1 คนสงสัย
จริงหรือ ใช้ปรอทวัดไข้ดัดแปลงเป็นอุปกรณ์เสพยาและนำสารปรอทด้านในหรือหลอดไฟผสมสารเสพติด เสี่ยงสารปรอทเข้าสู่ร่างกายระวังร่างกายอันตรายถึงเสียชีวิต
ปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้แพร่ระบาดเข้าสู่กลุ่มวัยรุ่น โดยการเสพยาที่แปลกไม่ว่าจะเป็นการนำปรอทวัดไข้ที่มีขายตามร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อทั่วไปมาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ในการเสพยา หรือแม้กระทั้งนำสารปรอทที่อยู่ในปรอทวัดไข้มาผสมยาเสพติด
ปรอทเป็นโลหะหนักมีสถานะเป็นของเหลว สามารถระเหิดกลายเป็นไอได้ดีที่อุณหภูมิห้องและจะกลายเป็นไอมากขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ไอปรอทไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่มีสีไม่มีกลิ่น หากได้รับสารปรอทเข้าสู่ร่างกายปริมาณมากแบบเฉียบพลัน จะทำให้หายใจลำบาก หอบ เจ็บหน้าอก ปากพอง เหงือกอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง เลือดออกในอวัยวะภายใน ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด ไตวาย เกิดอาการทางระบบประสาทและอาจเสียชีวิตได้
naydoitall
 •  4 ปีที่แล้ว
meter: true
1 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)
Ad.tar เลือกให้ข้อความนี้✅ มีเนื้อหาที่เป็นจริงทั้งหมด

เหตุผล

สธ.เตือนนักเสพใช้ปรอทวัดไข้ดัดแปลงเป็นอุปกรณ์เสพยาและนำสารปรอทด้านในหรือหลอดไฟผสมสารเสพติด เสี่ยงสารปรอทเข้าสู่ร่างกายระวังร่างกายอันตรายถึง

ที่มา

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์
    ข่าวบิดเบือน แพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ . ตามที่มีการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน . กรณีการโพสต์ให้ข้อมูลโดยระบุว่าพบกรดเบนโซอิกในก๋วยเตี๋ยวประเภทต่างๆ โดยแพทย์เตือนให้เลิกกินก๋วยเตี๋ยว เพราะมีสารกันบูดเกินเกณฑ์ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า จากที่มีการแชร์ข้อมูลผลตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเมื่อปี 2550 ซึ่งสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านการตรวจวิเคราะห์อาหารของประเทศ ได้มีการตรวจวิเคราะห์เฝ้าระวังการใช้วัตถุกันเสีย (กรดเบนโซอิคและกรดซอร์บิค) ในอาหารประเภทเส้นมาอย่างต่อเนื่อง . นอกจากนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งการผลิตอาหารประเภทเส้น บางชนิดมีการใช้วัตถุกันเสีย เพื่อช่วยยับยั้งการเจริญเติบโต หรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุให้อาหารเน่าเสีย หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกรดเบนโซอิกทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย แต่หากได้รับในปริมาณน้อยร่างกายสามารถขับออกไปได้ ซึ่งข้อมูลของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและเกษตรและองค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (The joint FAO/WHO Expert Committee on Food Additives, JECFA) ได้ประเมินและกำหนดค่าความปลอดภัย (ADI) พบว่า มีความเป็นพิษต่อคนและสัตว์น้อย . อย่างไรก็ตามวัตถุกันเสียทั้งสองชนิดมีข้อกำหนดการใช้ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 418) พ.ศ.2563 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 2) สำหรับกรดเบนโซอิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ในอาหารประเภทเส้นที่ผ่านกระบวนการต้ม การนึ่ง การปรุงให้สุกการพรีเจลาทิไนซ์ (Pre-gelatinized) หรือแช่เยือกแข็ง และเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป ส่วนกรดซอร์บิกให้ใช้ได้ไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เฉพาะอาหารประเภทเส้นแบบกึ่งสำเร็จรูป . เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเส้นที่ทำจากแป้งอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งพัฒนาผู้ผลิตให้มีความรู้ความเข้าใจการใช้วัตถุกันเสียอย่างถูกต้อง ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ อย.