอายุ 18 ปี ให้เป็นนักบิน ควบคุมเครื่องบินรบ รุ่นหนึ่งรับเด็ก 200-300 คน ต้องเรียนต้องฝึกให้ชำนาญใช้เวลาประมาณ 4 ปี ต่อหนึ่งรุ่น พอฝึกรุ่นนี้เสร็จก็จะรับเด็กหนุ่มรุ่นต่อๆไปให้เข้ามาฝึกบิน เมื่อถึงเวลาเกิดสงครามคาดว่าประเทศจีน จะมีนักบินทหารมากที่สุดในโลก และคิดว่าประเทศจีนจะมีอาวุธบางชนิดที่ล้ำสมัยที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ถ้าเกิดสงครามขึ้น ดาวเทียมของสหรัฐจะถูกรบกวนหรือถูกทำลายไปบางส่วน แต่ไม่รู้ว่าประเทศจีนหรือรัสเซียเป็นผู้ลงมือทำลายหรือรบกวนดาวเทียมของสหรัฐ คาดว่าสหรัฐคงรู้เรื่องนี้และคงหาทางป้องกันดาวเทียมของตนเองอยู่เช่นกัน ดาวเทียมของสหรัฐมีหลายดวง ไม่ใช่แค่ดวงเดียว เพราะฉะนั้นฝ่ายผู้ที่คิดจะทำลายดาวเทียมของสหรัฐต้องหาวิธีปิดตาดาวเทียมของสหรัฐให้มากที่สุด หลายๆประเทศต่างก็มีดาวเทียมของตนเอง ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นอินเตอร์เน็ตคงใช้ไม่ได้ การติดต่อสื่อสารจะเป็นอัมพาต ใช้บัตรถอนเงินจากตู้ ATM ไม่ได้ ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของไม่ได้ และกดถอนเงินสดออกจากตู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรสำรองเงินสดเอาไว้ เตรียมซื้อข้าวสาร อาหาร น้ำดื่ม และยา โดยเฉพาะคนที่ต้องกินยารักษาโรคประจำตัวทุกวัน ............................................ประเทศเกาหลีเหนือ ไม่รู้ว่าจะมีอาวุธที่ทันสมัยจริงหรือไม่? เพราะเป็นประเทศที่ถูกปิด ถูกบอยคอตจากชาติตะวันตกและชาติยุโรปมานานแล้ว แต่หลายๆประเทศต่างก็รู้สึกหวั่นเกรงอาวุธของเกาหลีเหนือเหมือนกัน เพราะเห็นเกาหลีเหนือทดลองการยิงจรวดอยู่เสมอ แถมยังขู่ว่ามีอาวุธนิวเคลียร์สามารถยิงได้ไกล จนประเทศเกาหลีใต้และประเทศญี่ปุ่นต่างก็หวั่นเกรงเกาหลีเหนือไม่น้อย ถ้าเกิดสงครามใหญ่ขึ้นเกาหลีเหนือก็มีทหารมากเหมือนกัน แต่จะรบเก่งแค่ไหนไม่รู้ คงต้องฟังแผนการรบจากประเทศจีนเป็นหลัก...ประเทศอิหร่าน ประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน สี่ประเทศนี้รวมตัวกันจะเป็นพี่ใหญ่ของประเทศตะวันออกกลางทั้งหมด...เพียงแต่ให้ประเทศอิหร่านคุมกำลังนักรบประเทศตะวันออกกลาง...ส่วนประเทศรัสเซีย ประเทศจีน ประเทศเกาหลีเหนือ จะเป็นผู้ปะทะกับกองกำลังของชาตินาโต้เป็นหลัก...สงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดแน่นอน อาจจะเกิดเร็วกว่าที่คาดไว้...หลายคนกังวลว่าประเทศไทยจะถูกถล่มจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วย แต่เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าร่วมรบกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าเข้าร่วมรบก็โง่บรรลัย...ประเทศไทยจะเป็น “ครัวโลก” ส่งออกอาหาร ข้าวสาร และแป้งสำหรับทำขนมปัง และพืชผักนานาชนิดจำนวนมาก รวมทั้งอาหารทะเลด้วย ราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆจะแพงมาก การขนส่งก็ลำบากเพราะภัยสงครามเกิดขึ้นไปทั่วโลก...ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า ประเทศเวียดนาม ก็พลอยได้อานิสงส์จากราคาข้าวสารและอาหารอื่นๆไปด้วย เกษตรกรจะร่ำรวยก็คราวนี้แหละ...บางคนคิดว่าสถานทูตอเมริกาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการขุดลึกลงไปหลายร้อยเมตร ทำเป็นสถานที่เจาะล้วงความลับความมั่นคงของชาติตรงกันข้าม จะถูกถล่มไปด้วย แต่ผมมั่นใจว่าสถานฑูตแห่งนี้มีสิทธิ์ที่จะถูกปิดตายจากวิธีใดวิธีหนึ่ง และท้ายที่สุดสถานฑูตแห่งนี้จะไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ จ.เชียงใหม่จะไม่ถูกถล่มด้วยระเบิดอานุภาพแรงสูงอย่างแน่นอน แต่สถานฑูตอาจจะถูกก่อวินาศกรรม...หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 สงบลง จังหวัดตราด จะมีพื้นที่ใหญ่ขึ้น มากขึ้น หรืออาจจะมีอำเภอ / จังหวัดใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย เพราะประเทศเขมรจะต้องคืนพื้นที่ๆติดกับจังหวัดตราดให้กับประเทศไทย ในขณะนี้ไทยกับเขมรกำลังหาทางลงเรื่องเขตแดนทางทะเลที่ทับซ้อนกันอยู่ ในอดีตมีนักการเมืองบางคนที่ชั่วช้าเลวทราม ไปทำ MOU กับฮุนเซน แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย มีสองทางที่ไทยจะได้พื้นที่คืนจากเขมรคือจะได้ด้วยการเจรจา หรือได้มาจากการทำสงครามรบกับเขมร ซึ่งผลลัพธ์สุดท้าย ไทยจะได้พื้นที่คืนมาอย่างแน่นอน / ด้วยความเคารพ หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ 28 มี.ค. 2567 ...
