1 คนสงสัย
ยืนยัน “สะพานไทย-เบลเยี่ยม” ใช้งานได้ตามปกติ เตือน แชร์ข่าวปลอมมีความผิด
สำนักการโยธา กทม. ยืนยัน “สะพานไทย-เบลเยี่ยม” มั่นคงแข็งแรงดี รัฐบาลเตือนอย่าแชร์ข่าวปลอม มีความผิดตามกฎหมาย โทษสูงสุดคุก 5 ปี ปรับ 1 แสน

วันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวทางโซเชียลมีเดีย ระบุ “ตอนนี้อย่าผ่านไป สะพานไทย-เบลเยี่ยม นะ สะพานแอ่นลง กลัวอันตราย จส.100 แจ้งมา” เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เนื่องจากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร มีการเข้าไปตรวจสอบสะพานไทย-เบลเยี่ยมแล้ว ยืนยันว่าไม่พบความผิดปกติ และสะพานมีความมั่นคงแข็งแรงดี สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ โฆษกรัฐบาล ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนต่อปัญหาข้อมูลอันเป็นเท็จบนโลกอินเทอร์เน็ตและช่องทางออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น เว็บไซต์ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ไลน์ ฯลฯ โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบ หากพบข่าวสารที่ไม่ถูกต้องให้รีบแก้ไขปัญหา และชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนและสังคมรับทราบโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือข่าวสารที่เป็นเท็จขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลเสียหายต่อประชาชนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน “ขอย้ำให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงการใช้เทคโนโลยีและการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะในโลกสังคมออนไลน์ต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างรู้เท่าทัน และมีการคิดวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเชื่อถือได้ ก่อนที่จะเชื่อและแชร์ทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบและความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่นรวมถึงสังคมในวงกว้าง ทั้งนี้ การแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จยังเป็นการกระทำผิดกฎหมาย โดยหากการแชร์ข้อมูลนั้นไปกระทบกับบุคคลอื่น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.
Jane Thanatcha
 •  2 ปีที่แล้ว
0 ความเห็น
ช่วยระบุหมวดหมู่ของข้อความนี้ให้หน่อย
เลือกให้น้อยที่สุด (ถ้าเป็นไปได้)

ยังไม่มีใครตอบ

เพิ่มความเห็นใหม่

กรุณา  เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก ก่อน

คุณอาจจะสนใจข้อความเหล่านี้ที่คล้ายคลึงกัน

  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดี-คอนแทค
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดี-คอนแทค ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: ดี-คอนแทค (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค แลบอราทอรี่ จำกัด (กรุงเทพมหานคร) (ใบอนุญาตที่ 10-1-15456) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 1/19 ซอยร่มเกล้า 11/1 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10510 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 10-1-15456-5-0001 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 127/2562 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเอ๊กซ์ไลท์
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเอ๊กซ์ไลท์ ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: เอ็กซ์ไลท์ (สารสกัดจากถั่วขาว ผสม แอล-คาร์นีทีน,สารสกัดจากชาเขียว และโครเม กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอฟ.ซี.พี. จำกัด (จ.ฉะเชิงเทรา) (ใบอนุญาตที่ 24-1-08040) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 45 หมู่ 4 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 24-1-08040-1-0210 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 418/2562 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฟิกเกอร์ พลัส