กำหนด ซึ่งผู้ผลิตจะต้องควบคุมกระบวนการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP สำหรับผู้บริโภคควรเลือกซื้อและบริโภคอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ สะอาด ถูกสุขอนามัย และไม่ควรรับประทานอาหารซ้ำๆ กันเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ . ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www3.dmsc.moph.go.th หรือโทร. 02 9510000 . บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลที่มีการบอกต่อดังกล่าวเป็นข้อมูลผลการตรวจวิเคราะห์เมื่อปี 2550 แต่ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ประเภทเส้นที่ทำจากแป้งให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน GMP . หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข . 📌 ช่องทางการติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม . Website : https://www.antifakenewscenter.com/
    ชุมพล ศรีสมบัติ
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ให้ร่วมบุญช่วยช้าง มีการแนบเลขบัญชี เป็นเรื่องจริงหรือไม่
    21-4-64 พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ พระครูอ๊อด เป็นเจ้าภาพ 200,000 บาท #ไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าได้หรือไม่ #ครั้งหนึ่งในชีวิตไถ่ชีวิตช้าง #ฝากบุญใหญ่ให้ญาติธรรมทั้งหลาย #วันนี้ไปดูช้างเห็นแล้วสงสารอยากจะไถ่ชีวิตช้างเชือกนี้มาก เหมือนเขาอยากให้เราช่วยปลดโซ่พันธนาการออกจากเท้าให้ สังเกตุเห็นเอางวงจับที่โซ่หลายครั้ง เลยถามเจ้าของเขาก็อยากจะขาย เลี้ยงไม่ไหวเพราะพิษโควิด #หากไถ่ชีวิตช้างเชือกนี้ได้คงจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และจะขอน้อมถวายให้เป็นมรดกแห่งความเมตตาเป็นพุทธบูชาในวันวิสาขบูชา (วันพุธที่ 26 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้) และจะมอบช้างเชือกนี้ ให้เป็นมรดกของแผ่นดินเพื่ออนุรักษ์ ต่อไป ช้างอายุแค่ 8 ปี ราคา 1,180,000 บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดหมื่นบาท) #วันนี้เลยตัดสินใจ รวบรวมปัจจัยที่โยมถวายพระครูอ๊อดมา จากการเทศน์ การบรรยาย งานสวด และ การสอนหนังสือ มาเททำบุญไถ่ชีวิตให้เจ้าทั้งหมดเลยนะ จำนวน 200,000 บาท #ใจอยากทำก็ทำ ทำแล้วสุขใจพระครูอ๊อดไม่คิดอะไรมาก #แค่อยากให้โยมที่ถวายปัจจัยพระครูอ๊อดมาได้บุญมากๆ แอบตั้งชื่อช้างเชือกนี้ไว้ในใจว่า #เจ้าพลแสน (วาสนาพระครูอ๊อดยังน้อย ไม่รู้จะช่วยเจ้าได้แค่ไหนนะ) #ร่วมบุญได้ที่ "ธ.กรุงไทย 540-0-18694-7" #สอบถามราละเอียดได้ที่ 0808500184 พระครูสังฆรักษ์วีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน (พระครูอ๊อด) วัดเจดีย์หลวง เชียงใหม่ ร่วมบุญได้ไม่เกินวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นี้ (วันที่ 26 พฤษภาคม คือ วันวิสาขาบูชา) #อานิสงส์ช่วยเหลือชีวิตเป็นทาน 1. เป็นผู้ต่อชีวิต ย่อมได้ชีวิตที่ยืนยาว ปลอดภัย มีความสุข และตราบใด ที่ยังไม่สิ้นอายุขัยบุคคลนั้น จะไม่มีกรรมใดๆมาตัดรอนได้ 2. สัตว์ที่พ้นจากที่คุมขังแล้ว อยู่ด้วยความปลอดภัยย่อมดีใจ ปลาบปลื้มใจ ฉันใด บุคคลผู้ให้ชีวิตสัตว์เป็นทาน ก็ย่อมได้รับความปลาบปลื้มใจฉันนั้น 3. ผู้ไห้ชีวิตสัตว์เป็นทานอยู่เป็นนิจ เขาเหล่านี้ย่อมพบแต่มิตร ปราศจากศัตรูมาแผ้วพาน 4.การช่วยให้สรรพสัตว์พ้นจากที่คุมขัง และอันตราย ย่อมส่งผลให้สามารถหลุดพ้น จากเครื่องพันธนาการน้อยใหญ่ ทั้งหลาย #ขออานิสงส์แห่งบุญใหญ่ครั้งนี้จงเกิดแก่ญาติธรรมทุกท่านและครอบครัวอย่างมหาศาล 1 แชร์ 1 บุญใหญ่