    ไม่ระบุชื่อ
     •  9 เดือนที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    โควิดเป็นแล้วกลับมาเป็นอีกได้หรือไม่
    จากกรณีข่าวของวันที่ 9เมย ที่แพทย์ตรวจพบหญิงสาวจากจังหวัดชัยภูมิ ติดเชื้อโควิดรักษาตัวหายแล้วครบ 14 วัน เมื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แพทย์ตรวจซ้ำพบเจอเชื้อโควิด 19 แต่ไม่มีไข้ และกรณีของคนเกาหลี เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ในวันศุกร์ (10 เม.ย.) รายงานว่า มีคนไข้ที่คิดว่าหายดีจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) กลับมีผลตรวจออกมาเป็นบวกอีกรอบ 91 คน
    naydoitall
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ลองอ่านข้อเขียนของคนระดับ เอกอัครราชทูตไทย ซึ่งท่านเห็นเหตุที่เกิดขึ้น ผ่านประสพการณ์ต่าง ๆ มาทั่วโลก เหมือนกับเราเมื่อโตขึ้นมาระดับหนึ่ง ความคิดความอ่าน จะแตกต่างจาก เมื่อตอนยังเด็ก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีมากขึ้น เพราะเราเห็นโลกมามากขึ้น และเป็นบทสรุปในใจเราได้ว่า อะไร เป็นอะไร เมื่อคนไทยต้องการ พรรคก้าวไกล ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องยินดีด้วย และ ปล่อยให้ระบบมันเดินไป แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปแบบค่อยๆซึมเข้ามาคือการ ล่าอาณานิคมแบบใหม่ของสหรัฐอเมริกา และ ประเทศตะวันตก วันนี้คือจุดเริ่มต้นเท่านั้นของการล่มสลายของประเทศไทย ก้าวไกลได้อะไร --> ได้เงินและอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ถูกหรือผิด ชั่วหรือดี พรรคก้าวไกลเป็นพรรคหนึ่งที่ได้ Fund จากประเทศอเมริกา ผ่านองค์กร มูลนิธิลับ ๆ หลายแห่ง ในการขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อเปิดช่องให้อเมริกาสามารถแทรกแซงทางการเมืองไทยได้ สังเกตได้จากกลุ่ม NGO ต่างๆ ที่เข้ามาสนับสนุนการล้มล้างสถาบันฯ กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ รวมถึงการนำทูตสหรัฐและ ประเทศตะวันตกเข้ามา observe การประชุม สัมมนา หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ มันคือการล่าอาณานิคมแบบใหม่ที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยคำนึงถึง อเมริกาต้องการทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ ของประเทศ และ การนำประเทศไทยตั้งฐานทัพ เพื่องัดอำนาจจากประเทศจีน ซึ่งทางอเมริกา พยายามจะเข้ามาตั้งหลายครั้งหลายหนแล้วแต่ทางทหารไทยไม่ยอม ได้แค่เข้ามาฝึกซ้อมรบ คนจนของอเมริกามากกว่า 43 ล้านคน เท่ากับประชากร 1 ประเทศ แต่เศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกก็อยู่ในอเมริกา มันยิ่งเป็นการบอกว่าทุนการเงินมันสร้างการกระจุกตัวไว้ที่คนจำนวนหนึ่ง นี่คือความเหลื่อมล้ำจากระบบเสรีนิยมและ ทุนนิยม (ซึ่งไม่เคยมีอยู่จริง) ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น เชื่อว่าไม่มีทางเลี่ยง อเมริกาอยู่ได้ด้วยอาวุธ แต่ถ้าไม่มีสงครามก็ขายไม่ออก อวกาศก็เหมือนกัน หรือถ้าอเมริกาต้องการนำอาหารเป็นตัวจูงเศรษฐกิจตัวเอง พื้นที่การผลิตอาหารไม่พอฉะนั้นต้องขยายดินแดน อเมริกาต้องการให้เกิดสงครามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่จะได้ขายอาวุธ และ คานอำนาจกับจีน ซึ่งได้เริ่มทำไปแล้วในฟิลิปินส์ เกาหลีไต้ ซึ่งประเทศเหล่านี้มีโอกาสเกิดสงครามกับจีนและรัสเซียตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตหากยังดำเนินแบบนี้ต่อไป คงได้เห็นสงคราม ไทย-จีน! ไทยก็เช่นเดียวกัน อยู่ในชัยภูมิที่ดี มีทางออกทะเล และมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ต่างชาติยกย่องว่าเป็นครัวของโลก จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของอเมริกาและชาติตะวันตก แต่สิ่งที่ยากที่สุดในการเข้ามาแทรกซึมประเทศไทยมี ความมั่นคงทางวิถึชีวิต และความภักดีใน สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คานอำนาจและเป็นเสาหลักของประเทศ จึงเป็นงานยากของอเมริกาที่ต้องลดบทบาทของสถาบันหลักเหล่านี้ให้อ่อนแอที่สุด จนถึงเป็นแค่สัญลักษณ์ เพื่อที่จะเข้ามายึดครองได้โดยง่าย (ไม่แปลกอะไรที่ ก้าวไกล ขอยกเลิก ม.112 มาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่ ประธานรัฐสภา ชวน หลีกภัย บอกว่าเสนอเป็นญัตติมาอภิปรายไม่ได้ เพราะญัตตินี้ ผิด รธน.) สิ่งที่ชาติตะวันตกและอเมริกาได้ทำมาอย่างต่อเนืองมากว่า 60 ปี คือการสร้าง soft power แบบซึมเข้ามาในรูปแบบ การศึกษาที่ทันสมัย ภาพยนตร์ การให้ทุนนักเรียนเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ พร้อมการล้างสมองให้คนของเราเสพติด คำว่าประชาธิปไตย ความทันสมัย ศิวิไลซ์ของเขา ของประเทศเสรีนิยม ทุนนิยม และ ผลักดันให้คนกลุ่มนี้กลับเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศ พร้อมจะเปลี่ยนประเทศโดยไม่สนใจรากเหง้าเดิม คนเหล่านี้จะมีแนวความคิดแบบชาติตะวันตกเต็มตัว พร้อมที่จะทำตามและอ้าแขนรับอำนาจตะวันตก โดยถึงขั้นมองว่าถ้าต้องเป็นประเทศอาณานิคมก็ไม่แปลกอะไร เพราะคงจะได้รับความรู้ความเจริญมา ในฐานะ"นักเรียนนอก" และวันนี้พวกเค้าทำสำเร็จแล้ว ก้าวแรกของการล่าอาณานิคมใหม่ เริ่มขึ้นโดยการต้องเริ่มกระบวนการลดกำลังทหาร และ ลดบทบาทสถาบันกษัตริย์ คนหนุ่มสาวของประเทศ มีแนวคิดแบบตะวันตกมากกว่าครึ่งประเทศถูกเสพติดด้วยข้อมูลบิดเบือนมาเป็นเวลานาน เริ่มแสดงตัวตน แบบคนกระหายความสำเร็จ กระหายความเจริญ และ ศิวิไลย์ แบบชาติตะวันตก ดูได้จากการแสดงออกใน social media ที่พยายามแสดงถึงความ หรูหรา ฟุ่มเฟือย ชีวิตที่ดี กินหรู อยู่สบายใช้ของ brand ผู้คนเหล่านี้มีความรู้ มีฐานะ การงานที่ดี และคิดว่า "กูโตมาได้้ หาเงินได้ ด้วยความสามารถตัวเอง พ่อแม่ตัวเอง ไม่เกี่ยวกับสถาบันฯ" ส่วนคนจนก็จะโทษทุกสิ่งอย่างรอบตัวที่ไม่ใช่ตัวเอง ความคิดแบบนี้กำลังจะพังประเทศตัวเอง เป็นความคิดแบบเห็นแก่ตัวแบบสุดขั้ว และการกอบโกยทรัพยากรเต็มที่ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนรุ่นเก่าๆอีกหลายคน แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ต้องการให้เป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เกิดไป