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฟิกเกอร์ พลัส ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ฟิกเกอร์ พลัส กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอฟ.ซี.พี. จำกัด (จ.ฉะเชิงเทรา) (ใบอนุญาตที่ 24-1-08040) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 45 หมู่ 4 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 24-1-08040-1-0167 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 418/2562 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคาร์นิทีน พลัส
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคาร์นิทีน พลัส ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: คาร์นิทีน พลัส (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแอล-คาร์นิทีน ผสมสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ฝรั่งเศส และโครเมียม) (เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนนูทรีมาสเตอร์) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอฟ.ซี.พี. จำกัด (จ.ฉะเชิงเทรา) (ใบอนุญาตที่ 24-1-08040) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 45 หมู่ 4 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 24-1-08040-1-0292 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 418/2562 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน
    วันนี้ (24 ธ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการโฆษณาทางสื่อโซเชียลเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มช่วยทำให้ดั้งโด่ง ภายใน 7 วัน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมหรือเซรั่มที่ระบุสรรพคุณว่า หากทาสามารถช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่มีครีมหรือเซรั่มใดที่ทาแล้วจะช่วยทำให้จมูกโด่ง ภายใน 7 วัน ได้จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายนอกเพื่อทำความสะอาด สวยงามแต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ โดยเภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ข้อมูลว่า โครงสร้างของจมูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ โครงสร้างส่วนด้านบนเป็นกระดูกแข็ง ด้านล่างเป็นกระดูกอ่อน โดยห่อหุ้มด้วยผิวหนังและไขมัน ดังนั้นครีมที่ทำให้ดั้งโด่งจึงไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระดูก ส่งผลให้จมูกโด่งอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับภายนอกร่างกายของมนุษย์ รวมถึงฟันและเยื่อบุในช่องปาก เพื่อความสะอาด ความสวยงาม แต่งกลิ่นหอมเท่านั้น ไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ใด ๆ ของร่างกายได้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางที่ทำให้ดั้งโด่งได้อย่างรวดเร็วภายใน 7 วัน ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการกล่าวอ้างสรรพคุณที่โกหก เพราะครีมหรือเซรั่มเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ภายนอกเท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ผลิตหรือขายผลิตภัณฑ์ที่หลอกลวงสรรพคุณให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ถือเป็นการโฆษณาที่แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือเกินความจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขอเตือนผู้บริโภคให้คิดก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ว่า ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกายได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th และหากพบเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงขอให้แจ้งร้องเรียนมาที่สายด่วน อย. 1556
    Hathaikan Inmaung