    Mrs.Doubt
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ทับทิมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินสูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยรักษาอาการต้อหินที่ตาได้ จริงหรือ
    มีการแชร์กันในโรคออนไลน์ สูตรสมุนไพรรักษาต้อเนื้อ ต้อลม ต้อกระจก ด้วยการบีบน้ำทับทิมใส่ดวงตา จะทำให้ฝุ่นและคราบต้อหลุุดออก
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    จริงหรือ พบสารอันตรายใน หัวเชื้อสำหรับทำน้ำหวาน
    จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวการลักลอบผลิต "หัวน้ำหวาน" ใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กระจายขายตามร้านค้าชุมชน และส่งขายในช่องทางออนไลน์ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความกังวลและได้นำตัวอย่างหัวน้ำหวานส่งให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลตรวจล่าสุดพบส่วนผสมของตัวยาคลอร์เฟนิรามีน ซึ่งเป็นยาอันตราย แต่ตรวจไม่พบสารเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทชนิดอื่นๆ
    naydoitall
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แน่นอนแล้ว ใช้ฟ้าทะลายโจร กิน 3 แคปซูล ก่อนออกจากบ้าน สารสำคัญจะป้องกันโควิดได้ 12 ชม. ถ้าไม่ไปไหนไม่ต้องกิน และไม่มีผลข้างเคียง
    แน่นอนแล้ว ใช้ฟ้าทะลายโจร กิน 3 แคปซูล ก่อนออกจากบ้าน สารสำคัญจะป้องกันโควิดได้ 12 ชม. ถ้าไม่ไปไหนไม่ต้องกิน และไม่มีผลข้างเคียง
    Mrs.Doubt
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    Filler ไม่สามารถสลายเองได้หมด และจะทิ้งสารตกค้างบนใบหน้า จริงหรือไม่
    Filler ไม่สามารถสลายเองได้หมด และจะทิ้งสารตกค้างบนใบหน้า จริงหรือไม่
    Watcharakorn Saensee
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สารสกัดขมิ้นชัน และพริกไทย รักษากรดไหลย้อนได้ จริงหรือ
    กระแสในอินเทอร์เน็ตมีการอ้างว่าใช้สารสกัดขมิ้นชัน ร่วมกับ พริกไทย สามารถรักษาอาการกรดไหลย้อนได้ จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ให้ระวังอย่าโดนฝน! จะมีพายุฝนเหลืองจากประเทศจีนที่จะมีทั้งเชื้อโรคและสารเคมีมาด้วย ข่าวนี้เชื่อได้ไหม?
    มีข่าวลืออีกหนึ่งข่าว บอกทำนองว่า "ให้ระวัง วันที่ 2-3-4 นี้ จะมีพายุฝนมาจากประเทศจีน มีเชื้อโรค พร้อมทั้งสารเคมี เขาเรียกว่า ฝนเหลือง อย่าโดนฝนเด็ดขาด เป็นไปตามพุทธทำนาย" ?!?
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    " จริงหรือไม่ ? การดื่มสารละลายคลอรีนไดออกไซต์ (CDS) ผสมน้ำทุกวันจะช่วย‘ล้างสารพิษ’จากไวรัส "
    สารละลายคลอรีนไดออกไซด์ (CDS) เป็น สารฟอกขาว ที่มีอันตราย‘ไม่สามารถดื่มได้‘การดื่มสารละลายคลอรีนไดออกไซด์ (CDS) กำจัดเชื้อไวรัสได้ทุกชนิดในปัจจุบันไม่มีการศึกษาใดๆที่รองรับข้ออ้าง หากรับประทานเข้าไปอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างรุนแรง ❗️ถ้าหากรับประทานเข้าไปแล้วไม่แนะนำให้ล้วงคอหรือกระตุ้นให้อาเจียน ผู้ป่วยที่สัมผัสสารชนิดนี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ ความรุนแรง เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป 📣ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อป้องกันอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพหรือชีวิต
    65011215207
     •  17 วันที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    สารเคลือบกระทะเทฟลอน เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็ง จริงหรือ
    มีการแชร์กระแสข่าวตามสื่อออนไลน์ เรื่อง สารเคลือบกระทะเทฟลอน เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งร้าย จริงหรือ
    anonymous
     •  4 ปีที่แล้ว
    meter: false