อาจจะยังไม่ได้เกิดในปี สองปีนี้ อาจจะค่อยๆซึมเข้ามาเป็น 5-10ปี ก็คงต้องคอยดูต่อไป ขอให้ประเทศไทยพ้นผองภัย ขอให้ฝ่ายค้านที่ยังเป็นคนเจ็นคุณภาพ รักบ้านเกิดเมืองนอนตนเอง ได้ทัดทาน ไม่ให้คนชั่วคว่ำฟ้าพลิกดิน คบต่างชาติให้เข้ามากลืนชาติ นำพาสู่สงคราม ได้สำเร็จ เข้าทางไอ้กันมันแล้ว มันเริ่มให้ไอ้พวกนี้ออกมาก่อกวน แล้วค่อยๆรุนแรงขึ้นเหมือน Hong-Kong Model จนเกิดกลียุคสงครามกลางเมือง จนทางการคุมไม่อยู่จนต้องใช้ความรุนแรง (เคยทราบไหม หยก เด็กหญิง อายุ 15 ปี มายืนกลางถนน อ่านหนังสือด่าในหลวง เพื่อให้ถูกจับ เมื่อตำรวจจับไป ไม่มีใครมายื่นประกัน เพื่อเอาเป็นข้อเรียกร้องว่า จับเด็ก 15 ขวบ ขัง ไม่ให้เรียนหนังสือ) แล้วมันก็จะฟ้องไปทาง UN จนไอ้กันขนทหารเข้ามาควบคุมประเทศ อันตรายมากที่จะเกิดวิกฤตแบบ Hong-Kong ตอนนี้ก็เตรียมย้อนอดีตไปสมัยช่วงสงครามเวียดนาม ที่ไทยเรายอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยเพื่อประจัญหน้ากับจีน ก่อนหน้านี้ US ก็ทำสำเร็จแล้วที่ ฟิลิปปินส์ ได้ลูกชายของอดีตปธน.มาร์คอส ขึ้นมา และทันทีก็หันไปซบอเมริกายอมให้ใช้ฐานทัพเพื่อเผชิญหน้ากับจีน และก็ไม่ผิดคาดแต่อย่างใดที่การเลือกตั้งในไทยก็ได้พรรคที่มีแนวโน้มโปร US ขึ้นมาเพราะเขาได้วางแผนการในการใช้สื่อเกลี้ยกล่อมและ convince คนรุ่นใหม่จนประสบผลสำเร็จ ด้วย keywords คำว่า “ประชาธิปไตย” “ยกเลิก ม.112” “ความเหลื่อมล้ำในสังคม” ”นายทุนผูกขาด” มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว รัฐบาลฝ่ายขวาที่อนุรักษ์นิยมทำอะไรไม่ได้เลย เพราะยุทธศาสตร์การเมืองยุคใหม่คือ ใครครองหรือครอบงำสื่อโซเชียลได้ ผู้นั้นครองโลก ! ก็ไม่ต่างจากสมัยยุคล่าอาณานิคม ที่มีคำพูดว่า ใครครองน่านน้ำคนนั้นครองโลก หรือที่เรียกกันว่า “การทูตเรือปืน” ( Gunship Diplomacy) สมัยนั้นเราต้องเสียดินแดนไแก็เพราะยุทธศาสตร์แบบนี้ พอยุคสงครามเย็นก็ใครครองอวกาศผู้นั้นครองโลก พอมายุคนี้ใครครอบครองสื่อโซเชียล หรือ สื่อออนไลน์ได้ ผู้นั้นก็ครอบงำโลกได้เช่นกัน ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแบบนี้เลย พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า กลุ่มทุนสามานต์ต่างชาติที่เป็นนอมินีให้กับ US นั้นมีหุ้นใหญ่อยู่ใน FB Twitter และเดี๋ยวนี้ลงไปถึง Netflix / HBO เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่หนังทุกเรื่องหากมีพากย์ไทยจะถูกสอดแทรกเรื่องการเมืองลงไปเท่าที่เขาจะสอดแทรกได้เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกับคนรุ่นใหม่ให้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในไทยให้ได้ ผมอยู่ที่ Film Board ได้รับรู้อะไรเยอะมากครับว่าพวกเขาทำกันยังไง ไม่เว้นแม้แต่ในบริษัทผลิตยาและวัคซีนมหาเทพ ก็มีกลุ่มทุนสามานย์ นอมินีของ US ถือหุ้นอยู่ คงจำกันได้ที่วัคซีนมหาเทพที่ถูกปั่นในหมู่ศิลปิน ดารา นักร้อง นางงาม เซ็เล็บ แล้วก็ด่าจีนเรื่องวัคซีนน้ำเกลือ วัคซีนเซินเจิ้น ไม่เว้นแม้แต่การดูถูกวัคซีน AZ ที่ไทยเราผลิตได้ในประเทศก็กลายเป็นประเด็นกระทบถึงสถาบัน นั่นคือผลงานของการปั่นจากผู้ที่ครอบงำสื่อได้ เรื่องนี้มิใช่เรื่องเล่นๆ เพราะคงวางแผนลงไปทุกอณูของสื่อ ไม่เว้นแ้แต่การ์ตูนอานิเมะ เพจหมาแมว สัตว์เลี้ยง กีฬาสีเด็กประถม/มัธยมนยังมีเดินขบวนล้อการเมืองเลย ยังจำภาพเด็กมัธยม รร.แห่งหนึ่งใน จ.อุดร ถือป้ายในงานกีฬาสีเขียนชื่อป้ายประเทศว่า Repuplic of Thailand ! เดิม US เคยเกือบทำสำเร็จใน Hong Kong แต่จีนไม่ยอมง่ายๆ จีนใช้ไม้แข็งเพราะเป็นเผด็จการคอมมิวนิสต์ จึงคุม Hong Kong ได้ในที่สุด แต่ตอนนี้ US ประสบความสำเร็จแล้วที่ฟิลิปปินส์ และไทย ผมมองเห็นอนาคตว่าเราจะถูกผลักให้จำเป็นต้องเลือกข้าง US ซึ่งตรงนี้จะมีความน่ากลัวเพราะจีนเองก็คงไม่ยอม และไทยเราอาจกลายเป็นสนามประลองกำลังของมหาอำนาจในที่สุด ยิ่งตอนนี้เสถียรภาพทางการเงินของ US อยู่ในขั้นวิกฤต อาจผิดสัญญาชำะหนี้ต่างชาติได้ (ญี่ปุ่นและจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่) ทางเดียวที่อาจจะช่วย US ได้คือ คือการทำ Trade War Business ! พวกผมเคยผ่านและเคยได้เห็นสภาพตอนที่เราต้องยอมให้ US เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยถึง 7 แห่งในช่วงสงครามเวียดนามมาแล้ว แต่เด็กรุ่นใหม่ไม่เคยรู้ ไม่เคยศึกษา อิทธิพลของสหรัฐฯที่ทิ้งไว้ก็คือวัฒนธรรมแบบแยงกี้ บาร์เบีย / เมียเช่า / อะโกโก้ โชว์ลามก นั่นคือจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ของไทย จากเดิมสังคมวัฒนธรรมไทย ที่ผู้หญิงขี้อายรักษักดิ์ศรี ก็กลายเป็นผู้หญิงไทยโดนหมิ่นเกียรติเยอะมากเวลาไปต่างประเทศ เราอาจกลายเป็น สมรภูมิแห่งความขัดแย้งในภูมิภาค เราอาจกลายเป็นแบบยูโกสลาเวีย หรือ เนปาล ยูเครน โมเดล ต่อไปนี้คงคาดเดาลำบาก เพราะทุกอย่างก็เริ่มเข้าเค้าตามแนวทาง New World Order ของ US ไปทุกที พวกผมคงอยู่กันอีกไม่นาน ถึงตอนนั้นก็เป็นความรับผิดชอบของคนที่ออกคะแนนเสียงในวันนี้ว่าคุณต้องเลือกหนทางเดินให้ประเทศไทยให้ได้ อย่าให้อายคนรุ่นเก่าที่เขายอมเสียสละปกป้องประเทศไทยมาได้นะครับ ________ Cr: Fuangrabil Narisroj (นริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา)