     •  2 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไนท์ไทม์ แมกซ์ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนนูทรีมาสเตอร์
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไนท์ไทม์ แมกซ์ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนนูทรีมาสเตอร์ ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไนท์ไทม์ แมกซ์ เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนนูทรีมาสเตอร์ กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นหลอกลวง เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 24-1-08040-1-0254 ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอฟ.ซี.พี. จำกัด (จ.ฉะเชิงเทรา) (ใบอนุญาตที่ 24-1-08040) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 45 หมู่ 4 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 418/2562 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    (ประกาศ)อันตรายสูงสุด มีผู้พยายามสร้างสงครามศาสนาในไทย (see-no-evil ) (newspaper)ข้อมูลข่าวสาร…ทางสื่อสังคมออนไลน์…ที่ออกมามากในช่วงหลัง … โดยเฉพาะ เกี่ยวกับศาสนาอิสลามนั้น…ส่วนใหญ่ไม่ตรงตามความเป็นจริง…หรือ เป็นข้อมูลเท็จ…ที่มีการเสริมเพิ่มความเท็จเข้าไปค่อนข้างมาก…มีลักษณะ…เป็นการนำเข้าข้อมูล…และ…เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ…ผ่านระบบคอมพิวเตอร์…ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมาย…ผู้ที่ส่งต่อข้อมูลต่างๆดังกล่าว ย่อมจะมีความผิดไปด้วย…จึงต้องระวังในการส่งต่อให้มาก ~ เช่น ข้อมูลเท็จที่ว่า… รัฐบาลชุดปัจจุบัน …ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี …ได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างมัสยิด และมัสยิดกลางประจำจังหวัด…จำนวนหลายแห่ง ตลอดจนตั้งเงินเดือนโต๊ะอิหม่าม เดือนละ 18,000 บาท และ คณะกรรมการประจำมัสยิดมีเงินเดือนทุกคน นั้น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงว่า ข่าวสารดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเรื่องเท็จ และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงขอให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อประชาชนทุกคนจะได้ทราบความจริง ดังนี้ 1.มัสยิดกลางประจำจังหวัด…ที่กล่าวอ้างถึงในสื่อสังคมออนไลน์ข้างต้น มีข้อเท็จจริง ดังนี้ 1.1 มัสยิดกลาง…ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช …ก่อสร้างด้วยงบประมาณแผ่นดิน จำนวน 104 ล้านบาทเศษ แต่เป็นโครงการที่ผูกพันมาจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น (พ.ศ.2555) มิใช่ รัฐบาลในปัจจุบัน โดยเป็นงบผูกพัน 3 ปี พ.ศ.2557-2559 ซึ่งมอบหมายให้กรมการปกครอง เป็นหน่วยขอรับงบประมาณ และโอนจัดสรรให้แก่ จ.นครศรีธรรมราช มิได้เป็นการอนุมัติของ ครม.ชุดปัจจุบันแต่อย่างใด 1.2 มัสยิดกลางประจำจังหวัดนนทบุรี …เป็นการก่อสร้างอาคารศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม…จังหวัดนนทบุรี …ซึ่งก่อสร้างด้วยงบประมาณ…ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จำนวน 85 ล้านบาท …มิได้เกิดจากการอนุมัติของ ครม.ชุดปัจจุบัน 1.3 มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี …จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา เป็นมัสยิดกลาง…ที่มีมาแต่ดั้งเดิมแล้ว บางแห่งสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2424 พ.ศ.2468 และ พ.