1 คนสงสัย
พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็ก ช่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้
ไม่ระบุชื่อ
 •  5 เดือนที่แล้ว
1 คนว่า มีความเห็นส่วนตัว
meter: false
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Joke_Air เลือกให้ข้อความนี้💬 มีความเห็นส่วนตัว

เหตุผล

-

ความเห็นต่าง

ประเด็นนี้ไม่เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันเพราะถือเป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ยิ่งเจ็บป่วยได้ และผลที่ได้ก็ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในยุคที่มีโควิดแล้วก็ยิ่งจะเป็นอันตรายมากขึ้น เป็นต้น จึงถือเป็นข่าวปลอมแล้วในปัจจุบัน https://www.antifakenewscenter.com/ผลิตภ⋯่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้/

แม้ว่าในอดีตจะเคยมีข่าวว่ามีงานวิจัยที่ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้
https://www.amarinbabyandkids.com/parent⋯en-finger-suck-is-reduce-allergies-less/
https://www.sanook.com/women/132253/
thanathun เลือกให้ข้อความนี้❌ มีเนื้อหาที่หลอกลวง

เหตุผล

จากกรณีการส่งต่อข้อมูลเรื่องพฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็ก ช่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้น ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรม

ที่มา

https://www.antifakenewscenter.com/ผลิตภ⋯่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้/

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ข่าวปลอม อย่าแชร์! พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็กป้องกันโรคภูมิแพ้ตอนโต
    กรณีที่มีข่าวสารถูกส่งต่อในสื่อออนไลน์เรื่องพฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็กป้องกันโรคภูมิแพ้ตอนโต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บของเด็กช่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้ ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บเป็นพฤติกรรมที่พบได้ในเด็กปกติโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และจะค่อย ๆ หายไปหลังอายุ 4 ขวบ และไม่ได้ช่วยให้เด็กรอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้น และควรมีการแก้ไขหากยังมีการดูดนิ้ว กัดเล็บในเด็กอายุเกิน 4 ขวบขึ้นไป เพราะจะส่งผลกระทบกับการผิดรูปของฟัน การเกิดบาดแผลที่นิ้ว และเป็นช่องทางในการทำให้เกิดโรคติดเชื้อที่แพร่กระจายผ่านน้ำลายและสารคัดหลั่งต่าง ๆ ทั้งยังส่งผลกับด้านอารมณ์จิตใจ รวมถึงบุคลิกภาพของเด็กด้วย ทั้งนี้เด็กเล็กควรได้รับการแก้ไขโดยการปรับพฤติกรรม ได้แก่ งดการให้ความสนใจการดูดนิ้ว กัดเล็บ และเบี่ยงเบนความสนใจโดยใช้กิจกรรมการเล่นที่ใช้มือ เช่น วาดภาพ ระบายสี พับกระดาษ เป็นต้น หากได้รับการแก้ไขดังกล่าวแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบกุมารแพทย์หรือกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
    std46661
     •  1 ปีที่แล้ว
    meter: false