    ไม่ระบุชื่อ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ในงานศพของคุณฉลบชลัยย์ พลางกูร ภรรยาของอดีตเสรีไทย คุณจารึก พลางกูร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีพวกเสื้อแดงและนิยมเสื้อแดง แห่กันไป นัยว่าอาลัยท่านหนักหนา แต่พออ่านหนังสือที่แจกในงานศพท่าน ก็อึ้งกันไปตามๆ เพราะท่านฝาก"ด่า" อย่างงี้ "Everything Happens For A Reason" "ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระคถาคตทรงแสดงเหตุเกิดขึ้น และดับไปของธรรมเหล่านั้น" > ในจักรวาลนี้ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นด้วยเหตุและผลทั้งสิ้น,... . @@@: หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (นายปรีดี พนมยงค์) แกนนำคนสำคัญของคณะราษฏร์ แต่งงานกับนางสาว พูนศุข ณ ป้อมเพชร,... ท่านเป็นผู้นำคนแรกของไทย ที่มีความปรารถนาจะเป็นประธานาธิบดี ครั้งที่ทำการปฏิวัติฯ ท่านเคยใช้ถ้อยคำรุนแรง กล่าวจาบจ้วงโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์,... ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ พระองค์ทรงตรัสถามว่า -"ใครในคณะราษฏร์ เป็นผู้เขียนข้อความปราศรัยโจมตีเรา"?,... > นายปรีดี มีความเป็นลูกผู้ชายพอ,... ถวายบังคมทูลว่า -"ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ ข้าพระพุทธเจ้าเป็น ผู้เขียนบทความเองพระพุทธเจ้าข้า",... รัชกาลที่ ๗ ตรัสถามว่า -"ท่านเขียนสิ่งที่ไม่เป็นความจริงเช่นนั้น กล่าวหาเราได้อย่างไร"?,... > พระอาญามิพ้นเกล้าฯ -"เมื่อทำการใหญ่ถึงขั้นปฏิวัติแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าต้องการจะเอาชนะ จึงเขียนข้อความเช่นนั้นเพื่อปลุกปั่นประชาชนให้เชื่อถือ....เพราะหากว่าแพ้แล้ว หมายถึงเป็นกบฏ และต้องตายสถานเดียว จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้ชัยชนะ พระพุทธเจ้าข้า" WOW !!!,... และนั่นคือครั้งแรก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ทรงแย้มสรวลพระโอษฐ์ได้,... ตรัสชมนายปรีดีว่า:- "ดีมากลูกผู้ชายกล้าทำ (ชั่ว) ก็กล้ารับ" ---------------- @@@: คุณทักษิณ ชินวัตร / มีหลายอย่างที่เหมือนนายปรีดี พนมยงค์ คือนอกจากจะเป็นคนเรียนเก่ง ได้เป็นนายกรัฐมนตรี และอยากจะเป็นประธานาธิบดีแล้ว,... สิ่งที่เหมือนอย่างไม่น่าเชื่อคือ คุณทักษิณ แต่งงาน กับนางสาว พจมาน ณป้อมเพชร,... วันนี้คุณทักษิณ ไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือน หลวงประดิษฐ์มนูธรรม,... มีความเป็นไปได้สูงว่า คุณทักษิณอาจจะไม่ได้กลับมาตายบนผืนแผ่นดินไทยเช่นเดียวกัน แต่สิ่งหนึ่งที่คุณทักษิณ ไม่เหมือนกับนายปรีดีคือ -"คุณทักษิณไม่เคยยอมรับความจริง"!!!,... ----------------- @@@ : คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,... เป็นบุตรชายของ พญ.สดใส เวชชาชีวะ,... ซึ่งท่านพญ.สดใส เป็นหลานตาของ - "หลวงพิพิธพจการ"- (แจ่ม สูตะบุตร) หรืออีกนัยหนึ่งคือ (หลวงพิพิธพจการ) คือทวดของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั่นเอง,... เชื่อหรือไม่ ?,... ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีอั้งยี่กลุ่มหนึ่งชื่อ-"คณะยี่เฮ็ง"- อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี สร้างความเดือดร้อน ให้คนไทยเป็นอย่างมาก,... หัวหน้าแก๊งอั้งยี่ชื่อ-"นายง่วนเส็ง แซ่คู"- เคยถูกพิพากษาจำคุกที่จังหวัดตราด โดยหลวงพิพิธพจการ. (แจ่มสูตบุตร)เมื่อครั้งที่ท่านเป็นผู้พิพากษา,... > หลายปีต่อมาพอนายง่วนเส็ง พ้นโทษจึงย้ายมาอยู่จันทบุรี / พอรู้ข่าวว่าหลวงพิพิธพจการ มาประจำอยู่จังหวัดจันทบุรี > นายง่วนเส็งจึงส่งคนไปทำร้ายหลวงพิพิธฯ > เมื่อถูกจับอีกครั้งจึงถูกส่งตัวมาติดคุกยาวที่กรุงเทพฯ,... *** มีปรากฏหลักฐานทางจดหมายเหตุว่า,... นายง่วนเส็ง เป็นพ่อของนาย-"ซุนเซียง"- ซึ่งอพยพย้ายครอบครัวจากจันทบุรีขึ้นไปอยู่เชียงใหม่ ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่นแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น-"นายเลิศ ชินวัตร"- YOOOO!!!,... นายเลิศ ชินวัตร, ท่านคือเตี่ยของคุณทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง !!!,... *** ใช่ครับ, ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ,... ใครทำกรรมใดย่อมได้รับผลกรรมนั้นๆ,... และใครทำบุญใด ผลบุญนั้นย่อมตอบสนองเช่นเดียวกัน !!!,... วาทะเติ้งเสี่ยวผิง "อย่าตอบแทนบุญคุณส่วนตัว ด้วยผลประโยชน์ประเทศชาติ" รัฐบุรุษผู้พลิกเปลี่ยนประเทศจีน จากยากจนมาเป็นมหาอำนาจของโลกในปัจจุบันนี้ ได้เปิดเผยเรื่องของตนเอง ต่อไปนี้ว่า :- ขณะที่ตนถูกแก๊งอ้อฟโฟร์ ซึ่งนำโดยภรรยาเหมา นางเจียงจิง กล่าวโทษและตามล่าเป็นครั้งที่สองนั้น เขาได้หลบซ่อนตัวอยู่ในกรมทหารทางใต้ของจีน ซึ่งเจ้ากรมทหารนั้นเป็นเพื่อนกัน ให้การปกป้องเขาอยู่ ครั้นเขากลับมามีอำนาจอีกครั้ง เจ้ากรมทหารเพื่อนกันคนนั้น ก็เอ่ยปากขอตำแหน่งให้ตนเอง ในฐานะมีบุญคุณส่วนตัว เติ้งได้กล่าวต่อเพื่อนว่า "อันบุญคุณของท่าน ที่ช่วยข้าพเจัาส่วนตัวนั้น ข้าฯก็เห็นแจ้งอยู่ หากท่านตัองการอะไรจากข้าฯเป็นส่วนตัวแล้วไซร้ ข้าฯก็ยินดี ตอบสนองคุณท่าน มิได้ลืม แต่ประเทศชาติ หาได้เป็นหนี้บุญคุณต่อท่านไม่ ข้าฯ มิอาจตอบแทนบุญคุณส่วนตัว ดัวยผลประโยชน์ของชาติได้" อุธาหรณ์จากเรื่องดังกล่าว ถ้าพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยปัจจุบันนี้ คงเห็นได้ว่า ความล้าหลัง ไร้ประสิทธิภาพ และการโกงกินของนักการเมือง อย่างโจ๋งครึ่มในปัจจุบันนี้ เป็นผลจากการ "ตอบแทนบุญคุณส่วนตัว ด้วยผลประโยชน์ประเทศชาติ" มากมาย นับจากการเอานักเลงหัวไม้มาเป็นรัฐมนตรี จนถึงการซื้อเสียงของประชากรรากหญ้า การที่นักการเมืองขี้โกง ของบฯ ทำความเจริญให้แก่หมู่บ้าน แล้วชาวบ้านแห่กันลงคะแนนเสียงให้ ก็เข้าข่ายเรื่องนี้เช่นกัน หากเห็นด้วยกับผมในบทความนี้ กรุณาส่งต่อให้มากที่สุด เผื่อไม่แน่ เราอาจทำดีเล็กๆน้อยๆ ตอบแทนบุญคุณประเทศชาติได้บ้าง ..ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์..
    ไม่ระบุชื่อ