ศ.2497 โดยเงินส่วนใหญ่…ที่ใช้ในการก่อสร้าง…ก็มาจากเงินบริจาคของประชาชนในพื้นที่ …แต่อาจมีการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลในขณะนั้นบ้าง …ตามนโยบายด้านความมั่นคง …มิใช่การก่อสร้างขึ้นใหม่แต่อย่างใด… ซึ่งรัฐบาลในยุคต่อๆ มา (หลายรัฐบาล) ได้จัดสรรงบประมาณ…เพื่อการบูรณะและต่อเติมให้มีความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย…ต่อชาวไทยมุสลิม…ที่มาประกอบกิจกรรมทางศาสนา …ซึ่งใช้งบประมาณจำนวน 22 ล้านบาทบ้าง 28 ล้านบาทบ้าง สูงสุดประมาณ 35 ล้านบาทเท่านั้น มิใช่ เป็นเงินจำนวนมาก ที่กล่าวอ้างโจมตี 1.4 มัสยิดกลางประจำจังหวัดภูเก็ต …มีจุดประสงค์ให้เป็นศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามจังหวัดภูเก็ต…และศูนย์พัฒนาอาหารฮาลาล …ไม่ใช่อาคารมัสยิดกลางประจำจังหวัด …ก่อสร้างโดยงบประมาณขององค์ปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ต …และเงินบริจาคของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต …จำนวน 250 ล้านบาทเศษ…มิใช่ งบประมาณจากรัฐบาล 1.5 สำหรับจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด และ จังหวัดบึงกาฬ ยังไม่มีมัสยิดกลาง จะมีเฉพาะมัสยิดทั่วๆ ไป ซึ่งมาจากเงินบริจาคของประชาชนเท่านั้น 2. เนื่องจากผู้นำศาสนาอิสลาม…มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 ในการดูแลพี่น้องชาวไทยมุสลิมในเรื่องต่างๆ เช่น การจัดทำทะเบียนสัปปุรุษ การสอนหลักธรรมศาสนาให้สัปปุรุษ การออกหนังสือรับรองการสมรสตามหลักศาสนา การจัดกิจกรรมทางศาสนา และการประนีประนอมข้อพิพาท ว่าด้วยครอบครัวและมรดกตามหลักศาสนา ดังนั้น รัฐจึงได้กำหนดให้ผู้นำทางศาสนาบางตำแหน่ง…ได้รับเงินค่าตอบแทนมาตั้งแต่ พ.ศ.2539 ซึ่งก็ได้มีการปรับปรุงค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจโดยปัจจุบัน 2.1 อิหม่าม ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 1,200 บาท 2.2 คอเต็บ และบิหลั่น เดือนละ 1,000 บาท 2.3 ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 1,900, 2,700 หรือ 3,500 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนมัสยิดในแต่ละจังหวัด 2.4 กรรมการอิสลามประจำจังหวัด และกรรมการอิสลามประจำมัสยิด ไม่มีค่าตอบแทนแต่อย่างใด 2.5 นอกจากนี้ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้รับค่าเบี้ยประชุมครั้งละ 1,100 บาท ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ.2547 อีกด้วย ~ อนึ่ง ได้ทราบว่า นายกฯประยุทธ์ ฯ ได้ชี้แจงว่า "ตนเองและภริยานั้น เป็นผู้นับถือศาสนาพุทธ 100% และ ห้อยพระตลอด ส่วนภริยาก็สวดมนต์ไหว้พระตลอด ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ตามการกล่าวหาในสื่อสังคมออนไลน์ ~ ดังนั้น ข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์…ในกรณีต่างๆดังกล่าว …จึงเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ…และบิดเบือนข้อเท็จจริง …เพื่อสร้างความขัดแย้งในสังคมไทย …ซึ่งเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม …อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้าใจผิดต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน …นอกจากนี้การกระทำดังกล่าว…ยังเป็นการนำเข้าข้อมูลและเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ…ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาอีกด้วย จึงเป็นสิ่งที่พวกเรา พึงต้องระวังการส่งต่อข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จด้วยนะครับ (Unity)(Unity)(Unity)(Unity)(Unity)
    ไม่ระบุชื่อ
     •  6 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กรีน คอฟฟี่ บีน พลัส
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กรีน คอฟฟี่ บีน พลัส ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: กรีน คอฟฟี่ บีน พลัส (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดจากส้มแขก ผสม สารสกัดจากพริกสารสกัดจากเมล็ดกาแฟไม่คั่ว สารสกัดจากพริกไทยดำ และโครเมียม) (เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนนูทรีมาสเตอร์) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท เอฟ.ซี.พี. จำกัด (จ.ฉะเชิงเทรา) (ใบอนุญาตที่ 24-1-08040) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 45 หมู่ 4 ตำบลคลองอุดมชลจร อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 24-1-08040-1-0311 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 418/2562 ลงวันที่ 2 กันยายน 2562 อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    อย. ยกเลิก เลขสารบบอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อะโทมี่ ฮงซัมตัน โคเรียน เรด จินเซ็ง สเบียรเคิล แกรนูล (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผงโสมและสารสกัดโสม)