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จากดร.อาทิตย์. อุไรรัตน์ ถึงคนไทยทั้งประเทศ ท่านรู้หรือไม่? มีเรื่องพวกนี้ เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ฟังแล้วอย่าเมินเฉย. หนึ่งคะแนนเสี่ยงของท่านช่วยกันแก้วิบัติของชาติได้ " 5 ปีแห่งความทุกข์ระทมของประชาชน 5 ปีแห่งความหายนะของชาติบ้านเมือง บอกได้คำเดียวว่า หนักกว่านักการเมืองอาชีพ ชาตินี้คงจะหาผู้นำที่สร้างความบรรลัยให้ชาติบ้านเมืองมากเท่าลุงคนนี้ไม่มีอีกแล้ว โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้เจ้าสัว/นายทุน น่าเกลียดจริงๆ > ที่ดินรถไฟมักกะสันปอดของกรุงเทพฯที่ ร.5 ท่านประทานไว้เป็นสาธารณะประโยชน์กับคนไทย ก็ใส่พานประเคนให้เจ้าสัวซี.พี. > ยกที่ดินยาสูบให้นายทุนไปทำอหังสาฯ และยังปรับภาษีสรรพสามิตบุหรี่ไทย ทำให้บุหรี่ไทยแพงขึ้นเทียบเท่าบุหรี่นอก คนก็เลยหันไปสูบบุหรี่นอก ทำให้โรงงานยาสูบที่เคยกำไรหมื่นล้าน กลายเป็นขาดทุนหลายพันล้าน > ให้เจ้าสัวเจริญต่อสัญญาเช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยไม่ต้องประมูลแข่งขัน และแก้ไขสัญญาเช่าจาก 25 ปี เป็น 50 ปี > ให้ต่างชาติ+นายทุน เช่าที่รัฐ 99 ปี ปชช.ไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนเป็นให้เช่า 50 ปี ต่อสัญญาได้อีก 49 ปี สรุปคือให้เช่า 99 ปี > เดินหน้าโครงการเศรษฐกิจพิเศษ 10 จังหวัด(นิคมอุตสาหกรรม) บางพื้นที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม บางพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ นิคมอุตสาหกรรมสกปรก อันตรายแค่ไหนก็ดูมาบตาพุดเป็นตัวอย่าง > ยกที่สาธารณะ ที่ป่า รวมถึงไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเศรษฐกิจพิเศษ > ให้ต่างชาติซื้อที่ดินใน 13 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ไม่อั้น > โครงการ EEC เอื้อประโยชน์สุดๆให้ต่างชาติและนายทุน ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 13 ปี / อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% ต่ำสุดในอาเซียน / ยกเว้นภาษีนำเข้า เครื่องจักร วัตถุดิบ / สนับสนุนค่าใช้จ่าย ในการลงทุน การวิจัย / อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดิน / ให้สิทธิ์การเช่าที่ดินรัฐ ถึง 50 ปี และสามารถพิจารณา ต่ออายุอีก 49 ปี / วีซ่าทำงาน 5 ปี > มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช และ บางใหญ่-กาญจนบุรี ใช้เงินภาษีประชาชนสร้าง 1.4 แสนล้าน แต่ไม่มีปัญญาทำด่านเก็บเงิน ต้องให้เอกชนมาสัมปทานเป็นผู้ทำด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง โดยรัฐจ่ายค่าจ้างให้เอกชนปีละ 2,000 ล้าน สัญญา 30 ปี รวยแบบง่ายๆไม่ต้องมีความเสี่ยงใดๆ > ดึงโครงการทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และบางนา-ชลบุรี เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เอื้อประโยชน์ให้นายทุนรวย > ค่าโง่คลองด่านคดียังไม่สิ้นสุด แต่รีบจ่ายงวดแรกไป สุดท้ายศาลตัดสินว่าไม่ต้องจ่ายค่าโง่ แต่ค่าโง่งวดแรกที่จ่ายไปก็ไม่ยอมทวงคืน > ส่อแววล้มมวยเรื่องค่าโง่เหมืองทองคำ ที่ถูกบริษัทคิงส์เกตจากออสเตรเลียฟ้องร้อง เพราะคิงส์เกตเคยติดสินบนรัฐมนตรีอุตสาหกรรมไทย และข้าราชการระดับสูงของไทย ในสมัย คสช. 3,000 ล้าน โดยทางตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลียส่งหลักฐานการโอนเงินมาให้กลต.ไทย และได้ส่งต่อมาให้ปปช.อีกทีในปี 2558 แทนที่รัฐบาลจะเร่งรีบตรวจสอบเอาผิด เพื่อนำมาใช้ต่อสู้คดีถูกฟ้องเรียกค่าโง่ ซึ่งก็จะทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าโง่ ก็กลับดองเรื่องเงียบ ไม่เคยพูดถึงสักแอะ ส่อเจตนาจริงๆ > เบื้องหน้าสั่งปิดเหมืองทอง แต่เบื้องหลังยังเดินหน้า มีการไล่ยึดที่ดินชาวบ้านไปยกให้นายทุนทำเหมืองทอง > เอาเงินสำรองระหว่างประเทศไปเล่นหุ้น > ข้าวดี ตีเป็นข้าวเสื่อมราคาแล้วขายถูกเอื้อประโยชน์นายทุน > ขายเหมาเข่ง 11 รัฐวิสาหกิจสมบัติของชาติ โดยใช้แผนตบตาคนไทยด้วยการตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจ อ้างให้รัฐดูแล แต่เปิดทางให้นายทุนเข้ามาถือครอง > ปลดล็อคผังเมืองเอื้อนายทุน โครงการที่ทำลายสิ่งแวดล้อม-ชุมชน ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป > ผ่านพรบ.แร่เอื้อนายทุน ทีนี้ประทานบัตรเหมืองแร่ไปทับที่ดินชาวบ้านคนไหน เจ้าของที่ดินก็จะกลายเป็นผู้บุกรุกที่ดินตนเอง > ไล่ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านที่อยู่ทำกินมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เพื่อไปยกให้นายทุนทำเหมืองแร่ ชาวบ้านคนไหนไม่ยอม ก็ฟ้องเอาติดคุก มีติดคุกไปหลายราย ผู้สูงวัยทั้งนั้น > เดินหน้ายัดเยียดเหมืองโปรแตซทำลายเกษตรกรรมที่ภาคอีสาน เอื้อนายทุน >ยัดเยียดการสร้างเขื่อนวังหีบ จ.นครศรีธรรมราช และแอบอ้างว่าเป็นโครงการพระราชดำริในหลวง ร.9 เพื่อให้ปชช.ยอมรับ ทั้งที่ในหลวงท่านไม่เคยยัดเยียดโครงการใดๆถ้าหากปชช.ไม่ต้องการ(โครงการนี้มีปชช.ทูลขอพระราชทาน ในหลวงท่านจึงได้ให้หน่วยงานรับผิดชอบไปศึกษาโครงการ แต่สรุปแล้วไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์ และยังไปทำลายป่าลุ่มน้ำชั้น 1 โครงการจึงล้มเลิกไป แต่ถูกดันโครงการอีกครั้งในรัฐบาลนี้และยังมีการแอบอ้างว่าเป็นโครงการของในหลวง สารเลวจริงๆ) > เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินสกปรกหลายจังหวัดเอื้อประโยชน์นายทุนเหมืองถ่านหิน ทั้งที่ทั่วโลกทยอยยกเลิก เพราะมันสกปรกมีมลพิษอันตราย > ยัดเยียดการขุดเจาะปิโตรเลียมที่บ้านนามูล ดูนสาด จ.ขอนแก่น เอื้อนายทุนบริษัทน้ำมัน มีชาวบ้านคัดค้าน ก็ส่งฝ่ายปกครองไปข่มขู่ให้ยินยอม > เชฟรอนโกงภาษี 3,000 ล้าน แทนที่จะไล่กลับอเมริกา กลับใจดีต่อสัมปทานให้แหล่งทานตะวันในอ่าวไทยของเชฟรอนไปอีก 10 ปี ที่สุดอุบาทว์คือ คิดค่าลงนามต่ออายุสัมปทานแค่ 15 ล้านบาท และส่วนแบ่งจากการขายเพียง 1% จากมูลค่าปิโตรเลียมของแหล่งนี้ 3-5 แสนล้านบาท(แหล่งนี้ขุดน้ำมันดิบมูลค่า 40 ล้านบาท/วัน ขุดวันเดียวก็ได้เงินมากกว่าที่จ่ายค่าลงนามต่อสัญญากับรัฐกว่าเท่าตัวแล้ว และแหล่งนี้ยังมีก๊าซธรรมชาติอีกมาก) > เชฟรอนเจตนาสำแดงใบขนน้ำมันปลอดภาษีเท็จซ้ำซาก ผิดกฏหมายอาญาแผ่นดิน ก็อุ้ม ไม่เอาผิด และยังให้ร่วมประมูลสัมปทาน > ส่วนกรณีนี้ยิ่งหนัก 7 บริษัทน้ำมันทำผิดกฏหมาย ลักลอบขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก. ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้เลิกขุด แต่นอกจากคสช.จะไม่เอาผิดแล้ว ยังใช้ ม.44 ล้างผิดให้ และแก้กฏหมายส.ป.ก.อนุญาตให้เอกชนขุดน้ำมันในที่ส.ป.ก.ต่อไปได้ ขนาดคำสั่งศาลยังไร้ความหมาย แล้วบ้านนี้เมืองนี้จะอยู่กันอย่างไร > มีก๊าซ มีน้ำมันเต็มแผ่นดิน แทนที่จะขุดเอง เพื่อให้รายได้เข้ารัฐเต็มๆ ไม่ต้องไปแบ่งให้ใคร ก็ไปแจกสัมปทานให้ต่างชาติรวย > แจกสัมปทานปิโตรเลียมโดยเลือกระบบที่รัฐเสียประโยชน์ ระบบจ้างผลิตที่รัฐได้ประโยชน์ 80-90% ไม่เอา แต่เลือกระบบ PSC(จำแลง) ที่ได้ส่วนแบ่งแค่ 30% > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียมให้ไทยตกเป็นทาสบริษัทน้ำมันต่างชาติหนักข้อขึ้นกว่าเดิม > แก้ไขพรบ.ปิโตรเลียม ลดการจัดเก็บภาษีรายได้จากบริษัทน้ำมันผู้สัมปทาน จากเดิมเก็บอยู่ 50% ก็ลดเหลือ 20% > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีรายได้จากผู้สัมปทานปิโตรเลียมได้ราว 1 แสนล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บแค่ไม่ถึง 4 หมื่นล้านบาท/ปี > ขูดรีดภาษีน้ำมันปชช. อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตกว่าทุกรัฐบาล > ก่อนคสช.เข้ามา เก็บภาษีน้ำมันปชช.อยู่ราว 6 หมื่นล้านบาท/ปี ปัจจุบันเก็บ 2.2 แสนล้านบาท/ปี ขึ้นราคาก๊าซ LPG อย่างบ้าคลั่ง ขึ้นมากที่สุดกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านๆมาชนิดทิ้งไม่เห็นฝุ่น > ขึ้นลงราคาน้ำมันไม่เป็นธรรมกับปชช. ตลาดโลกขึ้น น้ำมันไทยรีบขึ้นราคาตาม ตลาดโลกลดลง น้ำมันไทยไม่ค่อยจะลงตาม และหลายครั้งขึ้นราคาสวนทางตลาดโลกแบบหน้าด้านๆ และตอนขึ้น 50 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนตอนลง 20-40 สตางค์เป็นส่วนใหญ่ ขึ้นลงลักษณะนี้จนปชช.ด่าจนหมดคำด่าไปแล้ว > แยกธุรกิจค้าน้ำมันออกจากปตท.ไปยกให้นายทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นบางจากที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้กลุ่มทุน > ขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม(SPRC)ที่ปตท.ถือหุ้นอยู่ให้นายทุน > ปตท.โกงท่อก๊าซ ก็ไม่ยอมทวงคืน > แยกท่อก๊าซออกจากปตท.ไปให้นายทุน > อุ้มธุรกิจปิโตรเคมีของปตท. ด้วยการยกเลิกเก็บเงินภาคปิโตรเคมีเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งที่เดิมเขาก็จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันน้อยกว่าประชาชนอยู่แล้ว ทำให้ทุกวันนี้ภาคปิโตรเคมีไม่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันสักบาท ทั้งที่ใช้ก๊าซ LPG มากกว่าใคร ใช้มากกว่าภาคครัวเรือนที่คนไทยใช้หุงต้มกันทั้งประเทศอีก > เขมรบุกยึดที่นาคนไทยที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ก็ไม่ขับไล่ออกไป แถมให้คนของรัฐไปกล่อมชาวบ้านให้แบ่งที่ให้เขมร อ้างเพื่อความสัมพันธ์(น่าจับไปตัดคอทิ้งจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างอนุสาวรีย์บนพื้นที่ทับซ้อนที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ละเมิดข้อตกลงไทย-เขมร ที่ห้ามสร้างสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ทับซ้อน > ปล่อยเขมรเอาหลักเขตมาปักบนปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ คนไทยรักชาติจะถอนออก ก็สั่งทหารใหญ่ที่ดูแลให้ล้อมลวดหนามเอาไว้ไม่ให้ถอนออก(ระยำจริงๆ) > ปล่อยเขมรสร้างกาสิโนล้ำแดนที่ด่านช่องสายตะกู บุรีรัมย์ คุณวีระ สมความคิดจะไปตรวจสอบ ก็ถูกข่มขู่ > MOU43 เขียนสมัย ชวน หลีกภัย รองรับแผนที่เขมร จะทำให้ไทยเสียดินแดนบนบกในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-เขมร และ MOU44 ที่เขียนสมัย ทักษิณ ชินวัตร ไปรองรับไหล่ทวีปเขมร จะทำให้ไทยเสียพื้นที่ทางทะเลในบริเวณเกาะกูดที่มีน้ำมัน คสช.ก็กอดไว้เหนียวแน่น ไม่ยอมยกเลิก > ปล่อยเขมรบุกยึดดินแดนอย่างง่ายดายในหลายพื้นที่ ไม่คิดปกป้องอธิปไตย แต่ช็อปอาวุธกระจาย ทั้งรถถัง เครื่องบินรบ เรือดำน้ำ > ในหลวงเคยรับสั่งว่าทะเลบ้านเราตื้น ไม่เหมาะกับการมีเรือดำน้ำ แต่ลุงซื้อเรือดำน้ำจีน 3.6 หมื่นล้านหน้าตาเฉย >อ้างศาสตร์พระราชา อ้างเศรษฐกิจพอเพียง แอบอ้างในหลวง โหนพระองค์ท่านเรียกคะแนนนิยมให้ตัวเอง แต่ทำตรงข้าม ทั้งอุ้มทุน ทั้งใช้จ่ายเกินตัว ฟาดแต่เมกกะโปรเจ็ควงเงินสูงๆ สร้างหนี้มากมายมหาศาล > เขียนรัฐธรรมนูญเปิดทางขายชาติให้ทางสะดวก ม.190 เดิม เรื่องหนังสือสัญญา การค้า การลงทุนระหว่างประเทศ ที่ทั้งประชาธิปัตย์ และเพื่อไทยพยายามแก้ไข เพื่อให้ผ่านสภาง่ายๆ โดยเรื่องที่จ้องกันตาเป็นมัน ก็คือเรื่องของการตกลงแบ่งผลประโยชน์พลังงานบนพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยกับเขมร แต่ประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยแก้ไม่สำเร็จ เพราะถูกปชช.รู้ทันคัดค้าน แต่สุดท้ายก็มาสำเร็จด้วยฝีมือลุงตู่ เพราะไปหลอกคนไทยว่าเป็นรธน.ปราบโกง และห้ามวิพากษ์วิจารณ์รธน.ก่อนลงประมามติ โดยโยกไปแก้ที่ ม.178 เพื่อหลบหลีกสายตาคนไทย > เขียนรธน.ม.146 ริดรอนอำนาจพระมหากษัตริย์ จากเดิมที่ร่างพระราชบัญญัติใดๆ ถ้าพระมหากษัตริย์ทรงไม่เห็นชอบด้วย และพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อครบ 90 วันแล้วยังไม่พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัตินั้นใหม่ ก็แก้ไขเป็นว่า ถ้าเสียง 2 ใน 3 ของสภาเห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินั้น ให้นายกฯนำร่างพระราชบัญญัติทูลเกล้าอีกครั้ง ถ้าพระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงปรมาภิไธย หรือไม่พระราชทานคืนมาภายใน 30 วัน ก็ให้นายกฯนำพระราชบัญญัตินั้นประกาศใช้ได้ เสมือนว่าพระมหากษัตริย์ได้ลงปรมาภิธัยแล้ว(หลังรธน.ผ่านการลงประชามติ และได้นำทูลเกล้า ก็ได้มีการตีกลับให้ไปแก้ไขในหมวดอำนาจพระมหากษัตริย์ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับมาตรานี้หรือเปล่า เพราะนายกฯปิดปากเงียบ) ฯลฯ ทุกเรื่องที่ว่าไป มาจากสื่อหลักๆ ผมเคยทำโพสต์และแชร์ออกไปแล้วทั้งนั้น นี่แค่เท่าที่จำได้นะ หรือถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ก็มาบอกไว้ในคอมเม้นต์ได้ ผมจะนำมาใส่เพิ่มเติม อาทิตย์ อุไรรัตน์ ช่วยกันส่งต่อให้ประชนคนไทยทุกคนทราบทั่วกันอย่าได้เลือกมันกลับมาทำลายชาติบ้านเมืองของเราอีกเลย
    ไม่ระบุชื่อ
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แก้วิธีการรักษา อาการตื่นมาฉี่บ่อย (nocturia) ของผู้สูงอายุ
    ตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อย รุ่นพี่ที่เคารพท่านหนึ่ง ได้ส่ง VDO link ที่น่าสนใจมาให้ จาก NHK on demand video ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ ส.ว. ทั้งหมด (เกิน 250) แต่คนที่ยังไม่เป็น ส.ว. รู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย เพราะอนาคตเราก็จะได้เลื่อนขั้นขึ้นไปกันทุกคนอยู่แล้ว เรื่องที่ว่านั้นก็คือ ปัญหาของการที่ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ (nocturia) เพื่อไปฉี่ ปัญหานี้ ได้มีการทำวิจัยเมื่อต้นปีนี้เอง (กุมภาพันธ์ -เมษายน) ควบคุมโดย Toromoto Kazumasa อาจารย์หมอทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะ (urologist) แห่งมหาวิทยาลัยแพทย์นารา (Nara Medical University) เนื่องจากโควิดมา ผลการวิจัยนี้จึงเพิ่งจะเผยแพร่สู่สาธารณชน เมื่อต้นเดือนธันวาคมนี้เอง การวิจัย ดำเนินการโดยให้ หนุ่ม Terakita เดินทางไปอยู่ที่บ้านคุณลุง Hayashi ทั้งวัน และทำกิจกรรมต่างๆเหมือนกัน โดยฉี่ให้หมดกระเพาะปัสสาวะ (bladder) ในตอนเช้า จากนั้น ให้กินอาหารเหมือนกัน ดื่มน้ำเท่ากัน ออกกำลังกายเหมือนกัน แล้วฉี่ใส่ถ้วยตวง วัดปริมาณเปรียบเทียบกันดู @07:30 เริ่มกินข้าว เป็นอาหารญี่ปุ่น มีน้ำอยู่ในอาหาร 600 mL (คำนวณโดย Yamaguchi Chikage นักโภชนาการ ของ Nara Medical University Hospital) และดื่มน้ำชา 530 mL รวม 1,130 mL ตอนสาย เจ้าหนุ่ม ฉี่ไป 4 รอบ 300+400+300+100 mL ส่วนลุงฉี่แค่ 2 รอบ 100+110 mL @12:30 มื้อกลางวัน เป็นแซนวิช มีน้ำแค่ 140 mL และดื่มน้ำเปล่าอีกคนละ 380 mL ตอนบ่าย ออกกำลังกาย ไปทำสวนด้วยกัน เข้ามาในบ้าน เล่น VDO game ด้วยกัน (ลุงแกเล่นได้ด้วยแฮะ) ตอนบ่าย เจ้าหนุ่มฉี่อีก 3 ครั้ง 350+200+150 mL คุณลุงก็ฉี่ 3 ครั้งเหมือนกัน แต่ปริมาณน้อยกว่า 40+180+70 mL จนเย็น @18:30 ได้เวลาจากกัน หลังจากอยู่ด้วยกันมาทั้งวัน ค่ำคืนนั้น ก่อนเข้านอน เจ้าหนุ่มฉี่อีก 4 ครั้ง 320+150+180+150 mL แต่ลุงฉี่แค่ครั้งเดียว 180 mL หมอใช้ ultrasound ตรวจดูน้ำในกระเพาะปัสสาวะ - เกือบไม่มีทั้งคู่ ก่อนเข้านอนตอนเที่ยงคืน ในวันนั้น น้ำ เข้าไปร่างกาย คนละ 2,730 mL เท่าๆกัน แต่ลุงมีน้ำเหลืออยู่ในร่างกายเยอะมาก ผลก็คือ เจ้าหนุ่มหลับรวด ไม่ได้ตื่นขึ้นมาฉี่ แต่ลุงต้องตื่นไปฉี่ 3 รอบ 130+420+280 mL วันต่อมาจึงรู้สึกเพลีย การที่กลางวันง่วง และต้องงีบบ่อยๆ เพราะกลางคืนตื่นบ่อย (nocturia) เพื่อไปฉี่ เนื่องจากน้ำที่ดื่มระหว่างวันยังค้างอยู่ในร่างกาย แต่น้ำนั้น ... ไม่ได้อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ! เชื่อหรือไม่ว่า มีความลับในร่างกายของเราอย่างหนึ่ง ก็คือ คนเรามีกระเพาะปัสสาวะที่สอง (2nd bladder) !! ในเมื่อน้ำ ไม่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ แล้วมันไปเก็บอยู่ที่ไหน? ที่ตับ (liver) หรือเปล่า เพราะแอลกอฮอล์ก็ยังไปกำจัดที่ตับ น้ำก็น่าจะไปด้วย … ไม่ใช่ ที่ไต (kidney) ใช่ไหม เพราะเป็นด่านแรก ที่น้ำจะต้องผ่าน ก่อนไปที่กระเพาะปัสสาวะ … ไม่ใช่อีก ที่เส้นเลือด (blood vessels) กระมัง เพราะในเลือดมีน้ำ อาจเก็บน้ำเพิ่มขึ้นได้ … ก็ไม่ใช่ แม้แต่ลำไส้ (intestine) ที่น่าจะมีที่เก็บน้ำไว้ได้มากทีเดียว … ไม่ใช่เหมือนกัน เพราะคำตอบที่ถูกคือ - น่อง (calves) ครับ ! เพื่อเป็นการพิสูจน์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดรอบน่องของลุง Hayashi ตอนตื่นนอนและก่อนนอน พบว่า น่องโตขึ้นจริงๆ (ขวา 40.5 => 42.7 ซ้าย 41.5 => 45.7 cm) ทีมงาน ได้นำอุปกรณ์วัดทันสมัย ไปที่บ้านลุง Hayashi เพื่อวัดปริมาณน้ำในส่วนต่างๆของร่างกาย แล้ว plot มาเป็นกราฟ พบว่า ช่วงเช้า น้ำในลำตัวและแขน เกือบคงที่ แต่น้ำในขา จะค่อยพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ช่วงบ่าย น้ำในขาเกือบคงที่ แต่ในแขนและลำตัวค่อยๆลด ส่วนตอนค่ำ ก่อนนอน น้ำในลำตัวค่อยๆลด ในแขนคงที่ แต่ในขายังพุ่งขึ้นต่อ สุดท้ายก่อนเข้านอน น้ำในขาของลุง Hayashi มีมากกว่าตอนเช้าถึง หนึ่งลิตรครึ่ง ! ทั้งนี้เพราะ ขาทั้งสองข้าง เป็นเหมือนแท็งค์น้ำ โดยน้ำจะแทรกอยู่ระหว่างกระดูกและผิวหนัง เรียกว่า “interstitium” เมื่อไม่มีน้ำ จะแฟบ พอมีน้ำก็จะพองหนาขึ้น น่อง จึงเหมือนถังน้ำ เก็บไว้ฉี่ทิ้งภายหลัง และนั่นเป็นสาเหตุที่ต้องตื่นขึ้นมาฉี่บ่อย คุณหมอ Sone Atsushi Director, Miyazu Takeda Hospital ยืนยันว่า มีคนไข้เป็นอย่างนี้หลายคน มีคำอธิบาย เขียนเป็นไดอะแกรมง่ายๆ เป็นวงจรของเส้นเลือดแดงจากหัวใจลงมาที่น่อง แล้วก็กลับขึ้นหัวใจทางเส้นเลือดดำ ส่วนกระเพาะปัสสาวะอยู่ตรงกลางระหว่างหัวใจกับน่อง การเต้นของหัวใจ กับการเคลื่อนไหวของน่อง จะเหมือนกับปั๊มสองตัวช่วยกันสูบฉีดน้ำในร่างกาย ถ้าน้ำมากไปก็จะไปปล่อยทิ้งที่กระเพาะปัสสาวะ เมื่ออายุยังน้อย ปั๊มที่น่องก็ยังแข็งแรงดีอยู่ ยิ่งเป็นเด็ก วิ่งกระโดดโลดเต้น น่องจึงแข็งแรง (เพราะฉะนั้น ถึงจะวิ่งไม่ไหว ก็ขยันเดินกันหน่อยนะครับ) แต่เมื่ออายุมากขึ้น น่องไม่ค่อยได้ทำงาน น้ำจึงมาบวมอยู่ที่ขา ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก พอล้มตัวลงนอนตอนดึก น้ำส่วนเกินนี้จึงค่อยๆกลับมาที่กระเพาะปัสสาวะ จนทำให้ต้องลุกไปฉี่บ่อยๆ ดังนั้น ในปีนี้ ทางการแพทย์ที่ญี่ปุ่น จึงมีการปรับแก้วิธีการรักษา อาการตื่นมาฉี่บ่อย (nocturia) ซึ่งไม่มีการแก้ไขมาเลยในรอบสิบปี คุณลุง Ando เป็นคนหนึ่งที่ได้รับการรักษาวิธีหนึ่งในแผนใหม่นี้ สี่ปีมาแล้วที่เขาต้องตื่นมาฉี่ 4~5 ครั้ง ทุกคืน แถมลำบากที่ต้องปีนบันไดขึ้นลง เพราะห้องน้ำอยู่คนละชั้นกับห้องนอน พลาดพลั้งเกิดตกบันไดขึ้นมาก็ยุ่งอีก ชีวิตช่างน่าหดหู่เสียจริงๆ การฉี่บ่อย (nocturia) นำไปสู่ ความรู้สึกหดหู่ และกระดูกหัก !? พูดให้เว่อร์ไปหน่อย ... ความรู้สึกหดหู่ หรือ depression ก็เพราะอดนอน และกระดูกหัก ไม่ใช่เพราะฉี่บ่อยตรงๆ แต่เป็นสาเหตุเกี่ยวเนื่อง โดยเกิดจากการงัวเงียเมื่อตื่นขึ้นมา อาจจะทำให้หกล้ม หรือ ตกบันได แต่กระดูกหักในกลุ่มผู้สูงอายุนี่เรื่องใหญ่นะ วันหนึ่ง ลุง Ando ได้รับ “กล่อง” เพื่อการรักษา หนึ่งเดือนผ่านไป คุณลุงนอนรวดเดียวยันเช้า ไม่ต้องลุกไปฉี่เลย คุณลุง Ando ได้พบ “ทางรอด” แล้ว ที่สามารถจะใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง “ทางรอด” ในกล่องเล็กๆ ที่ทำให้ชีวิตของลุง Ando