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เพิกถอนเลขสารบบอาหารของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อะโทมี่ ฮงซัมตัน โคเรียน เรด จินเซ็ง สเบียรเคิล แกรนูล (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผงโสมและสารสกัดโสม) ในช่วงปี พ.ศ.2562 ข้อมูลนี้ส่งถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เพื่อเผยแพร่ต่อประชาชน มีรายละเอียด ดังนี้ ชื่ออาหารบนฉลาก: อะโทมี่ ฮงซัมดัน โคเรียน เรด จินเซ็ง สเปียรเคิล แกรนูล ( ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผงโสมและสารสกัดโสม) กรณีความผิด/สาเหตุที่ต้องยกเลิก: โฆษณาแสดงสรรพคุณ คุณประโยชน์ของอาหาร โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสามารถรักษาโรคได้ เข้าข่ายอันเป็นเท็จหรือเป็นการหลอกลวง ข้อมูลสถานประกอบการ: บริษัท อะโทมี่ จำกัด (กรุงเทพมหานคร) (ใบอนุญาตที่ 10-3-06260) ที่ตั้งสถานประกอบการ: บ้านเลขที่ 1550 อาคารธนภูมิ ชั้น 23/บี 1 ซอย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10400 เลขสารบบอาหารที่ถูกยกเลิก: 10-3-06260-5-0011 คำสั่งยกเลิก เลขสารบบอาหาร/ลงวันที่: คำสั่ง อย. ที่ 243/2562 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2562อ้างอิงจากเอกสารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา: https://drive.google.com/open?id=1dZAqXAtvIHw1UPBlLaol19JLC2balkgT
    naruemonjoy
     •  5 ปีที่แล้ว
    meter: false
  • 1 คนสงสัย
    แชร์ค่ะ...! แถลงการณ์กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม คัดค้านการกระทำขององค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ในการเปลี่ยนแปลงเพลงประจำมหาวิทยาลัย ตามที่องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้เสนอเปลี่ยนแปลงเพลงประจำมหาวิทยาลัยจากเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง เป็นเพลงมอญดูดาว ในการทำกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยอมธ. โดยให้เหตุผลว่ามีเนื้อหาตรงกับเจตนารมณ์ของการก่อตั้งมหาวิทยาลัยมากกว่า พร้อมทั้งนำเสนอผลการสำรวจความเห็นจากผู้ตอบแบบสำรวจ นั้น กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรมขอคัดค้านข้อเสนอดังกล่าว โดยมีหลักการและเหตุผลดังต่อไปนี้ 1. การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักการประชาธิปไตยและหลักการสันติประชาธรรม อันเป็นหัวใจหลักของชาวธรรมศาสตร์ทั้งหลายทั้งมวล แม้นผู้กระทำจะอ้างผลการสำรวจซึ่งมิทราบที่มาที่ไปและขาดหลักการตามระเบียบวิธีทางสถิติที่ถูกต้องมาสนับสนุน อมธ.จะต้องสำนึกว่าเป็นเพียงกลุ่มคนที่ได้รับการคัดเลือกจากนักศึกษาปัจจุบัน แม้จะมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและดำเนินกิจกรรม อมธ.ก็ต้องเคารพสิทธิของผู้อื่น ซึ่งได้แก่ประชาคมธรรมศาสตร์ทั้งมวล ที่มีจำนวนหลายแสนคน การอ้างผลสำรวจจากกลุ่มคนเพียง ๕,๐๐๐ กว่าคน มิได้เป็นการเคารพสิทธิของผู้อื่น เป็นการดำเนินการตามหลักคณาธิปไตยที่พวกท่านต่อต้านเสียเอง การพยายามสร้างกระแสการเปลี่ยนแปลงโดยไม่เข้าใจบริบทที่แท้จริง ไม่เคารพสังคมและประชาคม ย่อมนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธาและเกิดกระแสต่อต้านจากสังคมทั่วไป ทำให้ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเสียหายและเป็นที่ดูหมิ่นดูแคลนจากสังคม ดังนั้นอมธ. จึงควรใช้สติและปัญญาอย่างรอบคอบ ปลอดจากการถูกครอบงำทางความคิด เพื่อให้สมกับฐานะที่ยกตนเองเป็นปัญญาชน สร้างหรือแสวงหาการเปลี่ยนแปลงที่ดีในหลักการ “เข้าใจ เคารพ สงบสุข” 2. ผู้ดำเนินการขาดความรู้ความเข้าใจในประวัติความเป็นมาของเพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองอันเป็นที่รักและภาคภูมิใจของชาวธรรมศาสตร์ ทั้งนี้ เพลงพระราชนิพนธ์ยูงทอง เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๓๖ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงประพันธ์ทำนองและพระราชทานให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ ในคราวเสด็จมาทรงดนตรีที่หอประชุมธรรมศาสตร์และทรงปลูกต้นยูงทองจำนวน ๕ ต้นในคราวเดียวกัน ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่มีนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เข้าเฝ้าและขอพระราชทานเพลงเพื่อแทนเพลงมอญดูดาวที่ประพันธ์โดยขุนวิจิตรมาตรา ในคราวที่เสด็จทรงดนตรีที่สวนอัมพรในปี ๒๕๐๔ ผู้ประพันธ์เนื้อเพลงยูงทองคือนายจรัญ บุณยรัตนพันธุ์ ซึ่งได้ประพันธ์ตามแนวที่มรว.เสนีย์ ปราโมช อดีตเสรีไทยที่มีความใกล้ชิดกับท่านผู้ประศาสน์การณ์ปรีดี พนมยงค์ และผู้นำคณะราษฎร์แนะนำให้ ดังนั้นเนื้อหาเพลงจึงกล่าวถึงสถานที่ที่สงบร่มเย็น มีธรรมจักรเป็นสัญลักษณ์ มีพระธรรมสถิตย์เพื่อรักสามัคคี รักความเป็นธรรม ดั่งเช่นอุดมการณ์ของท่านผู้ประศาสน์การณ์ เพลงพระราชนิพนธ์ยูงทองจึงถูกนำมาขับร้องในทุกครั้งก่อนที่จะมีการเริ่มกิจกรรมของชาวธรรมศาสตร์ เพื่อความสามัคคีและเป็นสิริมงคลแก่ชาวธรรมศาสตร์ทั้งมวล ฉะนั้นการกล่าวอ้างถึงเนื้อหาความเหมาะสมกว่าของเพลงมอญดูดาวจึงนับว่าเป็นการขาดการศึกษาอย่างถ่องแท้ ไม่สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ได้ นับเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ดีเพลงมอญดูดาวเป็นเพลงที่มีคุณค่าต่อจิตใจของชาวธรรมศาสตร์เช่นกันเพราะเนื้อหาระบุถึงความเป็นไทย รักชาติไทย บูชาไทย อีกทั้งมีทำนองเพลงไทยเดิม ซึ่งเป็นการอนุรักษณ์วัฒนธรรมที่ดีของชาวไทยไว้ 3. จากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้น่าเชื่อได้ว่าผู้กระทำต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยมีเจตนาที่จะทำลายความศรัทธา ทำลายสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของสังคมไทยในทุกๆ ภาคส่วนอย่างเป็นกระบวนการ ดังจะเห็นได้จากการบิดเบือนหลักฐานข้อมูลประวัติศาสตร์ วิทยานิพนธ์อัปยศ การให้ร้ายสถาบันต่างๆ การสร้างความแตกแยกทางสังคม สร้างความแตกแยกทางศาสนา มีขบวนการที่ดำเนินการในทุกระดับโดยมุ่งเป้าหมายไปยังเยาวชนคนรุ่นใหม่ สถาบันการศึกษาต่างๆ ถูกแทรกซึมด้วยบุคลากรและนักวิชาการที่มุ่งร้ายต่อประเทศ เข้าข่ายล้มล้างสถาบันและทำลายชาติบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง พยายามยกเลิกเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์ที่เป็นที่เคารพนับถือ ปลูกฝังความคิดและอุดมการณ์ที่เป็นผลร้ายต่ออนาคตของประเทศไทย โดยอ้างประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพแบบผิดๆ เป็นหน้าที่ที่ประชาชนคนไทยทุกคนต้องรู้เท่าทันและช่วยกันต่อต้านความเลวร้ายนี้ ดังนั้นกลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรมจึงไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว และขอเรียกร้องให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วน โปรดทำความเข้าใจ ดูแลการจัดกิจกรรมของนักศึกษาให้มีเสรีภาพอย่างถูกต้อง ไม่ละเมิดต่อจิตวิญญาณและความรู้สึกของประชาคมธรรมศาสตร์และสังคมโดยรวม อีกทั้งต้องรักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและบริหารจัดการให้เกิดความก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบไป จึงจักเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เหมาะสมและรับผิดชอบตามที่ประชาคมได้มอบหมายต่อท่าน กลุ่มธรรมศาสตร์พิทักษ์ธรรม ๗ กรกฏาคม ๒๕๖๕
    ไม่ระบุชื่อ
     •  3 ปีที่แล้ว
    meter: false