เปลี่ยนไปเลยนั้น คืออะไร ? คุณ Toshida Masaki Assit. Director, ศูนย์ศึกษาผู้สูงอายุ (แห่ง National Center for Geriatric & Gerontology) มาเฉลยว่า ภายในกล่องนั้น คือ ... “ถุงเท้ารัดน่อง” (compression stockings) ครับ ถ้าสวมมันไว้ตอนกลางวัน จะช่วยทำให้ขาไม่บวม และไม่เก็บน้ำไว้ ทำให้ฉี่ตอนกลางวันมากขึ้น ไม่เก็บไว้ไปฉี่ตอนดึกอีก นอกจากนั้น ยังมีคำแนะนำง่ายๆอีกอย่าง เป็นวิธีการบำบัดข้อที่สอง ที่คุณหมอได้แนะนำให้ลุง Hayashi ที่เข้าร่วมการทดลองในตอนแรก ลองกลับไปทำดู คือการนอนยกขาให้สูงขึ้นหน่อย ประมาณครึ่งฟุต สักครึ่งชั่วโมงในตอนบ่าย แต่อย่างีบหลับไปนะ เดี๋ยวกลางคืนจะนอนไม่หลับอีก คุณลุง Hayashi ได้ลองทำดูประมาณหนึ่งเดือน โดยเริ่มทำตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ด้วยการนอนยกขาพาด อ่านหนังสือ หนึ่งเดือนผ่านไป จากการต้องลุกไปฉี่ 3 หนในตอนก่อน ก็เหลือเพียง 1.5 ครั้งโดยเฉลี่ย การรักษานี้เป็นการบำบัดโดยเปลี่ยนอุปนิสัย (behavior therapy) ดีกว่าการใช้ยา เพราะว่าไม่มีผลข้างเคียง (side effect) คำแนะนำเพื่อการบำบัดดังกล่าว มี 3 วิธี คือ :- • สวมถุงน่องแบบรัด • ยกขา • งดกินเค็ม การงดกินเค็มที่แถมมาด้วยนั้น เพราะ การกินเค็ม นอกจากจะทำให้ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายเก็บน้ำไว้ด้วย ของแถมอีกอย่างที่บางคนอาจจะเมิน คือ หมอเขาแนะนำให้เลิกการ “กรุ๊บๆ กรั๊บๆ” ในตอนเย็น เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แถมกับแกล้มกินเล่นซึ่งมักจะมีเกลือเยอะ จะช่วยกันเรียกความกระหายให้ร่างกายดื่มน้ำมากขึ้น สังเกตได้ว่าถ้ากินเลี้ยงตอนเย็น คืนนั้นก็จะฉี่มากขึ้น คำถามว่า สวมถุงรัดน่องด้วย พร้อมกับนอนยกขาด้วย ได้ไหม - Dr. Yoshida บอกว่า ไม่มีปัญหา แต่สวมถุงรัดน่องไปกินเลี้ยงตอนเย็นนี่คงไม่ช่วยเท่าไหร่นะ งานนี้ สงสัยจะมีคนขอเลี่ยงบาลีไปดื่มตอนเที่ยงแทน คำแนะนำแนวทางทั้งสามนั้น คงจะเป็นประโยชน์กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ส่วนเรื่องถุงรัดน่องนั้น ถ้าไปหาตามร้านขายยา ก็จะมีถึงสามชนิดให้เลือก คือ สูงแค่เข่า ซึ่งสวมง่ายหน่อย ยาวขึ้นมาหน่อยคือสวมทั้งขา และที่ยาวสุดคือ สวมขึ้นมาถึงเอว ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามสะดวกครับ รวมทั้ง น่าจะมีขนาดให้เลือกด้วย และสามารถสวมใส่ได้ทั้งวัน อย่างไรก็ตาม คุณหมอมีคำเตือนสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจหรือเบาหวานว่า ให้ปรึกษาหมอหน่อยก็ดีนะ เรื่องที่จะหาอะไรมารัดน่องนี่น่ะ ที่ง่ายคือการนอน (อย่าหลับ) ยกขาขึ้นมาพาดอะไรที่สูงหน่อยในตอนบ่ายนั้น ก็ต้องบริหารเรื่องเวลาเหมือนกัน ไม่เร็วไป (เพิ่งผ่านเวลาเช้ามาหยกๆ) หรือช้าไป (จะเข้านอนอยู่แล้ว) เพราะจะไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรทั้งคู่ เวลาแดดร่มลมตก นึกถึงเปลญวนขึ้นมาทีเดียว เพราะเป็นเปลที่ขาถูกยกขึ้นมา ไม่ได้นอนราบๆ แต่ไม่มีเปลญวนก็ไม่เป็นไร หาอะไรหนุนขาเอาก็ได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ ผมเลยได้ไอเดีย ที่ทำให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ เพราะว่า ... แทนที่จะนั่งเขียนบทความ บ่ายวันนี้ ผมนอนยกขาเขียนครับ !! ... @_@ ... วัชระ นูมหันต์ 20 ธันวา 63
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    หลังจากติดตามปัญหาคุณภาพอากาศทุกวันมาราวๆ 6 ปีเต็ม มีสิ่งนึงที่ไม่ค่อยมีใครพูดกัน โพสต์นี้ขอสรุปเรื่องการซื้อบ้านครับ ภาพแรก อากาศกรุงเทพตอนกลาง ภาพสอง อากาศกรุงเทพตะวันตก ภาพสาม อากาศกรุงเทพตะวันออก ภาพสี่ อากาศกรุงเทพตอนเหนือ โดยเฉลี่ยแล้ว อย่าซื้อบ้านในโซนกรุงเทพตะวันตกครับ ตะวันตกหมายถึง บางแค ตลิ่งชัน ราชพฤกษ์ ทวีวัฒนา บางใหญ่ ศาลายา โซนนี้อากาศวิกฤติสุด เพราะมีการขยายพื้นที่เกษตรเชิงเดี่ยวจำนวนมากในเขตจังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร และปทุมธานี จึงเกิดการเผาเพื่อหมุนคร็อปหนัก และถี่ขึ้นมากจนวิกฤติ โซนที่ไม่ควรซื้อรองมา คือเขตกรุงเทพตอนเหนือ หมายถึงแจ้งวัฒนะขึ้นไป หลักสี่ ดอนเมือง บางเขน สายไหม รังสิต ปทุมธานี เขตนี้เจอรุมจากการเผาเกษตรเชิงเดี่ยว และโรงงานอุตสาหกรรม แต่ถึงโดนรุม ค่ามลภาวะอากาศยังแย่เป็นรองกรุงเทพตะวันตก แต่ก็ถือว่าแย่มากอยู่ดี โซนที่พอซื้อบ้านได้ คือกรุงเทพตะวันออก จริงๆก็แย่ครับ แต่แย่น้อยกว่าตะวันตก และเหนือ เดาว่าการมีสนามบินสุวรรณภูมิอาจทำให้เกิดการควบคุมเกษตรเชิงเดี่ยวมากกว่าบ้าง โซนที่คนเข้าใจผิดหมด ว่าอากาศแย่ แต่ที่จริงอากาศดีสุดกลายเป็นกรุงเทพตอนกลางครับ อารีย์ จิตรลดา บางรัก เพลินจิต พระราม 4 คลองเตย ทองหล่อ พระราม 3 จนถึงแยกบางนา อากาศดีสุด ทำไม? 1. มลภาวะหลักวันนี้คือเกษตรเชิงเดี่ยว และโรงงานอุตสาหกรรม 2. เขตเกษตรเชิงเดี่ยวขนาดใหญ่สุด อยู่ฝั่งกรุงเทพตะวันตก นครปฐม ปทุมธานี รองมาคือกรุงเทพตอนเหนือ ปทุมธานี ที่แถมโรงงานอุตสาหกรรมมาด้วย มาสิ่งสำคัญ ใครจำได้ ยุคปี 90-2000 เขตบางรัก สาทร สีลม ดินแดง เคยเป็นเขตที่มีข่าวเสมอว่าคุณภาพอากาศเข้าขั้นวิกฤติ แต่วันนี้ปัญหาลดลงมาก 3. หากใครสังเกตุดีๆ กรุงเทพตอนกลางมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นเยอะมาก และกำลังเพิ่มขึ้นอีก 4. ปริมาณรถไฟฟ้าราวๆ 70-80% ของ 75,000 คันที่ขายไปในเวลาแค่ 2 ปี ที่ผ่านมาอยู่ในกรุงเทพเป็นหลักจึงลดมลภาวะได้เป็นจำนวนมหาศาล ค่าคุณภาพอากาศฟ้องตรงนี้เลย โพสต์นี้ไม่อยากให้เกิดการ panic แต่อยากเป็นข้อแนะนำถึงการเลือกซื้อบ้าน หาบ้านในโซนพื้นที่ตอนกลางกรุงเทพครับ ไม่ก็ไปทางตะวันออกหน่อย แล้วหลีกเลี่ยงฝั่งตะวันตก กับเหนือให้มาก วิกฤติอากาศพิษกรุงเทพหนักขึ้นมาก คนจะเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นอีกมากเช่นกัน โดยที่คนที่รับผิดชอบได้แก่กระทรวงเกษตร และกระทรวงมหาดไทย ยังไม่ออกมาหาทางแก้ปัญหานี้อย่างไร แถมยังส่งเสริมให้ทำเพิ่มขึ้นด้วย ผลประโยชน์ปุ๋ยมันเยอะครับ จำหน้า รมว.แต่ละคนไว้ดีๆ ตอนเราป่วย เค้าไปอยู่ไหนกันน้า ( Cr: LINE)
    ไม่ระบุชื่อ
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false